ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติเรื่องราวของน้ำหอม (Perfume) ที่เอ้  (อ่าน 76 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
เรื่องราวเรื่องราวข้าวของน้ำหอม (Perfume) ที่สำคัญ
      รู้หรือยังว่าร้าย น้ำหอมที่อิฉันชำระคืนกันอยู่ขณะนี้ มีชีวประวัติค้ำฟ้าถึง 4,000 ปี ผละพยานทิศาวิชาประวัติศาสตร์ณสดภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารเครื่องใช้พระราชินี Hatshepsut เมือง Thebes ด้าว Egypt ซึ่งในภาพจะกล่าวถึงให้เห็นว่ารุ่นชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนหัวของตัวเอง นั่นก็สำแดงให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น และเราจะขึ้นต้นกระจายข้อความของน้ำหอมกันตั้งแต่ณยุคประถมกันเลยนะจ้ะ

น้ำหอมในสมัยแต่เดิม (ยุคเมโสโปเตเมีย)
     น้ำหอมผู้หญิงข้างในยุคแรกเริ่มเริ่มจากภายในเวลาเมโสโปเตเมีย  ซึ่งณกาลเวลาแรกเริ่มนั้นคนระวางจักใช้น้ำหอมได้คือฟาร์โร กับเหล่าฤษีที่จะนำน้ำหอมไปเปลืองในการทำพิธีกรรมเท่านั้น ซึ่งจะใช้การเผาให้เกิดกลิ่นไอ ดังเช่น การเผายางไม้ ขี้ผึ้ง หรือเปลือกต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากภาษามนุษย์ละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นต้นเรื่องของน้ำหอม นักบวชจะนำไปใช้ในขนมธรรมเนียมการไหว้ต่าง ๆ ที่เป็นแบบแผนของของท้องถิ่น และนอกเหนือจากการใช้ในพิธี ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่ร่าง บ้านช่องห้องหับ ทูก หรือว่าแม้แต่สัตว์เลี้ยง ด้วยกันราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut   ทรงมีความชื่นชอบน้ำหอมมาก จึงค้ำให้มีการเที่ยวหารุกขชาติ บุปผชาติที่มีกลิ่นหอม เพราะด้วยนำมาจัดการคือน้ำหอมกลิ่นไอต่าง ๆ ถัดจากนั้นเมื่อพระนาง Hatshepsut สิ้นพระชนม์ ชาวอียิปต์ก็ได้ก่อสร้างสวนดอกไม้พร้อมกับสร้างแผ่นหินจารึกกิจจาต่างๆ ไว้เพื่อเป็นการสดุดีอีกด้วย พร้อมด้วยพระนางคลีโอพัตราก็ยังสละทาน้ำหอมที่ใบเรือและตัวเรือล้วนแล้วก่อนที่จะตะเวนไปรับนักการเมืองชาวโรมัน ทำเอาเหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง สมรรถได้กลิ่นน้ำหอมละเรือที่ทรงนั่งมาเดิมที่จะเห็นตัวดารณีของพระนางด้วยซ้ำ   
น้ำหอมผู้หญิงสมัยกลาง   

ในยุคนี้ขั้นตอนในการห้ามจะเบี่ยงเบนจากสมัยดั้งเดิม เนื่องจากชาวอาหรับคว้ากระทำการคิดค้นเทคนิคการกรองนํ้าหอมได้ทำสำเร็จ และมีการชดใช้แอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย และน้ำหอมกลิ่นแต่ต้นที่ได้กระทำขัดขวางคือกลิ่นไอดอกกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้ไปเข้าสู่ศตพรรษที่ 14 โดยการเข้าสู่ทวีปยุโรธ พร้อมกับคนชาติเริ่มแรกในได้นำน้ำหอมเข้ามายุโรปตกว่าชาวฮังกาเรี่ยน ยอมคำสั่งของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นหลักสรรพสิ่งน้ำหอมในกาลสมัยต่อ ๆ มา


          น้ำหอมกาลเวลาเรี่ยม (ปัจจุบันนี้)   
 น้ำหอมได้ก้าวเข้าสู่วิธีการผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบเป็นล่ำเป็นสันเมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างเต็มฝีจักร เมื่อชันษา คศ. 1920  เพราะมีชาวรัสเซียที่นามกรว่า Ernest Beaux ซึ่งครอบครองนักทำน้ำหอมท่องเที่ยวมาที่ปารีส ด้วยกันได้มุ่งเสนอน้ำหอมที่ตัวเองทำเอากับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็แปรไปมาเป็นแบรนด์ Chanel  ในช่วงปัจจุบัน พร้อมด้วยได้รับการเห็นชอบเป็นอย่างดี พร้อมทั้งกลิ่นที่ขายดิบขายดีพร้อมทั้งโด่งดังยอด ตกว่า Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้คืบหน้าขึ้นอย่างทันที และมีใช้แพร่ขยาย ในคนทุกขั้น ชั้นจนเข้ายุคปัจจุบัน

เครดิตบทความจาก : http://www.coverdd.com/index.php?topic=365346.new#new

Tags : น้ำหอมผู้ชาย