แจกของฟรี

รับซื้อ ขาย G-SHOCK จีช็อค,เบบี้จี ให้ราคาตามจริง ตจว. Kerry,EMS กทม. ส่งด่วน ไลน์, มึงร็บของถึงรับเงิน

 
รับซื้อ ขาย จีช็อค,เบบี้จี ให้ราคาตามจริง ตจว. Kerry,EMS กรุงเทพมหานคร ส่งด่วน ไลน์, แกร็บของถึงรับเงิน
facebook: https://www.facebook.com/KaiNaligaTry
เว็บไซต์ : https://www.gshockmuesong.com​
 

เจาะลึกประวัติศาสตร์ 35 ปี G-SHOCK การเดินทางสู่การบรรลุผลหนึ่งร้อยล้านเรือนทั้งโลก
ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดฉลองความสำเร็จของ ติดอยู่สิโอ แบรนด์นาฬิกายักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น เมื่อพวกเขาประกาศผ่านทางหน้าเว็บหลักอย่างเป็นทางการว่ามียอดขายนาฬิกา G-SHOCK ทะลุหลัก 100 ล้านเรือนทั่วโลกเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อยเมื่อสิงหาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาหลังวางจำหน่ายหนแรกในปี คริสต์ศักราช1983 และก็ในปีนี้ถือการเป็นครบรอบ 35 ปีของแบรนด์ด้วย
 
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของ G-SHOCK ทางบริษัทได้ตัดสินใจเลือกรุ่น MRG-G1000B-1A4 เป็นเรือนพิเศษด้วยการแกะสลักที่ฝาข้างหลังคำว่า “100,000,000” โดยผลิตในโรงงานยามางาตะ ญี่ปุ่น และก็รุ่นพิเศษนี้จะไม่ถูกออกวางจำหน่ายที่แหน่งใด
 
นอกจากนั้นในหน้าเว็บไซต์ของเว็บไซต์ G-SHOCK ยังได้เพิ่มหมวดใหม่ๆขึ้นมา ซึ่งโน่นรวมไปถึงไทม์ไลน์ของการออกแบบพัฒนาสิ่งใหม่รวมทั้งคุณสมบัติแนวทางต่างๆของ G-SHOCK ด้วย ไม่หมดแค่นั้น คาสิโอได้เผยแพร่บทความเจาะลึกของประวัติศาสตร์ G-SHOCK แบบละเอียดยิบ โดยในบทความนั้นจะเล่าราวในแต่ละช่วงของเรือนเวลา G-SHOCK
 
จากนาฬิกา G-SHOCK ต้นแบบสู่เรือนจริงที่จับต้องได้ (ปี 1981-1983)
นาฬิกา G-SHOCK เกิดขึ้นโดยวิศวกรชายหนุ่ม คิลุกโอะ อิเบะ หลังจากเขาได้ทำนาฬิกาที่ป๊ะป๋าซื้อให้ร่วงตกพื้นจนได้รับความทรุดโทรม จากนั้นมา อิเบะก็เสมือนได้รับแรงจูงใจที่จะคิดค้นและผลิตนาฬิกาที่ทนต่อทุกภาวะ โดยมีปณิธานว่า นาฬิกา G-SHOCK ควรมีคุณลักษณะ “Triple 10” คือ รองรับการกันชนจากที่สูงได้ถึง 10 เมตร กันน้ำในความดัน 10 Bar หรือที่ความลึก 100 เมตร แล้วก็แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ปี
 
เริ่มต้นดูเหมือนกับว่าความนึกคิดนี้ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร แต่ด้วยความตั้งใจจริง อิเบะใช้เวลาเกือบ 2 ปีสำหรับเพื่อการทดลองนาฬิกาต้นแบบมากกว่า 200 แบบ จนได้แนวคิดใหม่เป็นนาฬิกาที่มีส่วนประกอบเป็นชิ้นส่วนป้องกันกระเทือนอย่างยอดเยี่ยม และก็ในปี 1983 G-SHOCK ตัวแรกก็ได้เกิดขึ้น เป็นรุ่น DW-5000C โดยมีคุณลักษณะตรงจากที่อิเบะต้องการอยากจะให้เป็นหมายถึง“Triple 10” ทุกๆวันนี้ แนวความคิดดังที่ได้กล่าวมาแล้วยังคงเป็นคุณลักษณะเด่นของนาฬิกา G-SHOCK ที่ใช้เป็นแนวทางในการขยายตลาด
 
เริ่มต้นประเทศสหรัฐอเมริกา (ปี 1984-1990)
ในปี 1984 G-SHOCK ข้ามน้ำผ่านทะเลบุกดินแดนอเมริกาเพื่อหวังทำการตลาด โดยทางบริษัทได้นำเอานาฬิกา G-SHOCK รุ่น DW-5200C ใช้ตีแทนลูกพัคในเกมการแข่งขันกีฬาฮ็อกกี้เพื่อทดลองถึงความแข็งแกร่ง ผลสรุปที่ออกมาได้สร้างความแปลกใจให้กับผู้ชม เพราะว่ามันแทบจะไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่หน่อยเดียว เวลายังคงเดินตามปกติ และมีการทดลองอีกบ่อยผ่านทางรายการทีวีด้วยการสร้างสถานการณ์จำลอง ผลลัพธ์ก็ยังเป็นเหมือนเช่นเคย จึงทำให้ G-SHOCK ถูกชูว่าเป็นนาฬิกาที่ป้องกันกระแทกเจริญที่สุด
 
ทั้งยัง ขนาดไซส์ของตัวบ้านยังพอดีกับข้อมือของชาวอเมริกัน มันก็เลยได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะพนักงานดับเพลิง ตำรวจ และอีกหลายหลากสาขาอาชีพ รวมทั้งชนะใจชาวสเก็ตบอร์ดด้วย
 
ทำตลาดบ้านเกิดของตนเอง (ตอนต้นปี 1990)
 
พูดได้ว่าเป็นยุคขาขึ้นของแบรนด์ G-SHOCK เมื่อภาพสตรีทแฟชั่นจากอเมริกาเริ่มถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสารญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงๆช่วงเวลาเดียวกันกับที่คนประเทศญี่ปุ่นเริ่มหันมาสนใจแฟชั่น รวมไปถึงนาฬิกา G-SHOCK ด้วย ในตอนนั้น รุ่น DW-5900C มีจำหน่ายเฉพาะในต่างชาติ แม้กระนั้นก็มีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นอิมพอร์ทบางร้านค้าในประเทศญี่ปุ่นนำเข้ามาขายบ้าง แล้วก็มันก็ได้รับการตอบกลับที่ดีในกลุ่มวัยรุ่นที่รักการแต่งตัว ความนิยมชมชอบของ G-SHOCK ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะว่ามันยังลามไปถึงเหล่านักเล่นดนตรี-ศิลปินที่เป็นที่รู้จัก รวมทั้งในรูปภาพยนตร์แอคชั่นที่พวกเราได้มองเห็นดาราดังใส่นาฬิกา G-SHOCK แสดง ระหว่างที่บทความในแมกกาซีนได้นำนาฬิกา G-SHOCK รุ่นก่อนหน้าแต่ละรุ่นมาทำเป็นภาพกราฟฟิคเล่าถึงที่มาที่ไปพร้อมเนื้อหา
 
กระแสความชื่นชอบของนาฬิกา G-SHOCK เติบโตแบบก้าวกระโจน ดูได้จากจำนวนยอดขายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นจาก 10,000 เรือน ในปี 1990 มากขึ้นเป็น 70,000 เรือนในปี 1995 ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการยอมรับในตัวโปรดักส์ และ G-SHOCK ได้กลายเป็นนาฬิกาดิจิตอลเรือนแรกของกลุ่มวัยรุ่นที่ทุกคนต้องมี
 
ขยายไลน์อัพ / เข้าถึงแวดวงกีฬาและกลุ่มชนรุ่นใหม่ (ตอนกลางจนถึงท้ายปี 1990)
 
ค้างสิโอ มีเป้าหมายที่จะขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้ใส่ โดยในปี 1996 รุ่น MRG-1 ตัวแรกในตระกูล MRG ถูกนำออกมาวางขาย มีดีไซน์เหมาะกับเพศชายที่โตขึ้นมาหน่อย ต่อมา รุ่น MRG-100 ก็ทยอยสู่ตลาดในปีเดียวกัน โดยมีคุณสมบัติตัวบ้านที่ทำมาจากเหล็กและป้องการการสั่นกระเทือน ที่ตรงนี้เองที่ทำให้แบรนด์ G-Shock เข้าถึงได้ทุกวัย
 
ในวงการแฟชั่นสตรีท ทางติดอยู่สิโอก็ได้เพียรพยายามปรับปรุงโมเดลเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนที่ชอบใจกีฬา อาทิ นักสโนว์กระดานและนักเซิร์ฟ รวมทั้งสายดนตรีอย่างแฟนเพลงเร็กเก้ ดีเจ และก็ดินแดนเซอร์ ยิ่งไปกว่านี้พวกเขายัง Collaboration กับหน่วยงานป้องกันสภาพแวดล้อมและกลุ่มกีฬาต่างๆด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทอยากได้ส่งสารไปยังผู้คนเพื่อให้รับรู้ถึงหนทางแล้วก็เกิดเรื่องที่ G-SHOCK เพียงแค่นั้นที่ทำเป็น ในปี 1997 G-SHOCK มียอดจำหน่ายกว่า 6 ล้านเรือนทั่วทั้งโลก และก็อีก 2.4 ล้านเรือนในญี่ปุ่น พวกเขาเติบโตไปพร้อมๆกับการเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสังคมวัยรุ่น
ด้านหน้าที่ในสังคม G-SHOCK เป็นผู้สนับสนุนให้กับรายการการประลองกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกบางรายการ ได้แก่ บอลแล้วก็การแข่งขันเรือใบ เพื่อเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์รวมทั้งเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งโลก
 
คืนสู่สามัญ (ช่วงปลายปี 1990 จนถึงตอนปี 2000)
หลังขึ้นสู่จุดสุดยอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ บริษัท ค้างสิโอ ก็ถึงเวลาหนาวๆร้อนๆเมื่อยล้าอดขายนาฬิกา G-SHOCK เบาๆตกลง มูลเหตุเป็นเพราะเหตุว่าการร่วมงาน Collaboration ที่มากเกินความจำเป็น รวมทั้งโฟกัสการสร้างสัญลักษณ์ในกลุ่มตลาดแฟชั่นจนกระทั่งทอดทิ้งความเป็นตัวตน ซึ่งซึ่งก็คือ คุณลักษณะการกระตุกกระเทือน เมื่อเป็นแบบนั้น ค้างสิโอได้ตกลงใจคืนสู่สามัญ โดยเน้นย้ำพัฒนาในด้านฟังก์ชั่น ประสิทธิภาพการทำงาน แล้วก็ใส่เทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อเพิ่มค่าให้กับนาฬิกา อาทิเช่น รุ่น GW-300 (2002) มีระบบระเบียบที่ควบคุมด้วยคลื่นวิทยุและก็ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ รุ่น GW-9200 (2008) ที่สามารถปรับกำหนดเวลาอัตโนมัติโดยใช้คลื่นสัญญาณความถี่รับ-ส่งจากเสาสัญญาณซึ่งมีอยู่ 6 เสาทั่วโลก รวมทั้ง รุ่น GW-4000 (2012) ที่ทนต่อแรงที่ทำให้เกิดความเสียหาย 3 ชนิด เป็นต้นว่า แรงจากการตก การเขย่าขั้นร้ายแรง รวมทั้งแรงเหวี่ยงจากแรงโน้มถ่วงที่เกิดขึ้นมาจากการหมุน
 
ปรับปรุงของใหม่อย่างสม่ำเสมอ (เดี๋ยวนี้)
ปัจจุบันนี้ ค้างสิโอ ยังคงท้าความคิดเดิมๆของพวกเขา นั่นเป็นต่อยอดพัฒนาการให้ G-Shock แกร่งขึ้นกว่าเดิม การเพิ่ม Bluetooth 4.0 ในรุ่น GB-6900 (2012) สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เป็นการเพิ่มมูลค่าใหม่ๆให้กับนาฬิกาสำหรับใส่ข้อมือ หรือ GPW 1000 (2014) นาฬิกาเรือนแรกของโลกที่มาพร้อมด้วยเทคโนโลยี GPS Hybrid Wave Ceptor ซึ่งเก็บเอาความสามารถของ Multiband 6 เพื่อรับสัญญาณเทียบเวลามาตรฐานจากสถานีส่งสัญญาณหนึ่งในหกสถานีที่กระจัดกระจายอยู่ทั้งโลก และก็พ.ค. 2017 ก่อนหน้าที่ผ่านมา คาสิโอได้เปิดตัวรุ่น GPW-2000 ที่มาพร้อมเทคโนโลยี “Connected Engine 3-Way Module” ระบบเชื่อมต่อเวลาแบบ 3 ทาง ทั้งยัง ระบบ GPS, Hybrid Wave Ceptor รวมทั้ง สัญญาณ Bluetooth ที่สามารถแสดงเวลาได้อย่างเที่ยงตรงไม่ว่าจะอยู่สถานที่ใดในโลก ซึ่งอาจจะจำเป็นต้องกล่าวว่า ทางติดอยู่สิโอยังอาจมุ่งหน้าพัฒนาของใหม่ คุณภาพการทำงาน แล้วก็ฟังก์ชั่นใหม่ๆอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
 
มอบประสบการณ์ G-SHOCK เข้าถึงผู้คนทุกหนทุนแห่ง
นอกเหนือจากความเจริญก้าวหน้าในตัวโปรดักส์ ติดอยู่สิโอได้สร้างประสบการณ์ผ่านทางการตลาดด้วยการจัดกิจกรรม ‘Shock the World’ โดยมีการจัดงานขึ้นหนแรกตั้งแต่ปี 2008 โดยย้ำการร่วมงานกับแวดวงเพลงแล้วก็กีฬาซึ่งทั้งสองวงการมีความข้องเกี่ยวแนบแน่นกับแบรนด์ G-SHOCK ซึ่งกิจกรรมดังที่กล่าวมาแล้วจัดขึ้น 73 เมืองใหญ่ทั่วโลก พวกเขาต้องการที่จะให้แฟนๆของ G-SHOCK ได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ทุกโสตสัมผัสของนาฬิกา G-SHOCK
 
ไม่เพียงแต่การจัดกิจกรรมเท่านั้นที่แฟนๆของ G-SHOCK จะได้สัมผัสประสบการณ์สุดมันอย่างว่า เพราะทางคาสิโอเองก็ได้สร้างสถานที่ที่ให้ผู้คนสามารถเข้าถึงนาฬิกา G-SHOCK ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดสโตร์ G-SHOCK ที่แรกในปี 2003 ที่โอไดบะ (เมืองโตเกียว) สถานที่ที่เปรียบเสมือนความคิดเห็นของ G-SHOCK รวมทั้งพรีเซ็นท์ข้อมูลใหม่ๆบริการแก่ลูกค้าที่มาเยี่ยม ปัจจุบันมี G-SHOCK Store 6 ที่ในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งมะรุโนะอุชิแล้วก็รับประทานซ่า (สองเขตสำคัญในเมืองโตเกียว) แน่ๆว่ายังไม่นับสโตร์อีกทั่วทั้งโลกที่มีมากยิ่งกว่า 1,000 สาขาที่ขายนาฬิกา G-SHOCK จากผลตอบรับที่ดีดังกเงินล่าว ทำให้ G-SHOCK เปลี่ยนเป็นเส้นเลือดใหญ่และส่วนสำคัญที่รอหล่อเลี้ยงติดอยู่สิโอมาตลอดระยะเวลา 35 ปี
G-SHOCK: https://www.gshockmuesong.com​