ผู้เขียน หัวข้อ: ประกันลดหย่อนภาษี 2563 ตัวไหนดี ผ่อนผันอย่างไรบ้าง  (อ่าน 128 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์

ใกล้ถึงตอนปลายปี ซึ่งถือว่าเป็นเทศกาลผ่อนปรนภาษี คนจำนวนไม่น้อยก็กำลังมองหาตัวช่วยลดหย่อนภาษี เว้นเสียแต่หลักการ ช้อปดีมีคืน ในตอนนี้ ก็มีประกันผ่อนปรนภาษีเป็นอีกหนึ่งช่องทางคู่กันกับหลายๆตัวเลือกให้ผู้มีเงินได้ได้เลือกลงทุน แม้กระนั้นการซื้อประกันผ่อนผันภาษีจะออกมาเป็นแบบอย่างไหน ผ่อนปรนได้มากแค่ไหนบ้าง แล้วก็จะเลือกทำประกันตัวไหน ตรงนี้มีคำตอบ
เบี้ยประกันผ่อนผันภาษีได้เท่าใด
ปัจจุบัน ผู้มีรายได้สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลปกติสูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปี แม้กระนั้นต้องเป็นสัญญาประกันหรือเบี้ยประกันสุขภาพที่มีเงื่อนไขตรงดังที่สรรพากรระบุเท่านั้น
ประกันที่ใช้ลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง
ไม่ใช่เบี้ยประกันชีวิตจากกรมธรรม์ทุกแบบที่จะเอามาขอใช้สิทธิผ่อนปรนภาษีได้ ควรจะเป็นสัญญาประกันหรือประกันสุขภาพที่มีเงื่อนไขตรงดังที่สรรพากรกำหนดเท่านัน และก็ประกันแบบไหนบ้างที่ผ่อนผันภาษีได้ ไปดูกันเลย
1. ประกันชีวิตแบบทั่วๆไป
เราสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตหรือประกันออมทรัพย์ดังที่จ่ายจริงแต่ว่าไม่เกิน 100,000 บาทไปใช้สิทธิ์ผ่อนปรนภาษีเงินได้บุคคลปกติได้ แต่ว่ากรมธรรม์ควรมีระยะเวลาคุ้มครองป้องกัน 10 ปีขึ้นไป ต้องทำกับบริษัทสัญญาประกันชีวิตที่อยู่ในไทย ถ้าหากมีเงินคืนก็จำเป็นจะต้องเอากลับคืนไม่เกิน 20% ของเบี้ยรายปี รวมทั้งถ้าเกิดชำระเงินคืนตามช่วงช่วงเวลาเงินที่เอากลับคืน เป็นต้นว่า 3 ปี 5 ปี ควรต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยสะสมของแต่ละขณะ
2. สัญญาประกันชีวิตแบบเงินบำนาญ
สามารถใช้ประโยชน์ผ่อนปรนภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ควรประเมิน หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท จัดว่ามากกว่าสัญญาประกันชีวิตแบบทั่วๆไป โดยกรมธรรม์นั้นควรมีระยะเวลาคุ้มครองป้องกันตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จำต้องทำกับบริษัทประกันชีวิตในไทย และต้องมีการจ่ายผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอเมื่อผู้เอาประกันมีอายุ 55-85 ปีหรือมากกว่านั้น และจะต้องจ่ายเบี้ยจนครบก่อนเริ่มได้รับผลตอบแทน
สิทธิผ่อนผันภาษีของประกันแบบเงินบำนาญจำเป็นที่จะต้องไม่เกิน 500,000 บาทเมื่อรวมกับสิทธิของกองทุนสำรองดำรงชีวิต (PVD), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF),กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ,กองทุนการเก็บออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แล้ว
3. ประกันชีวิตของสามีภรรยา
ในเรื่องที่คู่ควงเป็นบุคคลที่ไม่มีเงินได้รวมทั้งเป็นคู่แต่งงานของพวกเราตลอดทั้งปีภาษี ไม่ใช่เพิ่งจะมาแต่งงานกันในระหว่างปีภาษี สัญญาประกันชีวิตของคู่ชีวิตก็สามารถเอามาผ่อนปรนภาษีได้จากที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาทด้วยเหมือนกัน
4. ประกันสุขภาพส่วนตัว
สามารถเอามาหักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แม้กระนั้นไม่เกิน 25,000 บาท จากเดิมผ่อนผันได้สูงสุด 15,000 บาท โดยเริ่มปรับขึ้นตั้งแต่ปีภาษี 2563 เมื่อรวมค่าเบี้ยประกันสุขภาพ เบี้ยประกันอุบัติเหตุ กับค่าเบี้ยประกันชีวิตแล้ว สามารถนำมาผ่อนผันได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
ต้องเป็นประกันภัยที่ให้ความป้องกันการดูแลรักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยแล้วก็การบาดเจ็บ การทดแทนเป็นง่อย การสูญเสียอวัยวะเพราะเหตุว่าการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บนั้นๆ หรือประกันอุบัติเหตุที่ป้องกันเฉพาะการดูแลรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ รวมทั้งการแตกหักของกระดูก รวมไปถึงสัญญาประกันภัยคุ้มครองปกป้องโรคร้ายแรงประกันภัยการดูแลระยะยาว หรือ Long Term Care
5. ประกันสุขภาพคนวัยแก่ที่ทำให้พ่อแม่
เบี้ยประกันสุขภาพหรือเบี้ยประกันอุบัติเหตุผู้สูงอายุที่ทำให้บิดามารดาสามารถเอามาหักผ่อนผันภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยผู้ใช้สิทธิผ่อนปรนจะต้องเป็นลูกแท้ๆโดยไม่ผิดกฎหมาย (ลูกบุญธรรมใช้ไม่ได้) รวมทั้งในเรื่องที่พ่อแม่มีบุตรหลายคน ให้บุตรแต่ละคนเฉลี่ยหักค่าผ่อนปรนได้เท่าๆกัน แต่รวมกันจะต้องไม่เกิน 15,000 บาท
ยิ่งไปกว่านั้น พ่อและแม่ ต้องมีรายได้คนละไม่เกิน 30,000 บาทต่อปีและจะต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ โกแบร์

Tags : ประกันสุขภาพ,ประกันอุบัติเหตุ

 

{}Login to chat