ผู้เขียน หัวข้อ: ประกันผ่อนผันภาษี 2563 ตัวไหนดี ผ่อนปรนอย่างไรบ้าง  (อ่าน 109 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์

ใกล้ถึงตอนสิ้นปี ซึ่งถือว่าเป็นเทศกาลผ่อนปรนภาษี หลายๆคนก็กำลังมองหาตัวช่วยผ่อนผันภาษี เว้นเสียแต่หลักการ ช้อปดีมีคืน ในช่วงนี้ ก็มีประกันผ่อนผันภาษีเป็นอีกหนึ่งลู่ทางคู่กันกับหลายๆตัวเลือกให้ผู้มีเงินได้ได้เลือกลงทุน แต่การซื้อประกันผ่อนผันภาษีจะออกมาเป็นแบบอย่างไหน ผ่อนผันได้มากแค่ไหนบ้าง แล้วก็จะเลือกทำประกันตัวไหน ตรงนี้มีคำตอบ
เบี้ยประกันผ่อนผันภาษีได้มากแค่ไหน
เดี๋ยวนี้ ผู้มีรายได้สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดาสูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปี แต่ต้องเป็นสัญญาประกันชีวิตหรือเบี้ยประกันสุขภาพที่มีเงื่อนไขตรงจากที่สรรพากรกำหนดเท่านั้น
ประกันที่ใช้ลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง
ไม่ใช่เบี้ยประกันชีวิตจากกรมธรรม์ทุกแบบที่จะนำมาขอใช้สิทธิผ่อนผันภาษีได้ จะต้องเป็นสัญญาประกันหรือประกันสุขภาพที่มีเงื่อนไขตรงดังที่สรรพากรกำหนดเท่านัน รวมทั้งประกันแบบไหนบ้างที่ผ่อนปรนภาษีได้ ไปดูกันเลย
1. ประกันชีวิตแบบทั่วไป
เราสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตหรือประกันออมทรัพย์จากที่จ่ายจริงแม้กระนั้นไม่เกิน 100,000 บาทไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ แต่ว่ากรมธรรม์จะต้องมีช่วงเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป จำต้องทำกับบริษัทสัญญาประกันชีวิตที่อยู่ในไทย ถ้าหากมีเงินคืนก็จำเป็นที่จะต้องเอากลับคืนไม่เกิน 20% ของเบี้ยทุกปี รวมทั้งถ้าเกิดชำระเงินคืนตามตอนช่วงเวลาเงินที่ได้กลับคืน ตัวอย่างเช่น 3 ปี 5 ปี จำเป็นจะต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยสะสมของแต่ละระยะเวลา
2. สัญญาประกันชีวิตแบบบำนาญ
สามารถใช้ประโยชน์ผ่อนปรนภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงจะประเมิน หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท นับว่ามากยิ่งกว่าสัญญาประกันชีวิตแบบทั่วไป โดยกรมธรรม์นั้นจะต้องมีระยะเวลาคุ้มครองป้องกันตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะต้องทำกับบริษัทสัญญาประกันในไทย และก็ควรจะมีการจ่ายผลประโยชน์อย่างสม่ำเสมอเมื่อผู้ประกันแก่ 55-85 ปีหรือมากยิ่งกว่านั้น และต้องจ่ายเบี้ยกระทั่งครบก่อนเริ่มได้รับผลประโยชน์
สิทธิลดหย่อนภาษีของประกันแบบเบี้ยบำนาญจำเป็นต้องไม่เกิน 500,000 บาทเมื่อรวมกับสิทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF),กบข.(กบข.), กองทุนอนุเคราะห์คุณครูโรงเรียนที่เป็นของเอกชน ,กองทุนการเก็บออมแห่งชาติ (กอช.) และก็กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แล้ว
3. สัญญาประกันชีวิตของคู่ควง
ในเรื่องที่คู่บ่าวสาวเป็นบุคคลที่ขาดเงินได้และก็เป็นคู่ควงของพวกเราตลอดทั้งปีภาษี ไม่ใช่เพิ่งจะมาสมรสกันในระหว่างปีภาษี สัญญาประกันของสามีภรรยาก็สามารถเอามาผ่อนผันภาษีได้ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาทเช่นกัน
4. ประกันสุขภาพส่วนตัว
สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ตามปริมาณที่จ่ายจริง แต่ว่าไม่เกิน 25,000 บาท จากเดิมผ่อนปรนได้สูงสุด 15,000 บาท โดยเริ่มปรับขึ้นตั้งแต่ปีภาษี 2563 เมื่อรวมค่าเบี้ยประกันสุขภาพ เบี้ยประกันอุบัติเหตุ กับค่าเบี้ยประกันชีวิตแล้ว สามารถเอามาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
ต้องเป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองการดูแลและรักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยรวมทั้งการบาดเจ็บ การชดเชยพิกลพิการทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะเนื่องจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บนั้นๆ หรือประกันอุบัติเหตุที่ป้องกันเฉพาะการรักษาพยาบาล การพิการทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูก รวมไปถึงสัญญาประกันภัยคุ้มครองปกป้องโรครุนแรงประกันภัยการดูแลระยะยาว หรือ Long Term Care
5. ประกันสุขภาพคนสูงอายุที่ทำให้พ่อแม่
เบี้ยประกันสุขภาพหรือเบี้ยประกันอุบัติเหตุคนสูงอายุที่ทำให้บิดามารดาสามารถนำมาหักผ่อนผันภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยผู้ใช้สิทธิผ่อนผันต้องเป็นบุตรแท้ๆโดยถูกกฎหมาย (บุตรบุญธรรมใช้ไม่ได้) และก็ในเรื่องที่บิดามารดามีบุตรคนไม่ใช่น้อย ให้บุตรแต่ละคนเฉลี่ยหักค่าผ่อนผันได้เท่าๆกัน แต่รวมกันจำเป็นต้องไม่เกิน 15,000 บาท
นอกเหนือจากนั้น พ่อและก็แม่ ต้องมีรายได้คนละไม่เกิน 30,000 บาทต่อปีและก็จำต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทย
สำหรับรายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้สามารถอ่านได้ที่ GoBear

Tags : ประกันสุขภาพ