ผู้เขียน หัวข้อ: &&เลือกใช้ หน้ากากอนามัย ยังไง ให้เหมาะกับการคุ้มครองป้องกันโควิด19 หรือมลภาวะ P  (อ่าน 124 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
     หลายๆคนอาจจะกำลังสงสัยอยู่ว่า สถานการณ์เดี๋ยวนี้ภายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาด หรือวิกฤตมลภาวะทางอากาศอย่าง PM2.5 ที่เมืองไทยจำเป็นต้องพบเห็นในช่วงปลายปีถึงต้นปีก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาและในโซนภาคเหนือที่ยังคงจะต้องพบเห็นเรื่อยๆต่อเนื่องจากปัญหาไฟป่า พวกเราน่าจะป้องกันสุขภาพเช่นไรเพื่อไม่ให้กำเนิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง แน่ๆว่าสิ่งแรกที่ควรจะต้องมีเลยก็คือ หน้ากากอนามัย แต่ว่าคนไหนกันควรจะต้องใช้บ้าง หน้ากากเด็ก แล้วก็ควรที่จะเลือกยังไงให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์บ้าง มาดูกัน!

     
 
สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ >> หน้ากากเด็ก https://www.maskk.me/th

     จำพวกหน้ากากอนามัยที่เหมาะสมกับแต่ละเหตุการณ์/แต่ละบุคคล
สถานการณ์โลกที่ทวีความร้ายแรงขึ้นเรื่อยอย่างวัววิด-19 แพร่ระบาด ที่ในตอนนี้มียอดผู้เจ็บป่วยติดเชื้อโรคสะสมเกินจำนวนหลักล้าน และก็ยังไม่มีท่าทางแจ่มชัดว่าจะจบลงเมื่อไหร่ หรือมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศอย่างฝุ่นละอองควันทั่วไปตามท้องถนน ไปจนถึง PM2.5 ก็ตาม อย่างน้อยทุกคนก็ควรมีหน้ากากอนามัยไว้ปกป้องตัวเอง แบ่งตามชนิดของหน้ากากอนามัยให้เหมาะสมกับบุคคลรวมทั้งเหตุการณ์ได้โดยประมาณ 3 กลุ่มร่วมกัน ดังเช่น

     1) หน้ากากอนามัยแบบผ้า
ลักษณะ : หน้ากากอนามัยอย่างนี้มักมีราคาไม่สูง เนื่องด้วยทำจากผ้า โดยเราสามารถเลือกชนิดของผ้าได้จากที่ตัวเองอยากได้ มีทรงออกแบบ เนื้อผ้า รวมทั้งลวดลายให้เลือกนานาประการ หาซื้อได้ง่าย รวมทั้งสามารถซัก-ตากแห้งเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำได้ การคุ้มครองป้องกันอนุภาคละอองต่างๆขึ้นกับประเภทของเนื้อผ้าที่ใช้ และก็เพราะเป็นสิ่งของที่ไม่อาจจะกันความชุ่มชื้นได้เลยบางทีอาจเสี่ยงสะสมเชื้อโรคที่ลอยมาติดหน้ากากได้นานกว่าหน้ากากประเภทอื่น

     เสนอแนะ : ถ้าเกิดคนไหนมีผิวที่ค่อนข้างเคืองง่าย หรือเป็นสิวง่าย อาจมีการระคายเคืองหรือมีสิวขึ้นหนักในช่วงที่สวมใส่หน้ากากผ้าเพราะเหตุว่ามีการเสียดสีระหว่างเนื้อผ้ากับผิวได้ หน้ากากเด็กเสนอแนะให้ใช้หน้ากากอนามัยที่ทำมาจากผ้าคอตตอนก็จะอ่อนโยนกับผิวมากกว่าแบบอื่น หรือถ้าหากคนใดที่อยากเนื้อผ้าซึ่งสามารถกันละอองน้ำลาย หรือฝุ่นผงควันอนุภาคเล็กได้ อาจใช้หน้ากากผ้าที่ทำมาจากผ้ามัสลินหรือผ้าสาลูทบกัน 2 ชั้น ก็จะช่วยกันละอองอนุภาคเล็กได้เกือบจะเสมอกันหน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวได้เลย อื่นๆอีกมากมาย

     

     เหมาะสมกับคนใดกันแน่ : ในสถานการณ์วัววิด-19 แพร่ระบาด ผู้ที่เหมาะกับการใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าคือ ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้ป่วยมีโรคประจำตัว ไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อโรควัววิด-19 และไม่ได้เดินทาง/จำต้องอยู่ในสถานที่เสี่ยงที่จะต้องพบเห็นคนที่อาจติดเชื้อโรควัววิด-19 ส่วนในสถานการณ์ที่จะต้องเจอมลภาวะทางอากาศ เหมาะสมกับในสถานการณ์ปกติ ดังเช่นว่า ฝุ่นผงควันบนท้องถนนทั่วไปที่ไม่ใช่ฝุ่น PM2.5 อื่นๆอีกมากมาย

     2) หน้ากากอนามัยแบบใยสังเคราะห์ 3 ชั้น หรือหน้ากากอนามัยทั่วๆไปแบบใช้แล้วทิ้ง
ลักษณะ : หน้ากากอนามัยจำพวกนี้ชอบมีการเลือกใช้สิ่งของและแนวทางการผลิตอย่างยอดเยี่ยม คนละฝั่งมักจะมีสีที่แตกต่าง ยกตัวอย่างเช่น ฝั่งหนึ่งสีขาว อีกฝั่งสีเขียวหรือน้ำเงิน ฯลฯ ด้านนอกมีสารเคลือบคุ้มครองปกป้องเชื้อโรคหรือไวรัสอยู่ หน้ากากจำพวกนี้สามารถมั่นอกมั่นใจได้ว่า ถ้าเกิดสวมพวกเราจะไม่ติดโรคหรือเชื้อไวรัสที่ลอยมาพร้อมกับอากาศหรือละอองน้ำลาย แม้กระนั้นหน้ากากอนามัยชนิดนี้สามารถหาซื้อได้ค่อนข้างจะยาก แล้วก็แพงพอควร

ชี้แนะ : เวลาสวมใส่ควรเอาฝั่งสีขาวแนบเข้าหาบริเวณใบหน้า เพราะว่าข้างในหรือฝั่งสีขาวจะช่วยซึมซับละอองน้ำ ทำให้ซับน้ำมูกน้ำลายได้ดีกว่า ทั้งยังยังนุ่มต่อผิว ลดการระคายเคืองเมื่อต้องเสียดสีกับผิวหน้าได้ดีมากว่า แล้วก็ส่วนพับจีบของหน้ากากก็จะเป็นแบบหงายขึ้น ส่วนภายนอกคือที่มีสีอื่นๆยกตัวอย่างเช่น สีเขียว, สีฟ้า อื่นๆอีกมากมาย ชอบมีการฉาบสารปกป้องการซึมของความชื้น ไม่ให้ซึมเข้ามาถึงจมูกและส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับทางเดินหายใจของพวกเราได้ การสวมใส่ข้างหลังคล้องที่หูทั้งสองข้างเรียบร้อยควรจะกดแถบลวดให้แนบสนิทกับบริเวณใบหน้า และดึงด้านล่างหุ้มใต้คางให้เรียบร้อย นอกจากนี้ควรเลือกร้านค้าที่มั่นหัวใจว่า มีของที่ตามมาตรฐาน เหตุเพราะตอนก่อนหน้านี้มีมิจฉาชีพได้นำหน้ากากอนามัยใช้แล้วหรือของปลอมไร้คุณภาพมาจัดจำหน่าย

เหมาะสมกับผู้ใดกันแน่ : ในสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด คนที่เหมาะสมกับการใช้หน้ากากอนามัยแบบใยสังเคราะห์ 3 ชั้น หรือหน้ากากอนามัยทั่วไปแบบใช้แล้วทิ้งคือ ผู้ที่มีภูมิต้านทานไม่ค่อยดี สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง อาจมีโรคประจำตัว หรือมีลักษณะท่าทางว่าจะเสี่ยงติดเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ได้ เช่น จำต้องเดินทางไปดำเนินงานผ่านสถานที่ยัดเยียดเสมอๆ หรือจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับผู้ที่จำต้องกักตัวข้างหลังไปพื้นที่เสี่ยงมา ฯลฯ ส่วนในเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องเจอมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ เหมาะสมกับคนที่จะต้องเดินไปในที่แออัดคับแคบเสมอๆ ตัวอย่างเช่น รถยนต์สาธารณะ บางทีอาจใส่ไปในที่ที่มีมลภาวะทางอากาศหนาแน่นได้ แต่ว่าจะคุ้มครองปกป้อง PM2.5 ได้ไหม จำต้องดูที่หน้าบรรจุภัณฑ์อีกครั้ง ฯลฯ

*เพิ่ม หน้ากากอนามัยแบบธรรมดาและหน้ากากอนามัยแบบคาร์บอนไม่เหมือนกันอย่างไร : สามารถกรองอนุภาคเล็กได้เหมือนกัน แม้กระนั้นแบบคาร์บอนช่วยกรองกลิ่นที่ไม่ปรารถนาได้ด้วย

     3) หน้ากากอนามัยแบบ N95
ลักษณะ : หน้ากากอนามัยที่มีราคามากที่สุด เพราะว่ามีขั้นตอนการผลิตที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน และก็การใช้แรงงานก็ซับซ้อนไม่ได้แตกต่างกัน ถ้าหากไม่เคยใช้มาก่อนจะมีความคิดว่าใช้งานยาก รวมทั้งใส่เรียบร้อยรึยัง ส่วนประสิทธิภาพสำหรับในการคุ้มครองป้องกันสามารถทำเป็นดี ประสิทธิภาพมากที่สุด คุ้มครองปกป้องอนุภาคละอองขนาดเล็กมากมายได้ คุ้มครองป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคเจริญ

เหมาะกับคนใด : กรรมวิธีการผลิตมีจำกัด ในช่วงสถานการณ์วัววิด-19 แพร่ระบาดแบบนี้ควรจะให้พนักงานทางด้านการแพทย์ที่ควรต้องพบผู้เจ็บป่วย และเชื้อโรคตลอดระยะเวลาได้ใช้จะดีที่สุด ส่วนในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องพบมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ ในขณะนี้ค่อนข้างจะเหมาะกับคนที่อยู่ภายในเขตพื้นที่ หรือเจ้าหน้าที่ดับไฟที่จะต้องเสี่ยงเจอฝุ่น PM2.5 หนาแน่นในโซนภาคเหนือ ชนิดนี้ค่อนข้างเหมาะสมกับผู้ที่จำต้องปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงเจอเชื้อวัววิด-19 หรือ PM2.5 มากๆแต่ว่าถ้าหากเป็นคนสามัญไม่ค่อยเสนอแนะ เนื่องมาจากแพงสูง และไม่ได้จะต้องใช้ N95 ขนาดนั้น

นอกจากการเลือกชนิดหน้ากากอนามัยให้เหมาะสมกับการใช้แรงงานแล้วก็สถานการณ์แล้ว ยังควรเลือกให้เหมาะสมกับผู้สวมเพื่อให้การใช้งานคุ้มครองปกป้องสุขภาพจากเชื้อโรคและก็ฝุ่นมลพิษสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่อีกด้วย อาทิเช่น แม้เลือกให้ลูกน้อย ควรที่จะเลือกหน้ากากอนามัยสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพื่อสวมแล้วพอดิบพอดีกับรูปหน้า สามารถคุ้มครองสุขภาพได้อย่างมีคุณภาพ

     การปกป้องคุ้มครองสุขภาพนอกเหนือจากการสวมใส่หน้ากากกันฝุ่น
อย่างที่หลายคนน่าจะพอเพียงรู้กันว่า การสวมใส่หน้ากากอนามัย ไม่สามารถป้องกันสุขภาพจากเชื้อโรควัววิด-19 รวมทั้งสิ่งสกปรกอื่นๆอาทิเช่น มลพิษ อื่นๆอีกมากมาย เข้าสู่ร่างกายได้แบบ 100% แม้กระนั้นจึงควรดูแลด้วยแนวทางอื่นๆควบคู่เพื่อให้การคุ้มครองป้องกันสุขภาพสามารถคุ้มครองป้องกันได้อย่างมีคุณภาพแบบ 100% ดังต่อไปนี้

     1) ล้างมือให้สะอาด
คนไม่ใช่น้อยน่าจะติดนิสัยชอบเอามือมาสัมผัสบริเวณใบหน้า ซึ่งทำให้เชื้อโรค หรือมลพิษที่ติดผิวมาสามารถเข้าสู่ร่างกายได้จากการสัมผัสของเรา เพราะฉะนั้น ก่อนจะเอามือมาสัมผัสหน้า, ถอดหน้ากากอนามัยออก หรือก่อนกินอาหาร ควรจะทำความสะอาดมือของพวกเราให้ถูกวิธีทุกหน ด้วยสบู่ก้อนหรือสบู่เหลวก็ได้ ถูชำระล้างให้ทั่วฝ่ามือแล้วก็หลังมือ โดยใช้เวลาประมาณ 20-30 วินาทีแค่นั้น แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แต่ว่าหากในกรณีที่จำเป็นต้องออกไปภายนอก ไม่สะดวกสำหรับการใช้สบู่และก็น้ำล้างมือ บางทีอาจพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือแทนก็ได้ โดยเลือกใช้เจลแอลกอฮอล์ที่มีส่วนประกอบเป็น Ethyl Alcohol เข้มข้น 70% ขึ้นไป และมีเลขจดแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สามารถสำรวจข้อมูลได้ หน้ากากกันฝุ่น

     2) เสริมเกราะคุ้มครองสุขภาพด้วยไอเท็มอื่นๆ
นอกจากหน้ากากอนามัย แล้วก็เจลแอลกอฮอล์ที่ต้องพกประจำตัวเวลาเดินทางในช่วงยามนี้แล้ว ยังควรจะพกไอเท็มอื่นๆเพิ่มอีกเพื่อเสริมสมรรถนะสำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกันสุขภาพรวมทั้งเสริมความมั่นใจและความเชื่อมั่นด้วย ยกตัวอย่างเช่น กระดาษทิชชูแฉะสำหรับเพื่อการชำระล้างมือ ผิว สิ่งของที่จำเป็นต้องสัมผัส, แว่นครอบตานิรภัย ช่วยคุ้มครองป้องกันเชื้อโรคหรือมลพิษมาสัมผัสผ่านดวงตา ฯลฯ หน้ากากกันฝุ่น

ท้ายที่สุด อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพร่างกายในระยะนี้ให้ดีเป็นพิเศษ ด้วยเหตุว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่นี้ เมื่อติดโรคแล้วจำเป็นต้องจ่ายค่าตรวจ และก็ค่าหมอในอัตราที่สูงมาก, หากเป็นหนักได้โอกาสถึงขั้นเสี่ยงเสียชีวิต และก็ต่อให้จะรักษาหายร่างกายก็บางทีก็อาจจะไม่กลับมาดังเดิม โดยยิ่งไปกว่านั้นปอดที่ถูกทำลายจากเชื้อไวรัสวัววิด-19 ร่างกายไม่สามารถที่จะฟื้นฟูและก็ยังไม่มีวิธีทางการแพทย์ซึ่งสามารถรักษาหายได้ เพราะฉะนั้นควรจะปกป้องไว้ดีกว่าปรับแต่งในตอนหลังแน่นอน แล้วพวกเราจะผ่านวิกฤตวัววิด-19 รวมทั้งมลพิษ PM2.5 นี้ไปร่วมกัน
 
     
 
ขอขอบคุณบทความ บทความ หน้ากากอนามัย https://www.maskk.me/th

Tags : หน้ากากอนามัย,หน้ากากเด็ก