ผู้เขียน หัวข้อ: หนุ่มวัย 43 เมาขับกระบะชนเสาไฟฟ้าหักทับ รถหรูสองคัน หายเมาถึงกับช็อด จ.สมุทรปร  (อ่าน 89 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ขอมุ่งเสนอ ข่าวสมุทรปราการ ในวันเสาร์ที่ 1 ผู้พิทักษ์สันติราษฎ์ สภ,บางเสาธงสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสาไฟฟ้าหักล้มลงมาขวางถนน ที่อยู่ภายในซอยวัดบางเสาธง ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ อยู่ห่างจากหน้าโรงพัก สภ.บางเสาธง ประมาณ 50 เมตร ที่ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้และมีไฟฟ้าดับทั้งซอยร่วมทั้งที่โรงพัก สภ.บางเสาธง ไปด้วยกระแสไฟฟ้าดับเช่นกัน หลังได้รับแจ้งจึงเดินทางเข้าตรวจดู
ในที่เกิดเรื่องนั้นเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซุซุ ดีแม็ก สีขาว ใช้ทะเบียน 2 กฬ 1518 กทม, เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนน ซึ่งทางผู้ขับขี่ที่เป็นชายติดอยู่ในรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ้ง ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือนำร่างคนขับรถคันดังกล่าวออกมาจากรถพบว่าอยู่ในสถานการณ์มึนเมาจากสุราและได้รับบาดเจ็บมาเล็กน้อย
และการใช้ความออดอ้อนหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวเข้ากรงเพื่อไปสงบสติอารมณ์ นอกจากนั้นแล้วในที่เกิดเหตุยังพบรถนั่งส่วนบุคคลยี่ห้อเบนซ์ และบีเอ็มดับบิว ถูกสายไฟฟ้าฟาดลงมาอยู่บนหลังคารถได้รับความวิบัติอีกจำนวน 2 คัน
ในส่วนของที่เกิดตุพบว่ามีเสาไฟฟ้าแรงสูงหักล้มลงมาขวางทางสัญจรทั้งหมด 5 ต้นและหม้อแปลงกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ตกลงมาจากเสาไฟฟ้าได้รับความเสียหายอีก 1 ลูก ที่เกิดทำให้มีเสาไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลต่างๆ ล้มขวางปิดเส้นทางจราจรเจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นการจราจรโดยเด็ดขาด
ทำให้สามัญชนที่พักอาศัยอยู่ตามหอพักในพื้นที่พื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุได้รับความเดือดร้อนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ต้องอยู่ในอันธการ
ด้านเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงสาขาบางพลี หลังรับแจ้งได้ระดมกำลังพร้อมเครื่องจักรขนาดใหญ่ลงพื้นที่เร่งตัดกระแสไฟฟ้าบางส่วน เพื่อทำการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ในส่วนในจุดที่เกิดเหตุคาดว่าจะสามารถที่จะดำเนินการตั้งเสาและจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์พร้อมด้วย
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของตำรวจได้คุมตัวตัวคนขับรถยนต์กระบะต้นเหตุเอาไว้เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถในขณะที่มีความมึนเมาสุรา และขับรถด้วยความสะเพร่าทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นและทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป