ผู้เขียน หัวข้อ: ความเป็นมาความเป็นมาข้าวของน้ำหอม (Perfume) ที่ประธาน  (อ่าน 68 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
เรื่องราวประวัติสรรพสิ่งน้ำหอม (Perfume) ที่เด่น
      รู้หรือยังเตือน น้ำหอมที่กูใช้คืนกันอยู่ทุกวันนี้ มีประวัติยาวนานถึง 4,000 ปี ทิ้งข้อรับรองวิธีตำนานระวางมีชีวิตภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut จังหวัด Thebes รัฐ Egypt ซึ่งในภาพจะแสดงให้เห็นว่าดึงชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนศรีษะของตนเอง นั่นก็แสดงความสามารถให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น ด้วยกันเราจะเปิดตัวบรรยายประวัติการสิ่งน้ำหอมกันตั้งแต่ณยุคตอนต้นๆกันเลยนะคะ

น้ำหอมในเวลาแต่เดิม (ยุคเมโสโปเตเมีย)
     น้ำหอมผู้หญิงภายในช่วงเวลาแต่เดิมเริ่มจากข้างในระยะเวลาเมโสโปเตเมีย  ซึ่งแห่งเวลาเริ่มแรกนั้นคนแดนจักใช้คืนน้ำหอมได้คือฟาร์โร พร้อมทั้งเหล่าฤษีที่จะนำน้ำหอมไปชดใช้ในการทำพิธีบูชาเฉพาะ ซึ่งจะเปลืองการเผาให้ผลิตกลิ่นอาย อย่างกับ การเผายางไม้ สีผึ้ง หรือเปลือกไม้ต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากคำพูดละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นหลักแหล่งของน้ำหอม นักบวชจะใช้ประโยชน์ในขนมธรรมเนียมการสักการะต่าง ๆ ที่เป็นขนบธรรมเนียมของของแว่นแคว้น และเหนือจากการใช้ในระเบียบแบบแผน ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่สรีระ ที่พัก เภตรา ไม่ก็แม้แต่สัตว์เลี้ยง พร้อมด้วยราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut   ทรงมีความชื่นชมยินดีน้ำหอมมาก จึงเสริมให้มีการแกะรอยไม้ใหญ่ บุปผาที่มีกลิ่นหอม เนื่องด้วยนำมาบำเพ็ญหมายถึงน้ำหอมกลิ่นอายต่าง ๆ สืบมาเมื่อพระนาง Hatshepsut ตาย ชาวอียิปต์ก็ได้คิดค้นสวนดอกไม้กับสร้างแผ่นหินจารึกกิจจาต่างๆ ไว้ด้วยเป็นการสดุดีอีกด้วย และพระนางคลีโอพัตราก็ยังมอบทาน้ำหอมที่ใบเรือพร้อมด้วยตัวเรือทั้งนั้นก่อนที่จะดำเนินไปรับนักการเมืองชาวโรมัน ทำให้เหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง ศักยได้กลิ่นน้ำหอมทิ้งเรือที่ทรงนั่งมาเพรงที่จะเห็นตัวเรือของพระนางด้วย   
น้ำหอมผู้หญิงระยะเวลากลางๆ   

ในสมัยนี้กรรมวิธีในการหยุดจะแปลกจากกาลเวลาเบื้องต้น ก็เพราะว่าชาวอาหรับคว้ากระทำการเนรมิตเทคนิคการกลั่นนํ้าหอมได้จบ ด้วยกันมีการใช้คืนแอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย พร้อมด้วยน้ำหอมกลิ่นเริ่มแรกที่ได้ทำการแยกคือกลิ่นต้นกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้ตะเวนเข้าสู่ศตพรรษที่ 14 เพราะการเข้าสู่ทวีปยุโรธ พร้อมทั้งคนชาติแรกแดนได้นำน้ำหอมเข้ายุโรปตกว่าชาวฮังกาเรี่ยน ตามคำบัญชาของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นแบบฉบับสิ่งน้ำหอมในสมัยต่อ ๆ มา


          น้ำหอมกาลสมัยใหม่เอี่ยม (ปัจจุบันนี้)   
 น้ำหอมได้ก้าวย่างวิธีการผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบแน่แท้เมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างสุดกำลัง เมื่อศักราช คศ. 1920  เพราะว่ามีชาวรัสเซียที่นามสมญาว่า Ernest Beaux ซึ่งยังมีชีวิตอยู่นักทำน้ำหอมเดินทางมาที่ปารีส พร้อมทั้งได้มุ่งเสนอน้ำหอมที่ตนเองเป็นเหตุให้กับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็แปรไปมาเป็นแบรนด์ Chanel  ในช่วงปัจจุบัน และได้รับการยินยอมเป็นอย่างดี พร้อมด้วยกลิ่นที่ขายคล่องและลือชาปรากฏหัว คือว่า Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้งอกงามขึ้นอย่างทันท่วงที และมีใช้แพร่หลาย ในคนทุกชั้น ชั้นจนเข้าสมัยนี้

ขอบคุณบทความจาก : http://www.navanakorncity.com/index.php?topic=140068.new

Tags : น้ำหอม,น้ำหอมผู้หญิง,น้ำหอมผู้ชาย