จากในตำราที่เราร่ำเรียนท่องจำกันมานมนานว่า เราควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ จริงๆ แล้วมันเพียงพอจริงหรือ แล้วต้องใช้แก้วไหนวัด แล้วถ้าดื่มมากกว่า 8 แก้วเพราะยังหิวน้ำอยู่ จะเป็นอะไรหรือไม่
จริงๆ แล้วร่างกายของเรามีความแตกต่างกันทั้งรูปร่าง อาหารที่ทาน เพศ อายุ วิถีชีวิต กิจกรรมที่ทำในแต่ละวันก็ยังต่างกัน ดังนั้นปริมาณน้ำที่เราต้องการในแต่ละคน และแต่ละวันก็ย่อมไม่เท่ากันด้วย
นักวิทยาศาสตร์จากเวอร์จิเนียเขียนเอาไว้ในวารสารสุขภาพและการออกกำลังกายของสถาบันการศึกษาเวชศาสตร์การกีฬาอเมริกันว่า “ความต้องการน้ำในร่างกายของคนเราจะไม่เท่ากันในแต่ละคน และไม่มีคนไหนที่จะต้องการน้ำเท่ากันในทุกๆ วัน”
ยกตัวอย่างง่ายๆ หากเป็นคนที่มีกิจกรรมเยอะ เดินเยอะ ออกกำลังกายเป็นประจำ ทำงานกลางแจ้ง เสียเหงื่อเป็นจำนวนมาก กลุ่มคนเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำให้มากกว่าคนที่นั่งทำงานอยู่ในตึกอาคาร หรือนอนอยู่บ้านนิ่งๆ ทั้งวัน เป็นต้น เพราะทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่เราทำยิ่งเยอะ ก็ยิ่งทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น รวมถึงสูญเสียน้ำไปจากร่างกายผ่านเหงื่อมากขึ้นด้วย เป็นเหตุให้นักกีฬาที่สูญเสียเหงื่อมากๆ ถึงมีน้ำเกลือแร่ที่มีโซเดียม และโพแทสเซียมเพื่อช่วยทดแทนน้ำที่สูญเสียไปจากร่างกายได้ (แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลน้อยจะดีกว่า) นอกจากนี้หากต้องการเตรียมตัวก่อนออกกำลังกาย ก็ควรดื่มน้ำก่อนล่วงหน้าก่อนออกกำลังกายจริง 10-15 นาที เพื่อลดความเสี่ยงภาวะขาดน้ำ หลังออกกำลังกายก็อย่าลืมดื่มน้ำด้วย (ค่อยๆ จิบ)
เรากำลังขาดน้ำอยู่หรือเปล่า?
เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าแต่ละคนควรดื่มน้ำมากเท่าไร แต่มีวิธีเช็กได้ง่ายๆ โดยดูจากสีของปัสสาวะ ยิ่งมีสีเหลืองน้อยมากเท่าไรก็ยิ่งดี หากสีของปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้ม หรือถึงขั้นเหลืองอมส้ม มีกลิ่นฉุน ควรรีบดื่มน้ำให้มากขึ้น
ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ยังใช้ได้อยู่หรือไม่?
หากใครที่ไม่รู้จริงๆ ว่าเราต้องดื่มน้ำเท่าไรถึงจะเพียงพอ จะใช้เกณฑ์ 8 แก้วเป็นตัวตั้งต้นก่อนก็ได้ (หรือน้ำจากขวด 1 ลิตร 2 ขวดต่อวัน) จากนั้นค่อยสังเกตสีปัสสาวะของตัวเองว่าเหลืองมากน้อยแค่ไหน แล้วค่อยๆ ปรับปริมาณน้ำที่ดื่มในแต่ละวันจนกว่าจะได้สีของปัสสาวะที่ใสจนแทบจะไม่มีสีเหลืองปน หรือเป็นสีเหลืองที่จางมากๆ รวมถึงเป็นปัสสาวะที่มีความฉุนน้อยลงมาก เป็นต้น
นอกจากน้ำดื่มปกติแล้ว เรายังเพิ่มน้ำให้กับร่างกายได้ ผ่านอาหารที่มีปริมาณของน้ำมาก เช่น แตงกวา แตงโม องุ่น ส้ม มะเขือเทศ สับปะรด แอปเปิ้ล หรืออาหารต่างๆ อย่างก๋วยเตี๋ยว แกงจืด แกงต่างๆ (ที่ไม่ปรุงรสจัดจนเกินไป) และหากอยากให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอตลอดทั้งวัน ควรพกขวดน้ำ หรือแก้วน้ำพร้อมฝาปิดของตัวเองไปด้วยทุกที่ นอกจากจะช่วยให้เรามีน้ำดื่มตลอดทั้งวันแล้ว ยังช่วยลดปริมาณขยะพลาสติดจากขวดน้ำได้อีกด้วย