CONVERSE จากรองเท้ากีฬา สู่ไอคอนคดีขบถข้าวของเครื่องใช้ชนอเมริกันที่ที่อยู่อาศัยคุณมีคอนเวิร์สสีอะไร? เชื่อว่าวัยรุ่นพร้อมทั้งอีกอเนกวัยในบ้านเราแตกต่างรู้จักดีกับ Converse รองเท้าผ้าใบสัญชาติอเมริกัน ยี่ห้ออายุร้อยกว่าปีนี้มีสตอรี่ข้นหลายหัวข้อที่เราไม่อซับซ้อนให้คุณปิ๋ว ซึ่งจากสถิติ Converse ขายรองเท้าทั่วโลกได้โดยประมาณ 700,000 คู่ต่อปี นั่นหมายถึง ทุก 45 วิmin คอนเวิร์สจะวางขายรองเท้าได้ 1 คู่ โดยเฉลี่ย ตัวเลขที่ยิ่งใหญ่นี้ไม่ไหวได้มาเนื่องมาจากโชคช่วยแน่ๆ
>> Converse All-Starเดิมทีคอนเวิร์สเป็นบริษัทที่ผลิตรองเชายางเพราะว่าสวมใส่กันหนาว ภายใต้ชื่อบริษัทเปิดมาตั้งแต่ปี 1908 ริเริ่มด้วยกันก็โหมโรงมาผลิตรองเท้ากีฬา เริ่มต้นจากรองเท้าเอยู่ยืดนิสแต่ก็ไปได้ไม่สวยนัก จุดเปลี่ยนแปลงของ
คอนเวิร์สเกิดขึ้นกรณีเริ่มผลิตรองเท้าบาสเก็ตบอลออกสู่ตลาดในปี 1917 มันจะมีชีวิตแค่รองเท้าบาสเก็ตบอลธรรมดาถ้าถึงแม้ว่าหนักเกิน มาเป็นส่วนหนึ่งข้าวของเครื่องใช้บริษัท เขาคือนักบาสอเมริกันที่โด่บอกเลิกังคนหนึ่งสรรพสิ่งยุค ความหลงเสน่ห์ในรองเท้า ทำเอาเขาได้มาเป็น ยี่ห้อแอมบาสเดอร์ ตัวแเก่าแก่จำหน่าย กับดีไซน์เนอร์ ปันออกคอนเวิร์ส
คนที่วางโครงสัญญาณรูปดาวตรงข้อเท้า Converse กับออกไอเดียให้รองเท้ายังไม่ตายพื้นยางเกี่ยวกับการกระโดดกับการเคลื่อนที่คล่องตัว รวมถึงดัดแปลงนำรูร้อยเชือกรองเท้ามาฉลุเพิ่มด้านข้างตัวรองเท้าสองรู เพื่อช่วยถ่ายออกอากาศให้นักกีฬารู้สึกคล่องเท้ามากขึ้น จากการคิดพร้อมกับออกแบบกลุ่มตั้งมั่นพร้อมทั้งเข้าถึงความต้องการข้าวของผู้บริโภค ทำเอา Converse ได้รับความชื่นชอบจำพวกฟ้าระบือลือลั่น ขายดีกันจนต้องสั่งจอง ด้วยกันเมื่อ ปี 1936 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โอลิมปิกที่มีการจัดชิงบาสเก็ตบอล นักบาสชาวอเมริกันทุกคนสวมใส่ ซึ่งภายหลังคอนเวิร์สนับถือ โดยการพิมพ์ลายเซ็นของใช้เขาลงบนโลโก้รูปดาว
Converse อุบัติขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 และเริ่มมาบูมในช่วง 30 ปีหลังจากนั้น ในยุคนั้นชาวอเมริกันยังแบบรองเท้าหนัง จริงๆก็ไม่เชิงนิยมแต่ว่าเกือบทั้งหมดของบุรุษนะสวมใส่รองเท้าหนัง กระทั่งเข้าสู่ยุคที่นักกีฬาบาสเก็ตบอลหันมาสวม Converse All-Star ที่จุดความแวววาวจากไอคอนผู้ริเริ่ม ภายหลังแพร่หลายในหมู่นักกีฬาชื่อดัง ไม่นานนักนักบาสทั้งกรโปรกรสมัครเล่นในมหา’ลัยผิดแผกแตกต่างๆทั่วอเมริกาแหวกแนวสวมใส่ Converse ลงสนามกันแทบทั้งเสียพนัน เคยมีการประมวลสถิติในปี 1960 พบว่านักบาสกว่า 90% ในอเมริกา กับก็มาสู่จุดพลิกผันของคอนเวิร์สอีกครั้ง เมื่อความเป็นรองเท้ากีฬาสรรพสิ่งคอนเวิร์สถูกถ่ายโอนมาสู่รองเท้าไลฟ์รูปแบบ ผ่านศิลปินแห่งยุคหลายวง ไม่ลืมว่าในยุคนั้นชาวอเมริกันส่วนมากสวมใส่รองเท้าหนัง พร้อมกับรองเท้าผ้าใบยังย่อมเยามองว่าเพื่อที่จะการกีฬามากกว่าจะมาสวมในชีวิตทุกวี่ทุกวัน ทั้งยังถูกมองว่าไม่ละม่อม แต่ศิลปินคนดังหลายวงที่มีภาพลักษณ์ของความนอกกระแสพร้อมด้วยหัวสมัยใหม่ในยุคนั้นแหวกแนวเลือกที่จะใส่สนีกเกอร์ขึ้นศูนย์กลางมากกว่ารองเท้าหนัง ซึ่ง Converse All-Star หมายความว่ารองเท้าที่เหล่าศิลปินเลือกสรรกันมากสูงสุด ไล่ตั้งแต่ยุค 70’s มาจนถึง 90’s เลยทีเดียว
จะบอกว่ามันตกว่าความเท่ก็ได้นะ เนื่อวางมือ้วยเหล่าคนดังและศิลปินแถวหน้าล้วนสวมใส่คอนเวิร์สออกสื่อกันอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าๆ แล้วดำรงฐานะคนดังที่กระจายไปหลายแนว ทั้งพระเอก นักกีฬา นักร้อง นับเป็นการขบถทายับยั้ง้านประเพณีนิยมการแต่งเนื้อเสริมแต่งตัว ที่มีจุดเริ่มต้นจาก ‘กลุ่มผู้ที่มีอิทธิพลต่อรสนิยม’ ของคนในยุคนั้น เป็นเหตุให้อเมริกันชนเริ่มหา
Converse All-Star มาใส่โดยอันดับแรกเริ่มจากกลุ่มวัยจ๊าบที่เป็นแฟนเสียงเพลงเหล่าศิลปินและค่อยๆขยายไปสู่กลุ่มอื่นภาคฉับพลัน ความขบถสรรพสิ่ง
Converse ที่สร้างผลกระทบต่อตราได้น่าสนใจเยี่ยมเคสหนึ่งเลยแท้จริง
จวบจนกระทั่ง ปี 1966 Converse ครองโควตาตลาดที่ 80% ของตลาดรองเท้าสนีกเกอร์ทั้งปิ๋วในอเมริกา นับเป็นความบรรลุผลอะไหล่สูงเครื่องใช้ Converse ซึ่งปราศจากสนีกเกอร์ยี่ห้อไหนจะเปรียบได้เลยในกงการนั้น ถัดมา 3 ปีได้จากไปชิ้นสงบในวัย 68 ปี เขาพลาดชีวิตลงมือนถึงวันเกิดปีที่ 69 เพียงหนึ่งวัน ซึ่งเขายังคงเป็นหนึ่งในผู้ปฎิบัติงานสรรพสิ่ง Converse จนวันสุดริม
>> คอนเวิร์สเธอถูอย่างไร? เวลาที่ยังรับบทบาทหมายถึงรองเท้าบาสเก็ตบอล คอนเวิร์สถูกดีไซน์ให้เป็น ‘monochromatic shoe’ จะทำแค่สีขาวกับดำออกมาเป็นสไตล์หลักๆ 3 แบบ คือ บอดี้รองเท้าหมายความว่าผ้าแคนวาสสีดำพื้นรองเท้าเป็นยาง, บอดี้รองเท้าเป็นหนังสีดำพื้นรองเท้ายังมีชีวิตอยู่ยาง, และแม้ว่าเป็นแคนวาสสีขาว จะมีวิถีแถบสี น้ำสตางค์ แดง อยู่พื้นที่ยางรองเท้าด้านข้างขนานไปกับบอดี้รองเท้าโดยรอบ ทั้งหมดเป็น 3 เมนแบบข้าวของ Converse All-Star ในยุคแรกๆ ส่วนหัวรองเท้าสีขาว (toe guard) ออกแบบเพิ่มจำนวนขึ้นทีหลังทันทีที่ปี 1949
Tags : Converse,Converse