แจกของฟรี

ปัจจุบัน มีผู้เชี่ยวชาญด้านการทำงานและก็ผู้คนสถานที่ทำงานในวงการโฆษณาได้ให้สัมภาษณ์รวมทั้งสนทนาถึงการทำงานในปี 2020 ว่าจะเป็นไปในแนวทางใด วันนี้เว็บไซต์ ก็เลยได้นำสิ่งที่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญพวกนั้นได้คาดเดาเอาไว้มาฝากให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ ว่าการดำเนินงานในปี 2020 จะเป็นยังไง

1. งานไม่ใช่ทั้งหมดทุกอย่างในชีวิตเมื่อปัจจุบันชาว Gen Y และ Gen Z เข้าสู่โลกแห่งการทำงานกันมากยิ่งขึ้น ทำให้เค้าเหล่านั้นมีมุมมองรวมทั้งให้คุณค่าสำหรับเพื่อการดำเนินการที่แตกต่างออกไป โดยชาวกรุ๊ป Gen Y และก็ Gen Z มองว่างานไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต และไม่ควรต้องทุ่มเทไปกับงานมากจนเกินความจำเป็น เนื่องจากมีงานศึกษาเรียนรู้วิจัยออกมาประกาศว่า การทำงานมากเกินไป จะมีผลต่อปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตามมาทีหลัง ไม่ว่าจะเป็นอาการหงอยเหงา หม่นหมอง และก็อาการหมดไฟสำหรับการดำเนินงาน เป็นต้นทางด้านนักจิตวิทยาคลินิก Josh Cohen เจ้าของหนังสือ Not Working : Why we have to stop ได้เจาะจงในหนังสือเล่มนี้ว่า “ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาพวกเราอยู่ในยุคของการทำงานหนักมานานมาก จนถึงทำให้มีความรู้สึกว่าเมื่อหยุดปฏิบัติงานแล้ว จะเป็นยังไง” ด้วยเหตุนี้ เทรนด์ของการทำงานในปี 2020 นี้ ควรต้องมีการพักการทำงานบ้าง หาเวลาพักผ่อน ท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มพลังให้กับร่างกายและจิตใจได้กลับมาคล่องแคล่วอีกครั้ง เพื่อเกิดแนวคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนจินตนาการต่างๆในการปฏิบัติงาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำงานในยุคนี้เลยทีเดียว

2. ทำงานหรือหารายได้ในหลายวิถีทาง ล่าสุดมีงานศึกษาเรียนรู้วิจัยจาก The Open University ได้กล่าวว่า ชาว Gen Z คิดว่าการทำงานในยุคนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องดำเนินงานที่เดียวหรืออย่างเดียว โดยผลที่เกิดขึ้นจากการสำรวจได้กล่าวว่า ชาว Gen Z ปริมาณ 95% มีความต้องการที่จะมีกิจการค้าหรือธุรกิจของตนเอง แล้วก็ 53% พบว่าชาว Gen Z ไม่นิยมปฏิบัติงานที่เดียวหรือมีรายได้แค่เพียงช่องเดียวเพียงแค่นั้น เมื่อเทียบกับคนรุ่น Gen Y แล้ว มีเพียงแค่ 47% แค่นั้นที่ต้องการมีกิจการของตนโดยเหตุนี้ คนกลุ่ม Gen Z มีความต้องการที่จะร่วมงานกับองค์กรที่เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงประสิทธิภาพหลายอย่าง และเปิดโอกาสให้ทำงานได้มากกว่า 1 อย่าง เนื่องจากว่าชาว Gen Z ชอบและก็มีความต้องการที่จะเป็นเจ้าของกิจการอย่างที่ตนได้วาดวิมานในอากาศเอาไว้

3. หัวเราะในสถานที่ทำงานได้ ก็ร้องไห้ได้เหมือนกันเมื่อใครหลายคนได้อ่านข้อนี้ เชื่อเลยคะว่าควรมีความมึนงงกันบ้างว่า“หัวเราะในสถานที่สำหรับทำงานได้ ก็ร้องไห้ได้เหมือนกัน” เป็นยังไง เรื่องนี้จะบอกคุณว่าคนรุ่นใหม่มักใช้เวลาแล้วก็ทุ่มเทไปกับงานเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งไม่เหมือนกันกับคนภายในยุคก่อนๆที่แยกระหว่างการทำงานกับเวลาส่วนตัวได้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคนภายในยุคนี้จะใช้เวลาในสถานที่ทำงานมากขึ้น พินิจได้ไม่ยากเลยจ๊ะว่า ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ จะมี Co-Working Space ที่คอยเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งก็นับได้ว่า คนภายในปัจจุบันสามารถดำเนินงานตอนไหนหรือตรงไหนก็ได้ โดยไม่จำเป็นจำต้องเข้าสำนักงาน เมื่อใช้เวลาไปกับการทำงานมากจนเกินความจำเป็นแล้ว ย่อมมีผลปัญหาเกี่ยวกับอารมณ์อีกด้วย เหล่าผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำงานเห็นว่า การร้องไห้ฟูมฟายในสถานที่ทำงานไม่ใช่เรื่องที่แปลกและก็แสดงถึงความอ่อนแออีกต่อไป เนื่องจากมั่นใจว่า “ในเมื่อหัวเราะในสถานที่สำหรับทำงานได้ ก็ไม่แปลกที่ร้องไห้ในสถานที่สำหรับทำงานได้เช่นเดียวกัน”

4. แลกเปลี่ยนเรื่องค่าตอบแทนรายเดือน เป็นเรื่องปกติตอนนี้ การทำงานในสมัย 2020 จะมีการพูดคุยเรื่องเงินเดือนกันมากขึ้น ซึ่งถือว่าไม่ใช่การสอดทราบใส่มองเห็นนะคะ แม้กระนั้นจะเป็นการตรวจสอบเรื่องค่าตอบแทนรายเดือนให้กว้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังเช่น บางคนดำเนินงานในตำแหน่งเดียวกัน แม้กระนั้นได้รับค่าตอบแทนรายเดือนที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเมื่อมีการแลกเรื่องค่าจ้างรายเดือน แล้วพบว่าความไม่ชอบธรรมเกิดขึ้น ก็สามารถไปต่อรองได้ อย่างไรก็ตาม หลากหลายองค์กรที่รู้สึกว่าเรื่องค่าจ้างรายเดือน เป็นเรื่องที่ Sensitive มากมาย ดังนั้น การแลกเปลี่ยนเรื่องค่าจ้างรายเดือนนั้น จึงเป็นสิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงก่อนแลกข้อคิดเห็นกันจ้ะ

5. พบแพทย์หารือปัญหาด้านสุขภาพจิตปัจจุบันนี้ ปัญหาด้านสุขภาพจิตกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรคไม่มีชีวิตชีวาหรืออาการหมดไฟสำหรับในการปฏิบัติงานก็ตาม ซึ่งแนวทางแก้ไขในปัญหาด้านนี้เป็น การไปพบหมอเพื่อหารือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตนั่นเองจ้ะ เพราะฉะนั้น การจัดการกับปัญหาทางด้านจิตใจในที่ทำงาน ถือได้ว่าที่อยากได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้พนักงานในหน่วยงานมีการสนทนา แลกความนึกคิด เพื่อเป็นแนวทางออกนั่นเองจ้ะ
 
เป็นอย่างไรกันบ้างขา กับการทำนายการทำงานในปี 2020 โดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการทำงานที่ได้ชี้แจงการทำงานในยุคนี้ว่าคืออะไร โดยเฉพาะแนวทางการทำงานของกลุ่ม Gen Z ที่ให้ความเอาใจใส่กับการทำงานเป็นอันมาก อย่างไรก็ตาม พวกเขาเหล่านั้นก็อยากความยืดหยุ่นจากองค์กรอีกด้วย ยิ่งองค์กรไหนสามารถให้ความยืดหยุ่นได้มากกว่า ก็ยิ่งเป็นจุดสนใจสำหรับชาว Gen Z อย่างยิ่งจริงๆ ด้วยเหตุผลดังกล่าว สำหรับองค์กรไหนที่ปรารถนากลุ่มคนเหล่านี้ร่วมดำเนินการแล้ว หน่วยงานเหล่านั้นจำเป็นจะต้องเรียนสิ่งที่จำเป็นของคนพวกนี้อีกด้วย เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพและทำงานด้วยกันอย่างสุขสบายค่ะ
 

Tags :  บอร์ด