ผู้เขียน หัวข้อ: ^^ 11 เช็คลิสต์ ข้อควรตรึกตรองในการปฏิบัติงานส่งโรงพิมพ์  (อ่าน 69 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
     การออกแบบงานพิมพ์ต่างๆสำหรับส่งโรงพิมพ์นั้น อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่ไม่เคยทำมาก่อน ด้วยเหตุว่าจะมีเนื้อหาที่ยิบย่อยอยู่มากพอควร บ่อยครั้งที่โรงพิมพ์รับไฟล์ต้นฉบับจากลูกค้ามาแล้วพบว่ามีปัญหาต่างๆล้นหลาม แต่จะมีอยู่กลุ่มหนึ่งที่พบได้บ่อย วันนี้โรงพิมพ์วัชรินทร์ พี.พี. ก็เลยทำเช็คลิสต์สำหรับลูกค้าทุกท่าน เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจงานเบื้องต้น โรงพิมพ์แนะนำเป็นอย่างยิ่งว่า ลูกค้าควรจะใช้เช็คลิสต์นี้ ตรวจก่อนส่งงานให้กับโรงพิมพ์ทุกครั้ง จะมีผลให้งานที่มาถึงโรงพิมพ์แล้ว เข้าสู่กระบวนการพิมพ์ได้เร็วขึ้น งานก็จะเสร็จเร็วขึ้นตามไปด้วยครับ เช็คลิสต์ที่ว่านี้มีอะไรบ้างนั้น มาดูกันครับ โรงพิมพ์ ราคาถูก

     
 
คลิ๊กหาพวกเราได้จากเว็บไซต์ โรงพิมพ์ https://www.wacharinprint.com/

สำหรับลูกค้าที่อยากได้พิมพ์เช็คลิสต์ไปใช้งาน สามารถดาวโหลด Checklists เหมาะนี่

     1. ขนาดงาน
ควรเซ็ตหน้างานให้ตรงกับขนาดที่ตกลงกันไว้กับโรงพิมพ์ตามใบเสนอราคา หรือติดต่อมาและสอบถามทางโรงพิมพ์ก่อนทุกหนถ้าเกิดยังคลุมเคลือ อย่างเช่น หนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คส์ขนาด A5 ในช่วงเวลาที่ขนาด A5 ตามมาตรฐาน ISO จะเป็น 148 x 210 มิลลิเมตร แม้กระนั้นขนาดเสร็จในมาตรฐานโรงพิมพ์ในประเทศไทยจะเป็น 145 x 210 มิลลิเมตร โรงพิมพ์จะใช้ขนาด 145 x 210 มิลลิเมตร เป็นหลักครับ หรือขนาด A4 ตามมาตรฐาน ISOเป็น210 x 297 มิลลิเมตร แต่มาตรฐานโรงพิมพ์จะเป็น 210 x 292 มม.

ด้วยเหตุดังกล่าวขนาดสำเร็จของหนังสือทั้งยังเนื้อในและหน้าปกก็ควรจะมีขนาดที่ถูกเหมือนกัน การทำงานด้วยโปรแกรมบางชนิด อย่างเช่น Adobe Illustrator ถ้าเกิดลูกค้าเซ็ตหน้างานมาไม่ถูกต้อง จะก่อให้เสียเวลาสำหรับการกลับไปปรับปรุงอย่างใหญ่โต ทางที่ดีควรขอคำแนะนำขนาดหน้างานกับทางโรงพิมพ์ก่อนเริ่มงานทุกหนขอรับ

   

     2. ตัดตก
สำหรับงานทุกประเภทที่ทำส่งโรงพิมพ์ ไม่ว่าจะสร้างงานมาด้วยโปรแกรมใดก็ตาม จำเป็นจะต้องเซ็ตขนาดตัดตกเผื่อเจียนไว้ด้วยทุกหน (ตัดตกเผื่อเจียนเป็นยังไงอ่านได้จากที่นี่) งานจำนวนมากที่ทำสำเร็จมาแล้วนั้นทางโรงพิมพ์ไม่สามารถที่จะปรับแต่ง/เพิ่มอะไรให้ได้ ถ้าหากตรวจเจอ แจ่มแจ้งเตือนลูกค้าให้กลับไปแก้งานใหม่ครับผม ด้วยเหตุนั้นก่อนจะลงมือทำต้นฉบับทุกหน ทดลองขอความเห็นกับโรงพิมพ์ก่อนซักนิดนะครับ โรงพิมพ์ ราคาถูก

   

     3. โปรไฟล์สี
งานที่จะส่งพิมพ์ในระบบออฟเซ็ต จำเป็นต้องใช้ระบบสี CMYK เพียงแค่นั้น ภาพหลายภาพที่ลูกค้าดาวโหลดมาจากอินเตอร์เนท หรือถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพดิจิตอลนั้นเป็นระบบสี RGB ซึ่งบางครั้งบางคราวนำมาออกแบบ แต่ว่ามิได้แปลงระบบสีมาให้โรงพิมพ์ พอนำมาพิมพ์จริงแล้วสีฟั่นเฟือนนะครับ แนะนำให้ตั้งค่าระบบสีให้ถูกก่อนเริ่มงานทุกคราวครับผม สำหรับงานที่พิมพ์ปกสีเดียว (ขาวดำ) รูปที่เป็นขาวดำก็จะต้องเป็นดำเดี่ยว (Greyscale) ไม่ใช่สีดำ 4 เม็ด

      4. ใช้ดำโดดเดี่ยวสำหรับตัวอักษร
สำหรับงานในลักษณะของหนังสืออ่านพิมพ์สีเดียว (ขาวดำ) อาทิเช่น หนังสือแบบเรียน หนังสือนวนิยาย ฯลฯ ที่เน้นย้ำให้อ่านตัวหนังสือ เน้นเนื้อความ จึงควรใช้สีดำผู้เดียว (K100) กับตัวอักษรแค่นั้น ห้ามทำเป็นดำ 4 เม็ดมาเด็ดขาด (ดำคนเดียว ดำ 4 เม็ดเป็นอย่างไร อ่านต่อที่นี่)

     5. แนบฟอนต์ด้วยเสมอ
ถ้าลูกค้ามีการใช้งานฟอนต์พิเศษ จึงควรกระทำแนบฟอนต์ส่งมากับไฟล์งานด้วยเสมอ เนื่องจากเมื่อโรงพิมพ์เปิดไฟล์งานของลูกค้าแล้ว ถ้าพบว่าไม่มีฟอนต์ โปรแกรมจะฟ้อง Error ทำให้ไม่สามารถที่จะแก้ไขงานได้ ในเรื่องที่ลูกค้าไม่ต้องการที่จะอยากส่งไฟล์ฟอนต์มา ลูกค้าสามารถเปลี่ยน Text ในโปรแกรม ให้เป็นภาพได้ ยกตัวอย่างเช่น การใช้คำบัญชา Create Outline ใน Adobe Illustrator หรือการ Rasterize Type ใน Adobe Photoshop โรงพิมพ์ หนังสือ

   

     6. แนบไฟล์ด้วยเสมอ
ไฟล์ที่นำมาวางในงาน เช่นเดียวกันกับฟอนต์ หากลูกค้ามีการนำภาพ หรือไฟล์อื่นๆมาวางในงาน จะต้องกระทำแนบไฟล์มาด้วยเสมอ มิเช่นนั้นแล้วเมื่อใดก็ตามทางโรงพิมพ์เปิดไฟล์ จะขึ้น Error Missing Link ภาพไม่ปรากฎในงาน แล้วก็เอาไปใช้พิมพ์งานมิได้ ลูกค้าสามารถใช้คำบัญชา Embed Image ใน Adobe Illustrator เพื่อทำการฝังไฟล์ภาพลงไปในไฟล์งานได้ หรือในเรื่องที่ทำงานด้วย Adobe InDesign ลูกค้าควรจะส่งงานเป็น Package เพียงแค่นั้น (การส่งงานเป็น Package เป็นยังไง ดูได้จากที่นี่) โรงพิมพ์ ราคาถูก

   

     7. เช็คระยะจากขอบกระดาษ
ระยะจากขอบกระดาษ การเข้ารูปเล่มในแบบต่างๆส่งผลกับการออกแบบงานด้วยนะครับ ถ้าหากหนังสือดกจำต้องเข้าเล่มแบบไสกาว ถ้าหนามากเวลาเปิดอ่านจะตรากตรำกว่าเล่มบาง ทำให้พื้นที่ข้างในรอบๆสันจะอ่านได้ตรากตรำกว่าที่อื่นๆ ดังนั้นจำเป็นต้องเว้นระยะจากสันออกมามากยิ่งกว่าธรรมดาอยู่พอควร ระยะที่สมควรสำหรับงานหนังสือเป็นต้นว่าหนังสือนิยาย คร่าวๆจะอยู่ที่ 15 มม.รอบๆ และ 20-25 มม.

สำหรับสันหนังสือ ส่วนหนังสือที่เย็บเล่มแบบเย็บกึ่งกลาง ได้แก่ แมกกาซีน หรือแคทตาล็อก บางครั้งก็อาจจะเว้นระยะจากขอบกระดาษได้ 8-10 มิลลิเมตรโดยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจเรื่องสันครับ

   

     8. การตีสีหน้าคู่หน้าคี่
สำหรับหนังสือที่มีเลขหน้านั้น สำหรับโรงพิมพ์แล้ว หน้า 1 จะเริ่มนับจากหน้าแรกสุดที่อยู่ต่อจากหน้าปกเสมอ แต่ว่าลูกค้าบางคนบางทีอาจจะไม่ได้นับหน้าที่อยู่ต่อจากปกเป็นหน้า 1 เสมอไป บางครั้งอาจจะไปเริ่มจากหน้าด้านใน แต่ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ดี โดยธรรมชาติของหนังสือแล้ว หน้าขวามือจะเป็นหน้าคี่เสมอ และก็หน้าซ้ายมือจะเป็นหน้าคู่เสมอ การกำหนดตำแหน่งของเลขหน้าก็จะอิงกับหน้าซ้ายหรือขวาด้วย ถ้าเป็นหน้าซ้ายมือ ตำแหน่งของเลขหน้าก็มักจะอยู่บริเวณด้านซ้าย (ไม่ว่าจะอยู่ข้างบน กลาง หรือด้านล่างก็ตาม) โรงพิมพ์ หนังสือ

หากลูกค้ามีการวางเลขหน้าสลับซ้ายขวาคู่คี่ ทางโรงพิมพ์ชัดเจนเตือนให้กลับไปปรับแก้ก่อนนะครับ แต่ว่าถ้าลูกค้าการันตีว่าอยากออกแบบมาให้ผิดตาในลักษณะนั้น ก็สามารถทำเป็นเช่นกันครับผม

     9. เช็คระดับเลขหน้า
เลขหน้า / Footer / Header ในแต่ละหน้า น่าจะจะต้องรักษาระดับให้เท่าๆกัน บ่อยครั้งโรงพิมพ์พบว่า ตำแหน่งของ Header / Footer ไม่มีความแน่นอน สูงบ้าง ต่ำบ้าง หากทางโรงพิมพ์ตรวจพบ แจ่มแจ้งให้ลูกค้าทราบครับผม

     10. เช็คความต่อเนื่องของการออกแบบ
กรณีมีคนทำกราฟฟิคคนไม่ใช่น้อย จะต้องมีคนกลาง 1 คนในการรวบรวมไฟล์ทั้งหมดทั้งปวง มาพิจารณาถึงความถูกต้องของไฟล์ทั้งปวงก่อนส่งโรงพิมพ์ โดยมากแล้วทางโรงพิมพ์จะพบกรณีที่ ดีไซน์เนอร์แต่ละคนทำงานมาไม่เหมือนกัน บางคนตั้ง Profile สี เป็น RGB บางคนตั้งเป็น CMYK บางบุคคลตั้งค่าหน้ากระดาษ A4 เป็น 210 x 292 มิลลิเมตร บางคนตั้งA4 เป็น 210 x 297 มิลลิเมตร บางบุคคลใช้ฟอนต์แบบนึง อีกคนรับใช้ฟอนต์แตกต่างกัน

หลายหนที่ตัวงานมีกราฟฟิคต่อเนื่องกันไปในหลายหน้า เป็นต้นว่า โลโก้ แถบสีบริเวณขอบกระดาษ ภาพที่ใช้ด้วยกันหลายหน้า ฯลฯ ทางโรงพิมพ์พบว่ากราฟฟิกพวกนี้ขาดความต่อเนื่องกันอาทิเช่น โลโก้มีความแหลมคมชัดแตกต่างกัน สีรอบๆขอบกระดาษเข้มอ่อนไม่เท่ากัน เป็นต้น สำหรับกรณีกลุ่มนี้ ทางโรงพิมพ์จะแจ้งกลับไปยังคนประสานงาน เพื่อกระทำการปรับปรุงต่อไปขอรับ

     11. ตั้งชื่อไฟล์และก็โฟลเดอร์
ตั้งชื่อไฟล์ / โฟลเดอร์ ให้ตรงตามเนื้อหาของงาน หลายหนทางโรงพิมพ์พบว่า ลูกค้ามีการนำรูปภาพรูปเดียวกัน มาใช้งานในหลายส่วน ยกตัวอย่างเช่นนำภาพปกมาทำเป็นโปสเตอร์ด้วย แม้กระนั้นมีการตั้งชื่อไฟล์งานหรือโฟลเดอร์ที่บางครั้งก็อาจจะสร้างความสับสนให้โรงพิมพ์ได้ ดังเช่น ชื่อโฟลเดอร์เป็น “ไฟล์สำหรับปก” แต่ว่าพอเพียงเปิดเข้าไปข้างในแล้วพบว่าเป็นไฟล์สำหรับโปสเตอร์ บางครั้งที่เป็นงานซับซ้อน อาจจะมีการเกิดความบกพร่องสำหรับในการหยิบไฟล์ไปใช้งานได้

หรือบางกรณีลูกค้าส่งไฟล์มา 2 ไฟล์ ไฟล์แรกตั้งชื่อไว้ว่าปัจจุบัน ไฟล์ลำดับที่สองตั้งชื่อว่าอัพเดท แม้กระนั้นสรุปแล้ว ทางโรงพิมพ์ไม่มีวันทราบได้เลยว่าตกลงจะให้ใช้ไฟล์ไหน หากเป็นได้ พากเพียรส่งไฟล์ที่ต้องการจะใช้งานเพียงไฟล์เดียวมาให้โรงพิมพ์ ตั้งชื่อให้สื่อถึงลักษณะงาน จะสามารถลดข้อผิดพลาดลงไปได้มากมายนะครับ
 
ที่มา บทความ โรงพิมพ์ หนังสือ https://www.wacharinprint.com/

Tags : โรงพิมพ์ หนังสือ