ผู้เขียน หัวข้อ: ประกันผ่อนผันภาษี 2563 ตัวไหนดี ผ่อนปรนอย่างไรบ้าง  (อ่าน 157 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์

ใกล้ถึงช่วงสิ้นปี ซึ่งถือว่าเป็นเทศกาลลดหย่อนภาษี คนจำนวนไม่น้อยก็กำลังมองหาตัวช่วยผ่อนผันภาษี เว้นแต่นโยบาย ช้อปดีมีคืน ในระยะนี้ ก็มีประกันลดหย่อนภาษีเป็นอีกหนึ่งทางเลือกคู่กันกับหลายๆตัวเลือกให้ผู้มีเงินได้ได้เลือกลงทุน แต่ว่าการซื้อประกันลดหย่อนภาษีจะออกมาเป็นแบบอย่างไหน ผ่อนผันได้มากแค่ไหนบ้าง แล้วก็จะเลือกทำประกันตัวไหน ที่นี่มีคำตอบ
เบี้ยประกันลดหย่อนภาษีได้เยอะแค่ไหน
ปัจจุบัน ผู้มีรายได้สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาหักผ่อนปรนภาษีรายได้บุคคลปกติสูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปี แม้กระนั้นจะต้องเป็นสัญญาประกันชีวิตหรือเบี้ยประกันสุขภาพที่มีเงื่อนไขตรงดังที่สรรพากรกำหนดเท่านั้น
ประกันที่ใช้ลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง
ไม่ใช่เบี้ยประกันชีวิตจากกรมธรรม์ทุกแบบที่จะนำมาขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ จะต้องเป็นประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพที่มีเงื่อนไขตรงดังที่สรรพากรกำหนดเท่านัน รวมทั้งประกันแบบไหนบ้างที่ผ่อนผันภาษีได้ ไปดูกันเลย
1. สัญญาประกันชีวิตแบบทั่วไป
เราสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตหรือประกันออมทรัพย์ดังที่จ่ายจริงแม้กระนั้นไม่เกิน 100,000 บาทไปใช้สิทธิ์ผ่อนผันภาษีรายได้บุคคลธรรมดาได้ แต่กรมธรรม์จะต้องมีช่วงเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป จะต้องทำกับบริษัทสัญญาประกันชีวิตที่อยู่ในไทย ถ้ามีเงินคืนก็จะต้องเอากลับคืนไม่เกิน 20% ของเบี้ยรายปี และหากจ่ายเงินคืนตามตอนระยะเวลาเงินที่ได้คืน เป็นต้นว่า 3 ปี 5 ปี ควรต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยสะสมของแต่ละระยะเวลา
2. ประกันชีวิตแบบบำนาญ
สามารถเอาไปใช้ผ่อนผันภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ถือว่ามากกว่าสัญญาประกันชีวิตแบบทั่วไป โดยกรมธรรม์นั้นควรมีระยะเวลาป้องกันตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จำเป็นต้องทำกับบริษัทสัญญาประกันชีวิตในไทย และก็ต้องมีการจ่ายผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอเมื่อผู้เอาประกันแก่ 55-85 ปีหรือมากกว่านั้น และจึงควรจ่ายเบี้ยจนกระทั่งครบก่อนเริ่มได้รับผลตอบแทน
สิทธิผ่อนผันภาษีของประกันแบบบำนาญจำเป็นต้องไม่เกิน 500,000 บาทเมื่อรวมกับสิทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีวิต (PVD), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF),กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนที่เป็นของเอกชน ,กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) รวมทั้งกองทุนรวมเพื่อการเก็บออม (SSF) แล้ว
3. สัญญาประกันของสามีภรรยา
ในกรณีที่คู่ควงเป็นบุคคลที่ขาดเงินได้และก็เป็นคู่แต่งงานของเราตลอดทั้งปีภาษี ไม่ใช่พึ่งมาแต่งงานกันในระหว่างปีภาษี สัญญาประกันชีวิตของคู่บ่าวสาวก็สามารถเอามาลดหย่อนภาษีได้จากที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาทด้วยเหมือนกัน
4. ประกันสุขภาพส่วนตัว
สามารถเอามาหักผ่อนผันได้ตามปริมาณที่จ่ายจริง แม้กระนั้นไม่เกิน 25,000 บาท จากเดิมผ่อนผันได้สูงสุด 15,000 บาท โดยเริ่มปรับขึ้นตั้งแต่ปีภาษี 2563 เมื่อรวมค่าเบี้ยประกันสุขภาพ เบี้ยประกันอุบัติเหตุ กับค่าเบี้ยประกันชีวิตแล้ว สามารถเอามาผ่อนผันได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
ต้องเป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองปกป้องการดูแลและรักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยรวมทั้งการบาดเจ็บ การชดเชยทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะเนื่องด้วยการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บนั้นๆ หรือประกันอุบัติเหตุที่ป้องกันเฉพาะการดูแลรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูก รวมไปถึงสัญญาประกันภัยคุ้มครองป้องกันโรคร้ายแรงประกันภัยการดูแลระยะยาว หรือ Long Term Care
5. ประกันสุขภาพคนวัยแก่ที่ทำให้บิดามารดา
เบี้ยประกันสุขภาพหรือเบี้ยประกันอุบัติเหตุผู้สูงวัยที่ทำให้บิดามารดาสามารถเอามาหักผ่อนปรนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยผู้ใช้สิทธิลดหย่อนจะต้องเป็นลูกแท้ๆโดยไม่ผิดกฎหมาย (ลูกบุญธรรมใช้ไม่ได้) แล้วก็ในเรื่องที่พ่อแม่มีบุตรหลายๆคน ให้ลูกแต่ละคนเฉลี่ยหักค่าผ่อนปรนได้เท่าๆกัน แต่รวมกันจำต้องไม่เกิน 15,000 บาท
นอกเหนือจากนั้น บิดาและก็แม่ จะต้องมีรายได้คนละไม่เกิน 30,000 บาทต่อปีและจะต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทย
สำหรับรายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้สามารถอ่านได้ที่ โกแบร์ไทยแลนด์

Tags : ประกันอุบัติเหตุ