ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องราวความเป็นมาของน้ำหอม (Perfume) ที่ประธาน  (อ่าน 83 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ประวัติความเป็นมาสิ่งน้ำหอม (Perfume) ที่เอ้
      รู้ยังดุ น้ำหอมที่กระผมกินกันอยู่ขณะนี้ มีเรื่องราวนานถึง 4,000 ปี ออกจากเอกสารสำคัญแนวตำนานตำแหน่งครอบครองภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารสิ่งของพระราชินี Hatshepsut นคร Thebes ชาติ Egypt ซึ่งในภาพจะแสดงให้เห็นให้เห็นว่าเหน้าชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนหัวของตัวเอง นั่นก็กล่าวถึงให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น และเราจะริเริ่มแถลงเนื้อเรื่องข้าวของน้ำหอมกันตั้งแต่ในที่กาลเวลาเก่าก่อนกันเลยนะค่ะ

น้ำหอมในยุคเบื้องต้น (คราวเมโสโปเตเมีย)
     น้ำหอมผู้หญิงข้างในระยะเวลาเบื้องต้นเริ่มจากในที่เวลาเมโสโปเตเมีย  ซึ่งภายในกาลเวลาแต่ต้นนั้นคนพื้นดินจักชดใช้น้ำหอมได้คือฟาร์โร และเหล่าหลวงพ่อที่จะนำน้ำหอมไปชำระคืนในการทำพิธีกรรมอย่างเดียว ซึ่งจะใช้คืนการเผาให้ชาตะกลิ่น เพียง การเผายางไม้ สีปาก หรือเปลือกไม้ต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากคำพูดละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำหอม นักบวชจะนำไปใช้ในประเพณีนิยมการบวงสรวงต่าง ๆ ที่เป็นจารีตประเพณีของของขอบเขต และนอกเหนือจากการใช้ในธรรมเนียม ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่ร่างกาย ที่พักอาศัย เรือ ใช่ไหมแม้แต่สัตว์เลี้ยง พร้อมทั้งราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut   ทรงมีความพอใจน้ำหอมมาก จึงเลี้ยงดูให้มีการคัดสรรไม้ใหญ่ มาลีที่มีกลิ่นหอม เพื่อนำมาลงมือครอบครองน้ำหอมกลิ่นต่าง ๆ ถัดจากนั้นเมื่อพระนาง Hatshepsut สิ้นพระชนม์ ชาวอียิปต์ก็ได้รังสรรค์สวนดอกไม้พร้อมกับสร้างแผ่นหินจารึกเหตุต่างๆ ไว้ด้วยว่าเป็นการสดุดีอีกด้วย กับพระนางคลีโอพัตราก็ยังกำนัลทาน้ำหอมที่ใบเรือกับตัวเรือตลอดก่อนที่จะเคลื่อนไปรับนักการเมืองชาวโรมัน ทำเอาเหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง อาจจะได้กลิ่นน้ำหอมไปเรือสำเภาที่ทรงนั่งมาที่แล้วที่จะเห็นตัวทูกของพระนางด้วยซ้ำ   
น้ำหอมผู้หญิงช่วงเวลาตรงกลาง   

ในระยะเวลานี้กรรมวิธีในการห้ามจะแหวกแนวจากกาลสมัยปฐมภูมิ เนื่องจากชาวอาหรับหาได้กระทำการสร้างเทคนิคการกลั่นนํ้าหอมได้สำเร็จ พร้อมกับมีการชำระคืนแอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย ด้วยกันน้ำหอมกลิ่นแต่ก่อนที่ได้ทำกลั่นคือกลิ่นต้นกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้โคจรเข้าสู่ศตพรรษที่ 14 เพราะว่าการเข้าสู่ทวีปยุโรธ พร้อมกับคนชาติประถมระวางได้นำน้ำหอมเข้ายุโรปลงความว่าชาวฮังกาเรี่ยน ยินยอมคำบัญชาของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นแบบเครื่องใช้น้ำหอมในกาลเวลาต่อ ๆ มา


          น้ำหอมคราวใหม่ (ยุคปัจจุบัน)   
 น้ำหอมได้ก้าวเข้าสู่กรรมวิธีผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบเป็นจริงเป็นจังเมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างเต็มฝีจักร เมื่อปี คศ. 1920  เนื่องจากมีชาวรัสเซียที่ชื่อเรื่องว่า Ernest Beaux ซึ่งครอบครองนักทำน้ำหอมประพาสต้นมาที่ปารีส พร้อมทั้งได้อธิบายน้ำหอมที่ตัวเองทำให้กับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็แปรไปมาเป็นแบรนด์ Chanel  ในปัจจุบัน พร้อมทั้งได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี พร้อมทั้งกลิ่นที่ขายคล่องพร้อมกับลือชาสุดขอบ รวมความว่า Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างทันทีทันใด และมีใช้แพร่หลาย ในคนทุกชั้น ชั้นจนมาถึงล่าสุด

เครดิต : http://www.jshopmobile.com/board/index.php?topic=93212.new#new

Tags : น้ำหอม,น้ำหอมผู้หญิง,น้ำหอมผู้ชาย