จักรวาลเสี่ยวหมี่ mi[/url][/i] หนักเกินโต้งแค่จีน ไม่ได้มีแค่มือถือกับเครื่องฟอกอากาศ จนถึง 5-6 ปีที่แล้ว ตราเสี่ยวหมี่เจียนจะไม่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากนัก ยิ่งไปว่านั้นแฟนคลับเสี่ยวหมี่ที่มีอยู่ในวงแคบๆ ในตำแหน่งตราสมาร์ทโฟนเครื่องหิ้วจากจีน พร้อมด้วยตราสมาร์ทโฟนที่หาจับจ่ายในสยามได้ในโดยเจาะจงบางรุ่นในโอกาสออนไลน์แต่
ตราบใด 2-3 ปีที่ล่วงเลยมาแล้ว เสี่ยวหมี่รุกท้องตลาดอย่างจริงจังอีกครั้ง ตัดผ่านการงัดช็อปนำสินค้ามาจัดจำหน่ายมากรุ่น ครบครันการตลาดที่มากมายลอดตัวแแข็งแรงจำหน่าย ทำให้คนไทยรู้จักแบรนด์เสี่ยวหมี่มากขึ้นในฐานะยี่ห้อสมาร์ทโฟนค่าเล็กสเปกใหญ่ที่หาซื้อได้ไม่ยุ่งยากนัก ด้วยกัน Smart Watch สนนราคากระเหม็ดกระแหม่
เมื่อ 1-2 ปีที่ทะลุทะลวงมาช่วง PM2.5 มาแรง คนไทยระดับแมสรู้จักเสี่ยวหมี่ยิ่งกว่าเดิมในฐานะแบรนด์เครื่องฟอกอากาศที่ค่าไม่แรงที่กรอง PM2.5 ได้ พร้อมด้วยยังรอบรู้ควบคุมอาชีพผ่านโทรศัพท์มือถือที่เราเรียกกันเก๋ๆ ว่า IoT หรือ Internet of Thing ได้สำหรับ
- อย่างเดียวอันที่จริงแล้วเสี่ยวหมี่มียิ่งกว่านั้นโดยเฉพาะหลังๆ นี้เสี่ยวหมี่ได้ออกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกงการงกับ IoT ด้วยกัน Lifestyle มากมาย ทั้งหม้อหุงข้าว, สมาร์ททีวี, โน้ตบุ๊ก, จอคอมพิวเตอร์, ร้อยกรองประตูอัจฉริยะ, เครื่องเคราซักผ้า, เจลซักผ้า, ตู้เย็น, ปลั๊กไฟ IoT, ร่มพับเองได้, หลอดกาแฟไฟ, สกูตเตอร์ไฟฟ้า, ลู่เดิน, ตู้เลี้ยงปลา, ไดร์เป่าผม, เครื่องชั่งความหนักเบา, หูฟัง, เว็บแคมรุ่นใหม่ๆ แม้นกระทั่งกางเกงใน บ้านต้นแบบบนดาวอังคาร และยังมีอื่นๆ อีกมากมายที่เราบรรยายได้ไม่หมด พร้อมด้วยเสี่ยวหมี่ยังได้พาสินค้าแง่มุมนี้เดินทางออกไปทำท้องตลาดนอกจีนในอีกมากมายดินแดน จนในวันนี้ผลประกอบการข้าวของเครื่องใช้เสี่ยวหมี่มากกว่า 43% มาจากประเทศแหวกแนวๆ ที่นอกทิศเหนือจากจีน กับยังเป็นรายได้ที่เติบโตอย่างไม่ขาดไส้ศึกรายปี
ส่วนในสาธารณรัฐประชาชนจีนเสี่ยวหมี่ถือเป็นตราที่คนจีนให้การปล่อยวางรับในฐานะแบรนด์สินค้านวัตกรรมที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว้าวได้ตลอดเวลา จนในปีที่พ้นมาเสี่ยวหมี่ได้กลายเป็นกองกลางอายุน้อยยิ่งใน Fortune Global 500 จากอายุบริษัทแค่ 9 ปีเฉพาะ พร้อมกับจุดเริ่มแรกข้าวของเครื่องใช้เสี่ยวหมี่ทำไมได้เกิดจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนพร้อมกับผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ได้เงินเสด้วย เฉพาะเป็นเพียงบริษัทที่พัฒนา ROM ที่อยู่ในเครื่องสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ ที่ชื่อว่า MiUi ที่อ่านออกสิ้นบุญงได้ว่า “Me You I” ทั้งหมดนี้มาจากการวางหมากธุรกิจที่น่าสนใจเครื่องใช้ Lei Jun และ ด้วยว่านอีก 7 คนที่เป็นต้นกำเนิดแบรนด์
เสี่ยวหมี่ ตราเสี่ยวหมี่ เป็นตราที่เนรมิต ติดตั้งในปี 2553 เพราะว่า Lei Jun โบราณกาล CEO กงสีพัฒนาชอฟต์แวร์ในประเทศจีนที่ชื่อว่า KingSoft คุณ Lei Jun ได้ลาออกจาก KingSoft ด้วยออกเป็น Startup ทำธุรกิจของใช้ตัวเองในธุรกิจเว็บขายหนังสือออนไลน์ที่ชื่อ Joyo.com และได้ถูก Amazon.com เข้ามาสู่ซื้อธุรกิจต่อหลังเจอะความบรรลุผล
- ราคาพร้อมด้วยสเปกเสี่ยวหมี่เพราะว่าสเปกสมาร์ทโฟนเสี่ยวหมี่จะเป็นสเปกที่สูงกว่าสมาร์ทโฟนตราอื่นๆ ในดีกรีสนนราคาเดียวกัน จากการมองพิศคนจีนส่วนมากข้าวของประเทศยังมีกำลังซื้อที่ไม่ท่วมท้นนัก การที่เสี่ยวหมี่เป็นได้ขายสมาร์ทโฟนในสเปกสูงสนนราคาต่ำได้ มาจาก Lei Jun ได้ลดต้นทุนในด้านแตกต่างๆ เพื่อที่จะให้ธุรกิจสมาร์ทโฟนเสี่ยวหมี่อยู่ได้สมมติว่ามีมาร์จิ้นหรือทุนต่อหน่วยที่ต่ำก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุนการขาย
ในเวลาแรกของใช้ธุรกิจจัดจำหน่ายทะลุลู่ทางออนไลน์ เกี่ยวกับลดต้นทุนสิ่งผลิตภัณฑ์ในการกระจายไปยังหน้าร้านและการสต๊อกผลิตภัณฑ์ในร้าน พร้อมด้วยการขายออนไลน์ยังเป็นหนทางที่ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนเป็นได้ซื้อสมาร์ทโฟนเสี่ยวหมี่ได้สะดวก แม้นจะอยู่ในแคว้นห่างไกลก็ตาม ขอเพียงให้ขอบข่ายนั้นมีอินเทอร์เน็ตเพื่อให้เข้าไปสั่งซื้อก็ครบแล้ว
ในปี 2556-2557 กิจธุระสมาร์ทโฟนเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่พบเห็นความสำเร็จอย่างยิ่งในประเทศจีน จากการเติบโตก้าวกระโดดอย่างทันที แค่นั้นในปี 2558 กลับกลายเป็นปีที่เสี่ยวหมี่เริ่มพบกับความท้าทายสิ่งตลาดประเทศจีนที่มีการเติบโตอย่างช้าลงพร้อมกับมียอดขายเสียที่สันนิษฐานไว้ Lei Jun จึงบุกเบิกมองหาตลาดใหม่ๆ ให้กับธุรกิจสมาร์ทโฟนที่นอกเหนือจากประเทศจีน โดยตัดเส้นไปที่ประเทศที่มีจำนวนพลเมืองสูง แต่มีรายได้ต่อประชากรไม่สูงนัก ด้วยกันยังเป็นตลาดที่มีความปรารถนาสมาร์ทโฟนสูง เหมือนกับ อินเดีย ดำเนินงานนที่จะงอกงามไปยังบ้านเมืองอื่นๆ
การย่างเหยียบทำการทำงานในอินเดียสิ่งเสี่ยวหมี่ พร้อมด้วยเคล็ดลับสมาร์ทโฟนสเปกสูงมูลค่าต่ำ ถือเป็นการปลงใจที่ถูกต้องของ Lei Jun เพราะว่าประเทศอินเดียได้สร้างการเติบโตให้กับเสี่ยวหมี่อีกครั้ง พร้อมทั้งเป็นประเทศที่ตลาดสมาร์ทโฟนเสี่ยวหมี่แซงหน้ายี่ห้อซัมซุงผู้ที่เคยครองอันดับหนึ่งในตลาดสมาร์ทโฟนมาดำเนินการนครั้งแรกในไตรมาส 3 ปี 2561 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 27% และซัมซุง 23% ส่วนไตรมาส 3 ปี 2562 เสี่ยวหมี่ยังคงครองจำนวนตลาดสมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งในบ้านเมืองอินเดียด้วยส่วนแบ่งตลาด 26% จากการเข้ามาบุกท้องตลาดสมาร์ทโฟนยี่ห้อจีนอื่นๆ ดุจดัง วีโว่ ออปโป้ เรียลมี ชนิดซัมซุงยังคงเป็นอันดับสอง ขนาดนั้นมากเกินส่วนแบ่งตลาดแค่ 20% แต่
Tags : เสี่ยวหมี่,xiaomi,mi