คิดแผนผ่อนผันเพื่อยื่นภาษีปี 2564ค่าผ่อนผันเป็นรายการต่างๆที่ข้อบังคับกำหนดไว้ สามารถนำไปหักออกจากรายได้ ภายหลังที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว หรือบอกให้เข้าใจง่ายๆว่า เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เราเสียภาษีอากรลดน้อยลง ซึ่งมาจากการวางแผนภาษีเงินได้บุคคลปกติ ซึ่งแน่นอนว่าภาษีเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่สามารถที่จะเลี่ยงได้ แต่รายจ่ายบางอย่างก็สามารถนำมาใช้เป็นค่าผ่อนปรนภาษีได้เหมือนกัน โดยรายการใช้จ่ายที่สามารถประยุกต์ใช้สิทธิ์ผ่อนผันภาษีได้ก็มีดังต่อไปนี้
ตัวเลือกลดหย่อนภาษีกรุ๊ปส่วนตัว- ค่าผ่อนปรนส่วนตัว 60,000 บาท สำหรับคนที่มีเงินได้ที่ยื่นแสดงรายการ
- ค่าลดหย่อนคู่แต่งงาน 60,000 บาท สำหรับสามีภรรยาที่จดทะเบียนไม่ผิดกฎหมายและไม่มีเงินได้ หรือมีเงินได้ที่ยื่นแสดงรายการรวมกันสำหรับการคำนวณภาษี
- ค่าผ่อนปรนบุตร คนละ 30,000 บาท ซึ่งผู้ที่ 2 เป็นต้นไป จะเพิ่มอีก 30,000 บาท สำหรับลูกโดยชอบด้วยกฎหมาย สามารถหักได้ไม่จำกัดจำนวนคน แต่ว่าสำหรับบุตรบุญธรรม หรือในเรื่องที่มีทั้งยังลูกบุญธรรมแล้วก็ลูกโดยชอบด้วยกฎหมาย สามารถหักได้ไม่เกิน 3 คน (นับเฉพาะที่มีชีวิตอยู่)
- ค่าผ่อนผันฝากครรภ์และคลอดลูก จากที่จ่ายตามจริงสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาทค่าเลี้ยงดูพ่อแม่ตนเองและพ่อแม่คู่ชีวิต คนละ 30,000 บาทค่าเลี้ยงดูผู้ทุพพลภาพหรือพิการ คนละ 60,000 บาท
ตัวเลือกลดหย่อนภาษีกรุ๊ปกระตุ้นเศรษฐกิจ- ดอกกู้เพื่อซื้อที่พักที่อาศัย ดังที่ชำระตามจริงมากสุดไม่เกิน 100,000 บาท
- อัตราค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต (ธุรกิจที่มีเครื่องรูดบัตร) เฉพาะกรุ๊ปที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี
ตัวเลือกผ่อนผันภาษีกลุ่มรับรองและการลงทุน- เงินประกันสังคม ดังที่ชำระจริงมากสุดไม่เกิน 7,200 บาท
- เบี้ยประกันชีวิตทั่วๆไปหรือเงินออมแบบมีสัญญาประกันชีวิต ดังที่ชำระจริงสูงที่สุดไม่เกิน 100,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพตัวเอง จากที่จ่ายตามจริงขั้นสูงที่สุดไม่เกิน 25,000 บาท *รวมกับประกันชีวิตแล้วจะต้องไม่เกิน 100,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่ ตามที่จ่ายจริงขั้นสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
- เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ ดังที่ชำระจริงสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
- กองทุนรวมเพื่อการดำรงชีพ (RMF) ผ่อนผันภาษีได้ 30% ของเงินได้ จากที่เงินได้ จากที่ชำระตามจริงมากสุดไม่เกิน 500,000 บาท
- กองทุนรวมสํารองดำรงชีพ / กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ / ช่วยเหลือครูเอกชน ดังที่ ดังที่ชำระจริงขั้นสูงที่สุดไม่เกิน 500,000 บาท สามารถสะสมเพิ่มได้โดยขอเปลี่ยนแปลง % ที่กำหนดไว้กับนาย
- กองทุนรวมการออมแห่งชาติ (กอช.) ดังที่จ่ายจริงสูงที่สุดไม่เกิน 13,200 บาท
- กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ผ่อนปรนภาษีได้ 30% ของเงินได้ จากที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
- กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) จากที่ชำระตามจริงมากสุดไม่เกิน 200,000 บาท *ข้อ 7 - 10 รวมแล้วจะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ตัวเลือกลดหย่อนภาษีกลุ่มบริจาค- เงินบริจาคแก่พรรคการเมือง จากที่ชำระตามจริงมากสุดไม่เกิน 10,000 บาท
- เงินบริจาคเพื่อการเรียนรู้ กีฬา พัฒนาสังคม รวมทั้งโรงพยาบาลรัฐ สามารถผ่อนผันได้ 2 เท่าของเงินบริจาค แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าผ่อนผัน
- เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แม้กระนั้นไม่เกิน 10% ของรายได้ข้างหลังหักค่าผ่อนปรน
ตัวเลือกผ่อนผันภาษีกลุ่มค้างจากปีก่อน- โครงงานบ้านหลังแรกปี 59 ขั้นสูงที่สุดไม่เกิน 120,000 บาท
ซึ่งยังมีผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเข้าใจผิดว่า ผ่อนปรนภาษีไปเท่าไหร่ จะเสียภาษีลดน้อยลงเพียงแค่นั้น แต่ว่าความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น เนื่องจากว่าการที่เราจะเสียภาษีน้อยลงหรือได้ภาษีคืนมากขึ้น จะขึ้นกับเงินได้รวมทั้งอัตราภาษีของแต่ละคนด้วย การผ่อนปรนเป็นเพียงตัวช่วยที่ทำให้ฐานภาษีของเราลดลง เพราะเหตุว่าประเทศไทยมีการเสียภาษีอากรแบบขั้นบันได
และสิ่งที่ทุกคนจะต้องรู้ก่อนที่จะยื่นภาษีหมายถึงต้องคำนวณภาษีของตนให้เป็น ต้องรู้ว่ารายได้เป็นรายได้ประเภทไหนดังที่ข้อบังคับระบุ เราสามารถหักรายจ่ายอะไรได้บ้าง แล้วก็สุดท้ายค่อยมองหาสิ่งที่จะมาลดหย่อนภาษี ซึ่งถ้าพวกเราคิดแผนภาษีเป็น บางทีก็อาจจะช่วยทำให้เราเสียภาษีอากรได้น้อยลง และมีเงินที่มากขึ้นเรื่อยๆครับ ซึ่งถ้าหากผู้ใดกันอยากอ่านข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับการผ่อนปรนภาษี ก็สามารถมาหาข้อมูลถึงที่เหมาะเว็บ โกแบร์ไทยแลนด์ โดยคลิกปุ่มเขียวข้างล่างเลยขอรับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
พี่หมีโกแบร์Tags : ภาษี,ลดหย่อนภาษี