ความเป็นมาความเป็นมาของน้ำหอม (Perfume) รู้มั้ยว่า น้ำหอมที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีประวัติยาวนานถึง 4,000 ปี จากหลักฐานทางวิชาประวัติศาสตร์ที่เป็นภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut เมือง Thebes ชาติ Egypt ซึ่งในภาพจะแสดงให้เห็นว่าสาวชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนศรีษะของตนเอง นั่นก็แสดงให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น และเราจะเริ่มยกตัวอย่างเรื่องราวของน้ำหอมกันตั้งแต่ในยุคเริ่มแรกกันเลยนะจ๋า
น้ำหอมในสมัยแต่เดิม (สมัยเมโสโปเตเมีย) น้ำหอมผู้หญิงในยุคแต่แรกเริ่มจากในสมัยเมโสโปเตเมีย ซึ่งในยุคแรกนั้นคนที่จะใช้น้ำหอมได้คือฟาร์โร กับเหล่านักบวชที่จะนำน้ำหอมไปใช้ในการทำพิธีบูชาเท่านั้น ซึ่งจะใช้การเผาให้เกิดกลิ่น อาทิ การเผายางไม้ ขี้ผึ้ง หรือเปลือกไม้ต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นที่มาของน้ำหอม นักบวชจะนำไปใช้ในพิธีกรรมการบูชาต่าง ๆ ที่เป็นประเพณีของของแคว้น และนอกเหนือจากการใช้ในพิธี ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่เรือนร่าง บ้านเรือน เรือ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง และราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut ทรงมีค่านิยมน้ำหอมมาก จึงสนับสนุนให้มีการค้นหาต้นไม้ ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เพื่อนำมาทำเป็นน้ำหอมกลิ่นต่าง ๆ ต่อมาเมื่อพระนาง Hatshepsut สิ้นพระชนม์ ชาวอียิปต์ก็ได้สร้างสวนดอกไม้และสร้างแผ่นหินจารึกปกรณ์ต่างๆ ไว้เพื่อเป็นการสดุดีอีกด้วย และพระนางคลีโอพัตราก็ยังให้ทาน้ำหอมที่ใบเรือและตัวเรือทั้งหมดก่อนที่จะเดินทางไปรับนักการเมืองชาวโรมัน ทำให้เหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง สามารถได้กลิ่นน้ำหอมจากเรือสำเภาที่ทรงนั่งมาก่อนที่จะเห็นตัวเรือของพระนางด้วยซ้ำ
น้ำหอมผู้หญิงเวลากลางๆ
ในยุคนี้ขั้นตอนในการสกัดจะผิดแผกจากยุคแรก เพราะชาวอาหรับได้ทำการคิดค้นเคล็ดลับการกลั่นนํ้าหอมได้บรรลุเป้าหมาย กับมีการใช้แอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย และน้ำหอมกลิ่นแรกที่ได้ทำการสกัดคือกลิ่นกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้เดินทางเข้าสู่ศตวรรษที่ 14 โดยการเข้าสู่ทวีปยุโรธ และคนชาติแรกที่ได้นำน้ำหอมเข้ามายุโรปคือชาวฮังกาเรี่ยน ตามคำสั่งของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นแบบของน้ำหอมในยุคต่อ ๆ มา
น้ำหอมสมัยเอี่ยม (ปัจจุบัน)
น้ำหอมได้เข้าสู่ขบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบจริงจังเมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างเต็มฝีจักร เมื่อปี คศ. 1920 เพราะมีชาวรัสเซียที่ชื่อว่า Ernest Beaux ซึ่งเป็นนักทำน้ำหอมท่องเที่ยวมาที่ปารีส และได้นำเสนอน้ำหอมที่ตนเองทำให้กับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็กลายมาเป็นแบรนด์ Chanel ในปัจจุบัน พร้อมด้วยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และกลิ่นที่ขายดีและระบือที่สุด คือ Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้าน
น้ำหอมก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างปุ๊บปั๊บ และมีใช้แพร่หลาย ในคนทุกระดับชั้นจนมาถึงสมัยนี้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
น้ำหอมผู้ชายTags : น้ำหอมผู้หญิง,น้ำหอมผู้ชาย
