แจกของฟรี

วันนี้เราจะมาแนะเครื่องสำอาง innisfree สินค้าเครื่องสำอางตัวฮิตของสาวๆ ทั้งเกาหลีและไทย ซึ่งมีเครื่องสำอางหลายหลากหลายชนิดซึ่งเราหยิบมาแนะนำกันในวันนี้ เดี๋ยวเราลองมามอยกเลิกูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีสินค้าตัวใดบ้าง

1.Green Tea Seed Serum
ตัวนี้น่าจะเป็นตัวเด่นสุดในไลน์ชาเขียวเลยค่ะ เป็นตัวแรกที่เราพุ่งเข้าไปหยิบแบบไม่ลังเล แบรนด์นี้ประเด็นดีอีกอย่างน่าจะเป็นที่กลิ่นค่ะ หอมมาก หอมแบบธรรชาติหน่อย ตัวเซรั่มทาปุ๊บซึมซาบปั๊บ ไม่ทิ้งร่องรอยให้รู้สึกเหนอะหนะเลยค่ะ ตัวนี้เราใช้ทั้งกลางวันกับกลางคืนเลย รู้สึกเสมอเหน้ำมือนผิวหน้าได้รับการถนอม นุ่มขึ้น หน้ามันน้อยลง ปลื้มแบบไม่รู้จะปลื้มยังไง

2.Green Tea Balancing Skin
ตัวนี้คือโอยู่ยืดเนอร์นะคะ ชื่นชมอีกแล้วค่ะคุณผู้ชม หลัก ๆ เลยชมชอบเพราะมันใช้ตบให้แทรกซึมเข้าหน้า ไม่ต้องใช้สำลีเช็ด (สวรรค์ของคนขี้งกพร้อมกับขี้เกียจเลยค่ะ) แถมยังใช้ในปริมาณน้อยมากด้วยค่ะ เท่าเทียมข้างกล่องจะให้ใช้ 1-2 หยด แค่นั้นเราหน้าใหญ่ค่ะ จัดไป 4-5 หยด

3.Green Tea Balancing Lotion
ตัวนี้เราใช้เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์เพื่อให้ตอนกลางวันค่ะ เนื้อเบามาก เปรียบเสน้ำมือนไม่ไหวทาอะไรเลย กลิ่นก็เสมอเหมือนเดิมตามสไตล์ทั้งไลน์ค่ะ จริง ๆ ปลื้มตัวนี้เหมือนกับกันนะ เฉพาะแอบหักตรงแพคเกจจิ้งนิดนึง ตรงปากขวดใหญ่ไปหน่อย เทต่ำกว่าอาจทะลักค่ะ



4.Green Tea Seed Deep Cream
ตัวนี้สารภาพว่าหยิบมาแบบไม่มุ่งมั่นค่ะ อย่างที่บอกว่าเราหน้ามัน จริง ๆ ตัวนี้ไม่เหมาะกับเรากี่มากน้อย อย่างเดียวเราไม่เห็นครีมตัวอื่นจากไลน์นี้แล้วในร้าน ก็เลยตกลงใจหยิบมาค่ะ (แล้วก็มาตระหนักถึงความไม่เข้ากันกับผิวตอนจะกลับที่อยู่อาศัยค่ะ เลยวนกลับไปที่ร้านเพื่อสอยโลชั่นเมื่อกี้มากันเสียพนัน) ตัวนี้เราเลยใช้เป็นไนท์ครีมค่ะ กลายเป็นว่าเวิร์คมาก ด้วยเหตุว่านอนห้องแอร์ขนาดนั้นไม่เคยถนอมดี ๆ กับเค้าเลย พอลองใช้ตัวนี้เห็นผลเลยค่ะ ตื่นเช้ามาหน้าไม่แห้ง ผิวเห็นนุ่ม ๆ แบบได้รับการปรับมาทั้งคืน อย่างเดียวที่ให้คะแนนน้อยหน่อยเพราะตัวนี้เราใช้ที่อื่นหนักเกินเลยค่ะ ทาปุ๊บต้องเข้าห้องแอร์ปั๊บไม่งั้นเน้ำมือกค่ะ
ถัดไปยังคงอยู่กับสกินแคร์ค่ะ เพราะว่าความปลื้มปริ่มกับผลลัพธ์ที่ได้จากเซ็ทแรกที่ใกล้จะหมด เราเลยออกตามล่าหาเซ็ทสอง ช่วงนี้เรารู้สึกว่าหน้าหมองคล้ำกว่าปกติ เลยอลำบากพลิกไปทดลองใช้ไลน์อื่นที่เอาใจช่วยเน้นในด้านขาวใสกระจ่างโดยเฉพาะ จนไปเจอกับ Whitening Pore กับ White Tone Up ค่ะเริ่มที่สองหน่อจาก Whitening Pore ไลน์นี้มีสารสกัดจากเปลือกส้ม เน้นเรื่องราวความขาวเปล่งปลั่ง กระจ่าง พร้อมด้วยเล็กรูขุมขน
 
5. Whitening Pore Facial Cleanser
ด้วยความอยากขาวเลยหน้ามืดตามัวคว้ามาค่ะ เนื้อโฟมเป็นเหน้ำมือนโคลนสีขาว มีเม็ดบีดส์สีส้มแทรกอยู่ด้วย กลิ่นหอมมากกก (อีกแล้ว) ใช้แล้วไม่แห้งตึง เรื่องความเปล่งปลั่ง กระจ่างกับรูขุมขนเราว่าเฉย ๆ ตัวนี้คงไม่ซื้อต่อ (มอหยุดูจากปปลายาณแล้วก็คงไม่ได้ซื้อโฟมล้างหน้าไปอีกปีกว่า)



6. Whitening Pore Synergy Serum
ตัวนี้เป็นการผสมกันระหว่าง ampoule + เซรั่มเพื่อเพิ่มศักยภาพ ตอนแรกเรากั๊กตัวนี้ไว้จัดทำน แต่ตัวเซรั่มชาเขียวใกล้หมด แล้วเราอลำบากสลับใช้ให้ชินกับหน้ากระทำน ไม่อยุ่งยากเปลี่ยนไลน์ปุบปับเลยเริ่มเอามาใช้ พอใช้ตัวนี้ถึงเริ่มเห็นผลเรื่องราวความเปล่งปลั่ง กระจ่างชัดมากกกกกก ตอนแรกหน้าเราหมองคล้ำมาก พอได้ตัวนี้มา โอ้มายก้อด ใช้ไปราวๆเกือบสองอาทิตย์มั้ง เห้ยยยย มาอะ ขาวมา กระจ่างมา เรื่องรูขุมขนยังเฉย ๆ นะ ขนาดนั้นไม่ซีเรียสจุดนั้นเท่าใด



7. White Tone Up Cream
ถึงแม้ว่าถามว่าตัวนี้อะไรเด่นสุด เราขอบอกว่าคือกลิ่นค่ะ โอ้โห เตะจมูกมาก แรก ๆ เราก็ว่าหอมดี หลัง ๆ เริ่มไม่ค่อยนิยมชมชอบค่ะ 5555 มันไม่เบอร์รี่เท่าไหร่ในความรู้สึกเรา บอกไม่ถูกอะ มันแรงเกินไปด้วยแหละ ตัวนี้เป็นเนื้อเจลขุ่น ๆ ทาแล้วไม่หนักค่ะ ซึมรวดเร็วดี เรื่องราวขาวไม่แน่ใจค่ะ ตัวนี้ใช้พร้อมโฟม (จัดทำนเริ่มใช้เซรั่ม) เลยไม่แน่แก่ใจว่าเพราะยังใช้ไม่นานพอรึเปล่าเลยเพิ่งมาเห็นผลตอนเริ่มใช้เซรั่ม
มาถึงขั้นตอนบำรุงที่สำคัญเนื่อหยุดยั้ง้วยสาวประเทศไทยกันบ้าง ครีมกันแดดนั่นเอง ตัวนี้มีสารสกัดจากชาเขียวด้วยกันน้ำมันดอกทานตะวันค่ะ



8. Eco No Sebum Sunblock SPF35 PA+++
กันแดดเนื้อสีชมพูแลดูเหลวนิดหน่อย ต้องปาดด้วยความว่องไวนิดนึง ทาแล้วหน้าใสกระจ่างขึ้นหนึ่งระดับ ขอบอกเลยว่าถึงแม้ว่าอินนิสฟรีบอกว่าคุมมัน (no sebum) ก็คือคุมมันจริง ๆ ค่ะ เพียงนั้นเราว่าแอบร่วงโรยไปหน่อยเกี่ยวกับเรา ตัวนี้ต้องล้าติดขัดี ๆ ด้วยค่ะ ไม่งั้นอุดตันแน่แท้ โดยรวมแล้วไม่ค่อยปลื้มนะ อยุ่งยากทดลองสูตรอื่นที่ไม่คุมมัน ไม่แน่อาจจะโอเคกว่าตัวนี้ ถัดไปก็ถือว่าเป็นสกินแคร์เท่าเทียมกันค่ะ แค่นั้นจากบำรุงหน้า หันมาบำรุงชอบพอษามือกันบ้าง
 
9. Olive Real Moisture Hand Cream
กลิ่นหอมมากค่ะ เราดมแล้วนึกถืงมะนาว เลมอน สายลับ ๆ นั้น เนื้อครีมไม่เหนอะเลยค่ะ ทาแล้วซึมเลย ซึ่งเราชื่นชอบมาก มีช่วงนึงมือเหือดแห้งมาก เพียงนั้นไม่นิยมชมชอบทาแฮนด์ครีมเพราะมันชอบเหนอะจนทำอะไรไม่ได้ เจอตัวนี้ชอบพอเลยค่ะ

มามองในฝั่งเมคอัพกันค่ะ แพคเกจจิ้งคงจะจะสังเกตเรียบไปหน่อย ขนาดนั้นสีสินค้ากับการจัดติดตั้งในร้านทำให้ตรวจดูน่าเล่นมากค่ะ เราเลยได้ติดไม้ติดกรกลับมาตลอด



10. Eco Fruit Tint No. 1 Cherry
สิ่งของที่ได้ใจเราไปคือกลิ่นอีกแล้ว กลิ่นคล้ายยาแก้ไขไอน้ำสมัยเด็ก (นั่นคือหอมแล้วใช่ไหม?)  ตัวนี้เป็นทิ้นท์น้ำ ติดทนก็ดีแหละมั้ง ดีเป็นบางจุดอะ คือสนับสนุนติดทั้งปากได้ไหม ฮือออ สีนางสวย เท่านั้นนางก็งั้น ๆ เอาไว้เติมระหว่างวัน เอาไว้กันสิ้น เอาไว้ทาเล่นอยู่ที่อาศัย
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : Innisfree

Tags : เครื่องสำอาง Innisfree,เครื่องสำอาง Innisfree