5 วิธีง่ายๆ ปรับรูปหน้า ที่ได้ผลสรุปสวยงามที่สุดศัลยกรรมหน้าเรียวกำลังเป็นกระแสยอดฮิตที่มาแรงในวงการศัลยกรรมบ้านเรา ไม่ว่าใครๆ จะเพศหญิงหรือเพศชาย ก็อยากมี ใบหน้าที่เรียวสวย ได้รูปกันทั้งนั้น วันนี้เราจึงมีวิธีดีๆที่จะดำเนินการให้คุณๆ ได้กอบด้วยใบหน้าที่เรียวสวยได้รูปมาฝากกันค่ะ ซึ่งมีตั้งแต่เจ็บตัวน้อยแต่ไม่ถาวร ไปจนถึงเจ็บตัวมากหน่อยแต่ผลลัพธ์ที่ได้อยู่แบบถาวรมาดูกันค่ะว่า
5 วิธีการทำให้หน้าเรียว ที่ว่ามีอะไรกันบ้าง1. การฉีดโบท็อกซ์
เริ่มต้นจากวิธีได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างการฉีดสาร BOTOX ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโปรตีนที่มีความบริสุทธิ์ ไปตรงส่วนบริเวณกราม เพื่อให้สารตัวนี้เข้าไป ช่วยทำให้กร้ามเนื้อกรามฝ่อตัวจี๊ดลง การฉีดโบท็อกซ์ถือเป็นการปรับรูปหน้าให้มีความเรียวและสวยมากขึ้น
ผลของการฉีดโบท็อกซ์ แพทย์จะนำโบท็อกซ์มาฉีดเข้าที่กล้ามเนื้ออาณาเขตกรามเพื่อทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ผลที่ตามมาหลังการฉีด Botox คือ กล้ามเนื้อกรามจะเล็กลง ทำให้ใบหน้าเรียวขึ้นนั่นเองค่ะ
ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ แพทย์ใช้น้ำเกลือปลอดเชื้อในการผสมโบท็อกซ์แล้วหลังจากนั้นแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กในการฉีดจึงทำให้รู้สึกเจ็บน้อยมาก และสามารถกลับไปทำงานหรือทำงานประจำวันประจำวันได้ตามปกติหลังการฉีดโดยไม่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล โดยยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายหลังการฉีด 7-14 วัน และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์
โบท็อกซ์เป็นสารที่ออกฤทธิ์ชั่วคราวอยู่ราวๆ 4-6 เดือนหลังฉีดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ทั้งนี้ผู้ป่วยสามารถเลือกหรือตัดสินใจฉีดแต่ละครั้งตามความพอใจ
การปรับรูปหน้าด้วยการฉีดโบท็อกซ์ ราคาไม่สูงเหมือนการทำศัลยกรรมปรับรูปหน้าแบบอื่นๆ
เห็นผลไว และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้อ คนไข้สามารถออกไปข้างนอกหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติค่ะ
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมการทำหน้าเรียวเช่นกันการฉีดโบท็อกจึงเป็นที่นิยมมากที่สุดนั่นเองค่ะ
จุดฉีดโบท็อกซ์หน้าเรียว
การพ่นโบท็อกซ์หน้าเรียว ยังเป็นวิธีที่แม้กระทั่งดารานักบ่งชี้หลายๆท่านก็นิยมเปลืองวิธีนี้เช่นกันค่ะ เพราะเป็นวิธีที่ง่าย ไม่ต้องเจ็บตัวมาก และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนานๆ อีกทั้งวิธีนี้ยังเหมาะกับคนที่มีรูปหน้าที่สวยอยู่แล้วแต่แค่อยากให้เห็นรูปหน้าที่พอดีลงและชัดเจนขึ้นสมดุลนั้นเองค่ะ
2. การฉีดสลายไขมันด้วย Meso Lipolysis
หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Meso Fat (เมโสแฟต) คือ การฉีดวิตามินมาถึงสู่ชั้นไขมัน เพื่อประโยชน์ในการลดกระชับสัดส่วนให้ได้รูปไล่ตามต้องการ เป็นวิธีสลายไขมันแบบเฉพาะจุด โดยมีสารประกอบหลัก ๆ คือ Phosphatidylcholine (สกัดจากถั่วเหลืองหรือไข่แดง) และวิตามินหลายฝ่าย วิธีนี้ถือว่ามีกระแสความปลอดภัยมาก เพราะเป็นสารสกัดจากเทพนิรมิต สามารถสลายออกจากร่างกายได้ดี ดังนั้นอาการแพ้จึงมีน้อยมากค่ะ
ข้อดีของการฉีด Meso-Fat
ปัจจุบันนี้ ได้มีการเจริญตัวยาฉีดสลายไขมัน ให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้น เร็วขึ้น และมีผลข้างเคียง เรื่อง การฟกช้ำหลังฉีดน้อยลง ใช้กาลในการทำน้อยลง ทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น
นอกจากนี้ Meso-fat ยังทำหน้าที่ขัดขวางการสั่งสมของไขมันใต้ผิวหนัง อีกทั้งยังช่วยการกระตุ้นให้ไขมันสะสมถูกปล่อยออกมาทำให้หน้าเรียวขึ้น พร้อมทั้งยังเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และระบบต่อมน้ำเหลืองอีกด้วย
ช่วยยกกระชับผิวหนังให้เต่งตึงรุ่งโรจน์ ใบหน้าดูเรียบร้อยขึ้น
ตำแหน่งที่นิยมทำการสลายไขมันด้วยวิธีเมโสแฟต
1. ลดไขมันที่แก้มให้หน้าเรียวเล็ก
2. ลดไขมันที่คาง (เหนียง)
3. ลดไขมันที่ต้นขา ต้นแขน
4. ลดไขมันที่พุง หน้าท้อง
ขั้นตอนการฉีดสลายไขมันด้วยเมโสแฟต
แพทย์ผสมยาและงานฉีดน้ำยาสลายไขมันในบริเวณแก้มที่มีไขมันสะสมอยู่หลังออกจากที่ฉีดสลายไขมันเข้าที่บริเวณผิวหนังแล้วไขมันจะเริ่มต้นหดตัว หรือเริ่มลดจำนวนเซลล์ไขมันลง ประมาณ 10-20% ตั้งแต่เวลาแรกที่ฉีด ทำให้ขนาดแก้มในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก จะดูใหญ่กว่าที่ต้องการได้ แต่ปฤษฎางค์จากน้ำยาทำการสลายไขมันให้เริ่มรานตัวได้ แก้มจะค่อย ๆ ยุบตัวเรื่อย ๆ จนหน้าเรียวอย่างเห็นได้ชัดเจนค่ะ
อาการหลังฉีดยาสลายไขมันเมโสแฟต ทำได้จะมีแผลขนาดเล็กมากซึ่งหมายความว่ารอยเข็มตามบริเวณที่ฉีดทันนั้น หลังการเป็นได้มีรอบเขียวช้ำ อาจมีอาการพองน้ำยาเป็นเวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงหลังการฉีดและหลังจากนั้นก็จะช้าๆ ยุบลงค่ะ
ฉีดสลายไขมันด้วย Meso Lipolysis
ผลลัพธ์ที่ได้อาจเหลื่อมล้ำกันไปตามแต่ละสามัญชน
แพนเค๊ก-ฉีดสลายไขมัน-ให้หน้าเรียว
ใหม่-ฉีดสลายไขมัน-ให้หน้าเรียว
วิธีนี้จะเห็นผลดีมากกับคนที่มีรูปพรรณสัณฐานแก้มเยอะ เนื่องจากไขมัน มีไขมันบริเวณใต้คางเยอะ ทำให้ให้กรอบเค้าหน้าไม่ชัดเจนนั่นเองค่ะ วิถีทางนี้สามารถก่อควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกซ์ ได้ค่ะเพื่อผลลัพธ์ที่เจริญกว่าเดิม
3. การร้อยไหมหน้าเรียว
ถือว่าเป็นการทำศัลยกรรมอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นการ
ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ที่ได้สารภาพความนิยมอย่างสูง เพราะมีค่าใช้จ่ายไม่สูง ไม่ต้องลงมีดผ่าตัด ไม่ต้องนอนพักฟื้น และมีผลข้างจรดกันน้อยมาก จึงทำประทานเป็อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความสนใจสำหรับคนที่อยากได้หน้าเรียวสวยแบบไม่ต้องเจ็บตัวมาก พักฟื้นไม่นาน บวมช้ำไม่ก่ายกองนั่นเองค่ะ แต่วิธีนี้ไม่ได้อยู่ถาวรนะคะ
ข้อดีของการร้อยไหมที่หน้า
ช่วยปรับรูปหน้าเรียวสวยได้รูป อีกทั้งอีกต่างหากช่วยยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อย ทำให้หน้าเป็นรูปวีเชฟ
การร้อยไหมเห็นผลลัพธ์ทันที หลังทำอีกทั้งการร้อยไหมจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการย่นเข้าตัวของคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งจะทำให้ผิวเกิดการกระชับตึงขึ้นอีกด้วยค่ะ
ชนิดของไหมที่นิยมใช้
1. เส้นไหมเรียบ (Mono threads) เป็นเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือปุ่ม หรือเกลียว ไหมชนิดนี้นิยมนำมาใช้กับบริเวณคอ หน้าผาก และใต้ตา เส้นไหมชนิดนี้จะช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงแต่ไม่ได้ช่วยยกชั้นผิวหนัง
2. เส้นไหมที่มีเงี่ยง (Cog threads) เป็นเส้นไหมเส้นเดียวแต่มีเงี่ยงตลอดแนวไหม เพื่อทำหน้าที่ยึดเกาะด้านในชั้นผิวหนัง เงี่ยงมีประโยชน์ทำหน้าที่คล้ายโครงสร้างที่จะช่วยชูเนื้อเยื่อหรือผิวหนังที่หย่อนยาน คอลลาเจนจะถูกกระตุ้นให้มีการสร้างขึ้นใหม่รอบเส้นไหมและบริเวณเงี่ยง เส้นไหมชนิดนี้เหมาะกับการยกกระชับบริเวณคาง ปรับรูปหน้าให้เรียว
3. เส้นไหมเกลียว (Screw threads) เป็นเส้นไหมเส้นเดียวหรือสองเส้นเกลียวเข้าด้วยกัน เส้นหรือเปล่าชนิดนี้มีประโยชน์ช่วยเพิ่มปริมาตรบริเวณผิวหนังที่ยุบตัวหรือเป็นแอ่ง เส้นไหมเกลียวจะให้ผลแข็งแรงกว่าไหมเส้นเรียบ ส่วนใหญ่ไหมเกลียวเหมาะกับการยกชั้นผิวหนังที่หย่อนยานเพื่อปรับให้ใบน้ำหน้าดูเรียวขึ้น
ข้อเสียของการร้อยไหมที่หน้า
ขณะที่ร้อยไหมมีความเจ็บ ต้องมีการฉีดยาชา หลังการร้อยไหม จะมีอาการบวมแดง ช้ำตามแนวการสอดไหม
หากร้อยไหมที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจมีผลข้างประชิดติดกัน คลำปมไหมได้ หรือเห็นปลายไหมโผล่อย่างชัดเจน
การร้อยไหม มีความเสี่ยงกับการใช้ไหมที่ไม่ได้มาตรฐานมากว่าการทำศัลยกรรมหน้าเรียงด้วยทำนองอื่น
ข้อมูลเพิ่มเติม : ร้อยไหมหน้าเรียวมีทั้งหมดกี่ทำนอง แตกต่างกันอย่างไร
การทำศัลยกรรมหน้ามีความเสี่ยง แนะนำให้ทำกับสถานเสริมความงามที่ได้รับมาตรฐานเพื่อลดความเสี่ยง เละเหตุด้วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเองค่ะ
นุ่น-ร้อยไหมหน้าเรียว
แอฟ-ร้อยไหมหน้าเรียว
4. การศัลยกรรมดูดไขมันกรอบหน้า
ถือเป็นอีก 1 วิธีที่เป็นได้ช่วยให้ใบหน้าเล็กเรียวได้ โดยแพทย์จะทำการดูดในบริเวณ เหนียง คอ แก้มด้านล่าง และขอบกราม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาพร้อมด้วยการสะสมของไขมันของแต่ละบุคคลซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้ มองเห็นรูปกรอบหน้า คาง และ ลำคอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ใบหน้าดูผอมลง และดูอ่อนเยาว์ขึ้น เพราะหลังจากที่ทำการดูดไขมันบริเวณใบหน้าแล้ว ผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมันออกไป จะมีความเรียบและกระชับขึ้น การทำศัลยกรรมหน้าเรียว ด้วยวิธีถือเป็น วิธีศัลยกรรมหน้าเรียว แบบถาวร อีกวิธีหนึ่งที่เจ็บตัวน้อยแต่ได้รับผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว และไขมันที่ถูกดูดออกไปจะไม่กลับมาอีก ถ้าหากน้ำหนักตัวไม่ได้เพิ่มขึ้นมากๆ การทำศัลยกรรมหน้าเรียวด้วยวิธีนี้มีระยะเวลาภายในการพักฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับไปทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้หลังจากดูดไขมันคาด 5-7 วันค่ะ
อ่านเพิ่มเติม : หน้าเรียวโดยไม่ต้องผ่าตัดกระดูก ดูดไขมันหน้า เหนียง แก้ม ใต้คาง
ข้อดีของการดูดไขมันกรอบหน้า
สามารถปฏิรูปปัญหาได้อย่างถาวร เพราะไขมันที่ดูดออกไป จะไม่กลับมาอีก
ทำให้เห็นกรอบหน้าที่ชัดเจน และ หลังจากดูดไขมัน ใบหน้าจะยกกระชับขึ้นพร้อมกับใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงอีกด้วย
ขั้นตอนการดูดไขมันกรอบหน้า
1. ใช้คลื่นแสงที่เหมาะสม เป็นตัวนำพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงซึ่งทำให้เกิดความร้อน เข้าเสด็จพระราชดำเนินทำละลายให้ไขมันกลายเป็นของเหลว ทำให้สามารถดูดไขมันออกได้อย่างง่ายดาย ทำหลังการารดูดไขมัน มีสภาพบวม ช้ำน้อยมาก
2. ใช้เข็มทู่ ขนาดประมาณ 1 มม – 1.5 มม ดูดไขมันเหลว ใต้ผิวหน้าบริเวณที่กำหนดออกมา
3. ระยะเวลาในการผ่าตัด ใช้ระยะเวลาการผ่าตัดประมาณ 1-2 ชม. โดยประมาณ
ผลลัพธ์ที่ไดหลังการผ่าตัด
มีแผลแคบขนาด 1.5 มม. ในบริเวณที่ทำการเปิดแผลเพื่อดูดไขมัน โดยแผลจะสามารถจางหายไปเอง
จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน 1 – 3 เดือนหลังการดูดไขมันกรอบหน้า (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
การดูดไขมันกรอบหน้าถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการนฤมิตคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง
ทำให้ผิวเรียบยิ่งขึ้น
ช่วยยกกระชับใบหน้า ยกกระชับรูปแก้ม ปรับให้ผิวหนังตึง ไม่หย่อนคล้อย
การดูแลหลังทำดูดไขมันหน้าเรียว
ห้ามแผลโดนน้ำ เป็นระยะเวลา 24 ชม. หลังการดูดไขมัน
งดออกกำลังกายหนักๆในช่วง 1 – 2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
หลังการผ่าตัดอาการบวมในช่วง 2 – 4 สัปดาห์ (หลังจากนั้นจะค่อยๆยุบบวมลงเรื่อยๆ)
การศัลยกรรมดูดไขมันกรอบหน้า
ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
ดูดไขมันกรอบหน้า-หน้าเรียว
5. การทำศัลยกรรมตัดกระดูก ลดโหนก+วีไลน์ ( V-Line )
การทำ ศัลยกรรมหน้าเรียว ด้วยวิธีนี้ ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่แต่ได้ผลลัพธ์ที่ถาวรที่สุด โดยการผ่าตัดทำศัลยกรรมนี้ได้รับความนิยมเป็นกอบเป็นกำที่ประเทศเกาหลี เพราะเป็นการผ่าตัดที่ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ลองสังเกตดูดีๆสิคะว่า สาวๆเกาหลีส่วนมากมีโครงหน้าที่เรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติกันแทบจะทุกคน การผ่าตัดลดโหนกแก้ม คือ การผ่าตัดเพื่อ ลดโหนกแก้ม สำหรับคนที่มีโหนกแก้มใหญ่ โดยมองจากทางด้านหน้า และด้านข้าง จะเห็นกระดูกโหนกแก้มชัดเจน โดยสามารถแบ่งลักษณะของโหนกแก้มออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1. ส่วนที่หนึ่ง คือ ส่วน body และ arch เป็นส่วนที่เพิ่มความนูนของใบหน้าทำให้หน้าเกิดมิติ
2. ส่วนที่สอง คือ เป็นส่วนที่เพิ่มความนูนของใบหน้าทำให้หน้าเกิดมิติ ซึ่งคนแถบๆเอเชียนั้นจะมีส่วนนี้มากกว่าคนแถวๆยุโรป (ส่วนคนยุโรปค่อนข้างจะชอบเสริมโหนกแก้มในส่วนนี้)
3. ส่วนที่สาม ถือเอาว่า ส่วนด้านข้าง (arch) คือส่วนกำหนดความกว้างของใบหน้า
การผ่าตัดลดโหนกแก้มด้วยเทคนิคเกาหลี
การผ่าตัดลดโหนกแก้มด้วยเทคนิคเกาหลีเป็นการผ่าตัดภายในช่องปากร่วมกับการเปิดแผลบริเวณไรผมข้างกกหู ทั่วไปการศัลยกรรมจะทำการตัดขี้เหนียวโหนกแก้มให้สั้นลงและปรุงแต่งความหนาให้บางลง นอกจากจะเกลาหรือตัดกระดูกให้บางลงเพื่อลดความกว้างของกระดูกด้านข้างแล้ว ยังทำการดันกระดูกโหนกแก้มเข้าด้านในประมาณ 45องศา เพื่อเพิ่มมิติในด้านหน้าอีกด้วยทำให้รูปหน้าคุณจะสวย สมบูรณ์แบบทุกมุมมอง หลังการตัดไหมไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็นเป็นนะคะ เพราะรอยแผลดังกล่าวแทบมองไม่เห็นเลย
การตัดกราม+เลื่อนคาง (วีไลน์) สำหรับบางคนอาจจะพอคุ้นหูกับคำว่า วีไลน์หน้าเรียว กันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ยินหรือยังไม่คุ้นหูกับการทำศัลยกรรมวีไลน์ แล้วสงสัยว่าการทำวีไลน์หน้าเรียวคืออะไร? การทำวีไลน์หน้าเรียว คือ การ
ปรับโครงหน้าส่วนล่างทำให้ใบหน้าเรียวดูเล็กลง เพื่อสละมีใบหน้าที่ได้สัดส่วนมากขึ้น การทำวีไลน์ถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดสำหรับคนที่มี กระดูกกรามหนา กรามกว้าง หรือใหญ่ รวมถึงคนที่มีคางสั้น คางป้าน คางบุ๋มตรงกลาง
ขั้นตอนการทำวีไลน์หน้าเรียว
1. เป็นการทำศัลยกรรมโดยการตัดกระดูกกรามที่เป็นส่วนเกินออกไป และตะไบกระดูกกรามให้เรียบเนียน
2. เลื่อนคาง โดยการตัดกระดูกคางเป็นรูปตัว T แล้วเอากระดูกส่วนกลางออก หลังจากนั้นเลื่อนกระดูกทั้ง 2 ข้างมาชิดทำให้คางดูเรียวเล็กลง อีกทั้งเชี่ยวชาญยืดคางให้ยาวขึ้นด้วยการต่อคางโดยใช้กระดูกของตนเอง ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เวลามองจะทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการเสริมคางด้วยซิลิโคนหลังจากนั้น แพทย์จะทำการยึดกระดูกด้วยสกรู ซึ่งเป็นวัสดุที่ทำจากไทเทเนี่ยมมีความหนักแน่น สามารถอยู่กับเราได้ไปตลอดชีวิตโดยไม่ต้องเอาออกค่ะ แต่ถ้าใครที่อยากเอาออกก็สามารถเอาออกได้หลังจากการผ่าตัดไปแล้ว 6 เดือนค่ะเพราะว่าวัสดุชนิดนี้สามารถเข้าเครื่องเอ็กซ์เรย์ และเครื่องสแกนที่สนามบินได้สบายไม่ต้องกังวลค่ะ
การทำศัลยกรรมวีไลน์นี้เป็นวิธีนี้จะทำให้เรามีใบหน้าที่เรียวสวย ดูเป็นเทพนิรมิต
อาการบวม หลังการผ่าตัดคนไข้อาจมีอาการบวมช้ำมากภายใน 3 – 7 วันหลังการผ่าตัด และจะค่อยๆลดบวมลงเรื่องๆ อาจหายช้าหรือเร็วต่างกัน ขึ้นกับการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดและสภาพร่างกายเดิมของแต่ละคน โดยเฉลี่ยประมาณ 2-4 สัปดาห์ และ กระดูกจะเริ่มเข้าที่ 3 – 6 เดือนหลังการผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดวีไลน์
ประคบเย็นในช่วง 2 – 3 วันแรก เพื่อให้เลือดภายในหยุดไหล
เริ่มประคบอุ่นในช่วงวันที่ 3 – 4 วัน เพื่อช่วยลดอาการบวม
ระยะเวลา 1 สัปดาห์แรกหลังการฟันตัดให้รัดหน้าตลอดเวลา เพื่อป้องกันอาการ ตัดโหนกแก้ม แก้มห้อยหลังการผ่าตัด
รักษาความสะอาดณช่องปาก เพื่อลดการติดเชื้อจากแบคทีเรีย
งดการเคี้ยวลีลาที่มีลักษณะแข็ง หรืออาหารที่มีลักษณะเหนียว ให้ทานอาหารอ่อนๆในช่วง 1 – 3 เดือนแรกของการผ่าตัด
บอกเลิกการออกกำลังกายหนักในช่วง 1 – 2 เดือนหลังการหั่นตัด
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
ปรับหน้าTags : ปรับโครงหน้า