
ใกล้ถึงช่วงสิ้นปี ซึ่งนับว่าเป็นเทศกาลลดหย่อนภาษี ผู้คนจำนวนมากก็กำลังมองหาตัวช่วยลดหย่อนภาษี นอกจากแนวทาง ช้อปดีมีคืน ในระยะนี้ ก็มีประกันลดหย่อนภาษีเป็นอีกหนึ่งทางเลือกคู่กันกับหลายๆตัวเลือกให้ผู้มีเงินได้ได้เลือกลงทุน แต่ว่าการซื้อประกันผ่อนปรนภาษีจะออกมาเป็นแบบไหน ผ่อนปรนได้เยอะแค่ไหนบ้าง รวมทั้งจะเลือกทำประกันตัวไหน ที่นี่มีคำตอบ
เบี้ยประกันลดหย่อนภาษีได้เท่าไรตอนนี้ ผู้มีรายได้สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาหักผ่อนผันภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปี แต่จะต้องเป็นประกันชีวิตหรือ
เบี้ยประกันสุขภาพที่มีเงื่อนไขตรงดังที่สรรพากรกำหนดเท่านั้น
ประกันที่ใช้ผ่อนปรนภาษีมีอะไรบ้างไม่ใช่เบี้ยประกันชีวิตจากกรมธรรม์ทุกแบบที่จะนำมาขอใช้สิทธิผ่อนปรนภาษีได้ ควรจะเป็นประกันชีวิตหรือ
ประกันสุขภาพที่มีเงื่อนไขตรงดังที่สรรพากรระบุเท่านัน รวมทั้งประกันแบบไหนบ้างที่ผ่อนผันภาษีได้ ไปดูกันเลย
1. สัญญาประกันชีวิตแบบทั่วไปพวกเราสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตหรือประกันออมทรัพย์ดังที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาทไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดาได้ แม้กระนั้นกรมธรรม์ต้องมีช่วงเวลาปกป้อง 10 ปีขึ้นไป ต้องทำกับบริษัทสัญญาประกันที่อยู่ในไทย หากมีเงินคืนก็ควรต้องเอากลับคืนไม่เกิน 20% ของเบี้ยรายปี และก็ถ้าหากว่าชำระเงินคืนตามตอนระยะเวลาเงินที่ได้คืน อาทิเช่น 3 ปี 5 ปี ควรต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยสะสมของแต่ละช่วง
2. สัญญาประกันชีวิตแบบเบี้ยบำนาญสามารถเอาไปใช้ผ่อนผันภาษีได้ไม่เกิน 15% ของรายได้พึงประเมิน หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท จัดว่ามากกว่าสัญญาประกันแบบทั่วไป โดยกรมธรรม์นั้นต้องมีระยะเวลาคุ้มครองปกป้องตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะต้องทำกับบริษัทสัญญาประกันชีวิตในไทย และก็ควรมีการจ่ายผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอเมื่อผู้เอาประกันมีอายุ 55-85 ปีหรือมากยิ่งกว่านั้น รวมถึงจำเป็นที่จะต้องจ่ายเบี้ยกระทั่งครบก่อนเริ่มได้รับผลประโยชน์
สิทธิผ่อนปรนภาษีของประกันแบบเบี้ยบำนาญจำเป็นที่จะต้องไม่เกิน 500,000 บาทเมื่อรวมกับสิทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนรวมเพื่อการดำรงชีพ (RMF),กบข.(กบข.), กองทุนอนุเคราะห์อาจารย์โรงเรียนที่เป็นของเอกชน ,กองทุนการเก็บออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แล้ว
3. ประกันชีวิตของคู่ชีวิตในกรณีที่คู่ครองเป็นบุคคลที่ขาดเงินได้และเป็นคู่รักของเราตลอดทั้งปีภาษี ไม่ใช่เพิ่งจะมาสมรสกันในระหว่างปีภาษี สัญญาประกันของคู่สมรสก็สามารถนำมาผ่อนปรนภาษีได้ดังที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาทเหมือนกัน
4. ประกันสุขภาพส่วนตัวสามารถเอามาหักผ่อนปรนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ว่าไม่เกิน 25,000 บาท จากเดิมผ่อนผันได้สูงสุด 15,000 บาท โดยเริ่มปรับขึ้นตั้งแต่ปีภาษี 2563 เมื่อรวมค่าเบี้ย
ประกันสุขภาพ เบี้ย
ประกันอุบัติเหตุ กับค่าเบี้ยประกันชีวิตแล้ว สามารถเอามาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
ต้องเป็นประกันภัยที่ให้ความปกป้องการดูแลรักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยรวมทั้งอาการบาดเจ็บ การทดแทนพิกลพิการทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะด้วยเหตุว่าการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บนั้นๆ หรือประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองป้องกันเฉพาะการดูแลรักษาพยาบาล การพิกลพิการทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ แล้วก็การแตกหักของกระดูก รวมไปถึงประกันภัยป้องกันโรครุนแรงสัญญาประกันภัยการดูแลระยะยาว หรือ Long Term Care
5. ประกันสุขภาพคนแก่ที่ทำให้พ่อแม่เบี้ยประกันสุขภาพหรือเบี้ยประกันอุบัติเหตุคนวัยแก่ที่ทำให้บิดามารดาสามารถนำมาหักผ่อนปรนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยผู้ใช้สิทธิลดหย่อนควรเป็นบุตรแท้ๆโดยไม่ผิดกฎหมาย (บุตรบุญธรรมใช้ไม่ได้) แล้วก็ในกรณีที่พ่อแม่มีบุตรผู้คนจำนวนมาก ให้ลูกแต่ละคนเฉลี่ยหักค่าผ่อนผันได้เท่าๆกัน แม้กระนั้นรวมกันต้องไม่เกิน 15,000 บาท
นอกเหนือจากนี้ พ่อแล้วก็แม่ จะต้องมีรายได้คนละไม่เกิน 30,000 บาทต่อปีรวมทั้งจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทย
สำหรับข้อมูลอื่นๆสามารถอ่านถึงที่กะไว้
โกแบร์ไทยแลนด์Tags : ประกันสุขภาพ