ผู้เขียน หัวข้อ: ประโยชน์ 8 อย่างที่ลูกจะได้หากนิยมชมชอบอ่านหนังสือ  (อ่าน 61 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ผลดี 8 อย่างที่ลูกจะได้หากชอบอ่านหนังสือ
มาทัศน์ในรายละเอียดกันว่า คุณประโยชน์ของ “การอ่าน” ที่ไม่ใช่เพียงการ “อ่านออก” แค่นั้นเป็นประโยชน์ของการ “ชื่นชอบอ่าน” พร้อมทั้ง “อ่านได้มากพอ” จนเป็นกิจวัตร นั้นคืออะไร ซึ่งหมอเชื่อว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่ได้รู้ ก็จะได้คำตอบว่า การส่งเสส่วนล่างให้ลูกหลานให้อ่านนั้น จำเป็นเพียงไหน

  • กระตุ้นการงานของสมอง

    ในเวลาแค่ช่วงสั้น ๆ ที่เด็กอ่านคำ 1 คำ สมองของเด็กจะถูกกระตุ้นให้ทำงานหลายทำเล ทั้งส่วนที่ทำหน้าที่รับภาพ แปลตัวอักษรให้เป็นหน่วยเสียง ถอดรหัสตัวสะกด ก่อนที่จะเข้าสู่กรรมวิธีตีความ.. ถือได้ว่าการอ่านหนังสือเพียงนั้นละคำ อย่างเดียวละประโยคนั้น กระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทในสมองไปในเขตแดนกว้าง
    จากการศึกษาการยังชีพของสมองที่ทะลุมา นักวิจัยพบว่า สมองของ “คนที่ได้ทำความรู้การอ่าน” จะมีรูปแบบการยังชีพกับมีองค์ประกอบของสมองบางส่วนผิดแผกแตกต่างออกไปจากคนที่ไม่รู้หนังสือ หรืออาจถือได้ว่า “การอ่าน” มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงแปลงทั้งการยังชีพพร้อมกับโครงสร้างของสมอง กับ “สร้างสมอง” ที่พร้อมต่อการศึกษา  การเตรียมสมองนี้สำคัญมากในเด็กกะทัดรัด (ด้านใน 10 ปีแรก) เนื่อหยุด้วยสมองของเด็กยังอยู่ในระหว่างการเจริญเติบโต พร้อมกับเพิ่มช้าใยประสาทเชื่อมระหว่างเซลล์ ซึ่งถ้าเซลล์ประสาทเหล่านั้นหนักเกินถูกใช้ในช่วงเวลาที่เข้าที สมองก็อาจจะสูญเสียการการเชื่อมต่อสื่อสารระหว่างเซลล์นั้น ๆ ไปได้ (Neural pruning)

  • พัฒนาความชำนาญทางภาษา

    ยิ่งไปว่านั้นการอ่านหนังสือจะสนับสนุนเพิ่มจำนวน “คำศัพท์” ในคลังสมองของเด็กให้มากขึ้นแล้ว การอ่านยังเป็นผลดีต่อการใช้ภาษาในด้านอื่น ๆ ทั้งในด้าน “การพูด” และ “การเขียน” ของเด็กเช่นกัน เพราะเมื่อเด็กได้อ่านหนังสือบ่อย ๆ ความชินหูชินตากับคำศัพท์พร้อมกับภาษาในหนังสือก็จะส่งอิทธิพลต่อการใช้ภาษาของตัวเด็กเอง พร้อมทั้งนำไปสู่การใช้ภาษาที่คล่องแคล่วพร้อมด้วยสละสลวยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่ง ในการทำความรอบรู้ภาษาที่สองหรือภาษาต่างประเทศ หนังสือจะมีส่วนสำคัญอย่างมากมายที่จะช่วยเหลือให้เด็กคุ้นกับภาษาพร้อมทั้งเรียนรู้การใช้ภาษาที่สองในบรรยากาศสนุกสนาน

  • สร้างความจำที่ดี

    การอ่านเรื่องราวราวต่าง ๆ ในอ่านหนังสือ นั้นสังเกตเหมือนกับว่าจะมีเรื่องราวให้ต้องจำบานตะไทไปหมด ไหนจะตัวละคร ไหนจะฉาก แถมบางเวลาเนื้อหาสาระก็แสนจะซับซ้อน แต่ด้วยความอัศจรรย์ของสมอง เด็กที่สนุกกับการอ่านก็กลับจำข่าวคราวมากมายเหล่านั้นได้ทะลุทะลวงการเชื่อมโยงข่าวสารพร้อมทั้งต่อยอดความจำไปเรื่อย ๆ ซึ่งก็ไม่แน่อาจจะเป็นเนื่องจากกระบวนการที่ได้ฝึกบ่อย ๆ นี่ก็เป็นได้ ที่ทะลุทะลวงมา มีงานวิจัยหลายฉบับนำเสนอผลการศึกษาที่น่าสนใจว่า การอ่านหนังสือส่งผลดีต่อความจำ และการอ่านหนังสือเป็นปกติอย่างไม่ขาดชนิดตั้งเฉพาะวัยเยาว์จะเอาใจช่วยบำรุงชอบพอษาความจำในเวลาที่เข้าสู่วัยชรา เอาใจช่วยทำเอานักอ่านมีความจำถดถอยน้อยกว่าคนทั่วไป กับเป็นเหตุปัจจัยคุ้มกันการเกิดอาการของโรคสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ได้

  • เป็นแหล่งทำความรู้กับจุดประกายภูมิปัญญาวิเคราะห์

    โดยธรรมชาติของคนนั้น เราทำความเข้าใจสิ่งของต่าง ๆ จากความชำนาญที่พบเจอ เท่านั้นเมื่ออยู่ในโลกที่แสนกว้างใหญ่นี้ “เด็กตัวน้อย ๆ จะออกไปศึกษายังไงไหว” โชคดีที่เรามีหนังสือทำหน้าที่ย่อโลกลงมาทันใจ้ในฝ่ามือ และนำเด็กไปสู่ความชำนาญที่หลายหลากในหน้ากระดาษ ให้เด็กได้หัดคิดวิเคราะห์ เมื่อต้องเจอกับสภาวะหรืออุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งเด็กจะได้ลองผิดลองถูกไปในโลกของภูมิปัญญา ด้วยเก็บเกี่ยวเอาข้อเรียนพร้อมกับแง่คิดกลับมาใช้ผลดีในโลกความเป็นจริง ความคิดของเด็กจะแตกออกไปอีก ถ้าผู้ปกครองหาจังหวะชวนเด็กร่วมพูดคุย อภิปรายถึงเหตุการณ์ราวพร้อมด้วยแง่คิดที่เด็กเรียนรู้มาจากในหนังสือ พร้อมทั้งจูงใจให้เด็กได้สนุกกับการค้นหาคว้าหาแหล่งศึกษาใหม่ ๆ อยู่เสมอ

  • เพิ่มพลังจินตนาการ

    หนึ่งในเสน่ห์พิเศษที่ทำให้นักอ่านหลงชอบพอ “หนังสือ” ก็คือ หนังสือจะพานักอ่านเข้าสู่โลกแห่งจินตภาพ (การคิดเป็นภาพ) ที่ต่างกันไปตามองค์ความรู้ฝันของเท่านั้นละคน จินตนาการของเด็กจึงถูกปลุกให้โลดแล่นไปอย่างอิสระเปลี่ยนการร้อยเรียงของตัวหนังสือ

  • รู้จักที่จะมองในมุมของคนอื่น

    ความรอบรู้ในกลุ่มพร้อมกับความรู้สึกของบุคคลอื่น (ซึ่งคงจะคิดเห็นหรือรู้สึกไม่ตรงกับเรา) เป็นพัฒนาการด้านจิตใจที่สำคัญพร้อมกับเป็นความถนัดที่จำเป็นต่อการอยู่ร่วมกับคนในสังคม ขณะที่ได้อ่านนั้น เด็กจะได้สัมผัสเรียนรู้องค์ความรู้พร้อมกับจิตใจของตัวละครต่าง ๆ ที่คงจะมีแบบความเห็นต่างไปจากตน ซึ่งที่ตัดผ่านมาก็มีการศึกษาขีดเส้นว่าการอ่านหนังสือจะช่วยให้เด็กละเอียดอ่อนกับความรู้สึกกับต้องการของคนอื่น พร้อมกับรู้จัก “ใจเขาใจเรา” มากขึ้น

  • ผ่อนคลายความตึงเครียด

    หลายคนคงจะมองว่าการอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ภูมิปัญญาเลยไม่นึกอซับซ้อนหยิบหนังสือมาเป็นเครื่องมือคลายเครียด แค่นั้นความเป็นจริงแล้ว เคยมีการศึกษาโดย Consultancy Mindlab International ใน มหาวิทยาลัยซูสเซสพบเร็ว้ว่า การอ่านหนังสือนี่แหละเป็นกิจกรรมที่ใช้ลดระถึงแก่กรรมความเครียด (ซึ่งวัดจากความตึงกล้ามเนื้อพร้อมกับอัยี่ห้อการเต้นของหัวใจ) ที่ได้ผลดียิ่งกว่าการฟังเสียหยุดยั้งนตรี จิบชา เดินเล่น หรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์เสียอีก เนื่องจากหนังสือจะช่วยให้ผู้อ่านได้พักพิงอยู่กับเรื่องราวในหน้ากระดาษ พักสับหลีกออกจากความเครียดในโลกข้อสรุป พร้อมด้วยการอ่านหนังสือดี ๆ ประกอบกิจนนอนสักเล่ม ก็จะเอาใจช่วยให้จิตใจสงบและหลับฉลุย

  • ช่วยสานสัมพันธภาพ

    ผู้ปกครองบางคนคงจะจะกังวลว่า เด็กที่เป็นหนอนหนังสือไม่แน่อาจจะกลายเป็นเด็กเก็บตัว ไม่สนใจจะสร้างปฏิสัมพันธ์อะไรกับใคร.. เนื่องมาจากมองในมุมว่าการอ่านนั้นเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้..แค่นั้นเรื่องจริงแล้ว หากเรานำ “การอ่านหนังสือ” มาใช้ให้ถูกทาง กิจกรรมนี้จะเป็นสื่อสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคคลได้เป็นอย่าวางมือี
    การอ่านหนังสือให้เด็กฟัง ชวนเด็กมาอ่านหนังสือด้วยกัน หรือถ้าแม้เพียงนั้นชวนเด็กพูดคุยถึงเรื่องที่ได้ทำความเข้าใจมาจากหนังสือ เหล่านี้ล้วนทำให้เด็กพร้อมด้วยผู้ใหญ่ได้แบ่งปันเรื่องราวราวกัน ได้รู้ว่าต่างคนต่างคิดเช่นไร รู้สึกเช่นไร เกิดความเข้าอกเข้าใจกันอย่างเป็นธรรมชาติ กับบ่อยครั้งเด็กๆ ก็โดยมากจะพูดถึงเหตุการณ์ ความคิด ความรู้สึกสุข ทุกข์อึดอัดคับข้องใจที่เกิดขึ้นอยู่กับเขาในชีวิตทุกเมื่อเชื่อวัน จากการพูดคุยเรื่องราวราวในหนังสือนี่เอง พร้อมกับการใช้เวลาพูดคุยร่วมกันในครอบครัว (quality time) นี้ ก็จะนำไปสู่บรรยุ่งยากาศในบ้านที่อบอุ่นและเป็นสุข
     
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : หนังสือสำหรับเด็ก

    Tags : หนังสือเด็ก,หนังสือเด็ก,หนังสือสำหรับเด็ก