มาตรฐานในการซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) คืออะไร? ผู้คนหายใจวันละ 20,000 ถึง 30,000 ครั้งและอาศัยอยู่ในบ้านเป็นเวลา 10-20 ชั่วโมงจากการวิจัยพบว่ามลพิษในอาคาร สามารถเข้าถึงได้มากกว่า มลพิษกลางแจ้ง 5-10 เท่า ดังนั้นเราจึงพบว่า ควรให้ความสนใจกับ มลพิษทางอากาศในอาคาร ให้
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier ) ดูแลลมหายใจของคุณ จากการวิจัย ที่ดำเนินการโดย US Environmental Protection Agency ระดับเฉลี่ย ของการสัมผัสกับ มลพิษทางอากาศ ในอาคารคือ 2.5 เท่า ของพื้นที่กลางแจ้ง และสูงถึง 100 เท่า ในกรณีรุนแรง การสำรวจภายในประเทศ แสดงให้เห็นว่า ผู้อยู่อาศัยในเมือง ใช้เวลา 21.53 ชั่วโมงทุกวัน คิดเป็น 90% ของทั้งวัน ดังนั้นสุขภาพของมนุษย์ มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด กับอากาศในอาคาร ในปัจจุบัน การหายใจที่ดีต่อสุขภาพ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ไม่อาจละเลยได้ และได้กลาย เป็นความจำเป็น แบบเร่งด่วน จึงทำให้ วิธีการที่ จะซื้อ
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier ) ที่มีประสิทธิภาพ สามารถฟอกคุณภาพอากาศ ภายในอาคาร เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปัจจุบันนี้
ในการเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ตามคำแนะนำ และได้การยอมรับในระดับสากล 1. ขั้นตอนแรกคือว่ามันมีเครื่องหมาย AHAM ของการรับรองระหว่างประเทศสำหรับ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) คุณภาพสูง ต้องผ่านการประเมิน คุณภาพอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะผ่านการรับรอง สมาคมผู้ผลิต เครื่องใช้ในบ้าน ของอเมริกัน (AHAM หรือ Association of Home Appliance Manufacturers ) เป็นมาตรฐาน การรับรอง ที่มีสิทธิ์ระหว่างประเทศ เพียงอย่างเดียว สำหรับ ผู้บริโภคในการประเมินเลือกซื้อ
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier ) สมาคมผู้ผลิต เครื่องใช้ในบ้าน ของอเมริกัน ( AHAM หรือ Association of Home Appliance Manufacturers ) ได้รับการยอมรับว่า เป็นองค์กร ที่มีประสิทธิภาพ ในการตรวจจับ ของการประเมิน เกี่ยวกับ เครื่องใช้ในบ้าน ที่เชื่อถือได้มากที่สุด ของหน่วยงานทดสอบ อิสระไตรภาคี ระหว่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier ) ที่ได้ผ่านการทดสอบ AHAM หรือ สมาคมผู้ผลิต เครื่องใช้ในบ้าน ของอเมริกัน สามารถได้รับใบอนุญาต หรือ ได้รับการรับรอง ลงตราประทับ บนบรรจุภัณฑ์ด้านนอก ของ
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier )เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ในตลาด ตามมาตรฐาน การประเมินของ สมาคมผู้ผลิต เครื่องใช้ในบ้าน ของอเมริกัน ( AHAM หรือ Association of Home Appliance Manufacturers ) เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) จะต้องใช้เวลา ภายใน 1 ชั่วโมง หมุนเวียนอากาศ ภายในอาคาร 5 ครั้ง ตามข้อกำหนดนี้ เราใช้ค่าปริมาตรอากาศ สูงสุดของผลิตภัณฑ์ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) คือ (m 3 / h) ÷ 5 (ครั้ง / ชั่วโมง) ÷ 2.6 ความสูงชั้น (m) เพื่อให้ได้พื้นที่ใช้งานสูงสุด สำหรับผลิตภัณฑ์
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier )และจากการสำรวจ เราพบว่า พื้นที่ที่ใช้งานได้ ของแต่ละผลิตภัณฑ์ มีการแสดงเครื่องหมายของ AHAM หรือ Association of Home Appliance Manufacturers เสมือนอย่างจริง หรือเลียนแบบ ทำให้คนเข้าใจผิด ยกตัวอย่างเช่น การโปรโมตผลิตภัณฑ์ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่สามารถชำระพื้นที่ 100 ตารางเมตร แต่ผลการสำรวจ และทำแผนจริง มีเพียง 24 ตารางเมตร ซึ่งแตกต่างจาก การโปรโมตผลิตภัณฑ์ ถึง 4 เท่า ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ควรตรวจสอบ หรือเช็คให้ดีว่า ผลิตภัณฑ์
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier ) ดังกล่าว ได้รับมาตรฐานของ AHAM หรือ Association of Home Appliance Manufacturers หรือไม่ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถตรวจสอบ ได้ที่
www.AHAM.org หรือ
www.CADR.org 2. ขั้นตอนที่สองคือค่า CADR ของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่ได้การรับรอง AHAM สูงพอที่จะกำจัดมลพิษทางอากาศ CADR = Clean Air Delivery Rate คือ อัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธ์ เป็นค่า ที่บอกประสิทธิภาพ การฟอกอากาศที่แท้จริง โดยการนำ ไปทดสอบ ในห้องปฏิบัติการ กับ ควันบุหรี่ (Smoke), ฝุ่น (Dust) และ เกสรดอกไม้ (Pollen) มีหน่วยเป็นมาตรฐานเป็น CFM (Cubic Feet per Minute)ตัวอย่างเช่นแบรนด์ A Air Flow Rate = 220 CFM CADR = 170 CFM พื้นที่แนะนำ 80 ตร.ม. ไส้กรอง Super HEPA 9 ขั้นตอนแบรนด์ B Air Flow Rate = 200 CFM CADR = 180 CFM พื้นที่แนะนำ 26 ตร.ม. ไส้กรอง HEPA 1 ขั้นตอน อย่างนี้สรุปได้ว่า แบรนด์ B ให้ประสิทธิภาพ ในการฟอกอากาศ สูงกว่า ถึงแม้จะมีแรงลมน้อยกว่า ซึ่งอาจจะมาจาก หลายองค์ประกอบ เช่น ชิ้นไส้กรอง ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เทคโนโลยี ที่เสริมเพิ่มเข้าไป ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกรอง ของไส้กรองได้มากกว่า การออกแบบเครื่อง ที่ป้องกันการรั่วไหล ของฝุ่นได้ดีกว่า ฯลฯ เมื่อผู้บริโภคต้องการซื้อ
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier ) พวกเขา จะต้องดูค่า CADR ที่ออกโดย สมาคมผู้ผลิต เครื่องใช้ในบ้าน ของอเมริกัน ( AHAM หรือ Association of Home Appliance Manufacturers ) โดยตัวโลโก้ผลิตภัณฑ์ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) และ ค่าของ CADR ควรเปิดเผย ในบรรจุภัณฑ์ ของผลิตภัณฑ์หรือมีอยู่ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ผู้บริโภค ที่มีความต้องการทั่วไป ควรเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีค่า CADR สูงกว่า 120 ค่า CADR ที่สูงขึ้น ประสิทธิภาพ ในการทำให้บริสุทธิ์ ของ
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier ) จะสูงขึ้น หากมีความต้องการ คุณภาพอากาศภายในอาคาร ที่สูงขึ้น คุณต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า CADR สูงกว่า 200 หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับค่า ของ CADR สามารถตรวจสอบได้ที่
www.cadr.org อาจกล่าวได้ว่า
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier ) เครื่องใดมีค่า CADR สูงกว่า ย่อมให้ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูงกว่า โดยแทบไม่ต้องไปให้ความสำคัญ กับคำโฆษณาอื่น ๆ เลย
3. ตรวจสอบว่า ปริมาณอากาศ ของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) สามารถเข้าถึงการกรอง มากกว่า 5 ครั้งต่อชั่วโมงหรือไม่ การทำให้อากาศ มีความบริสุทธิ์ และมีประสิทธิภาพสูง นั้นมาจากปริมาณ อากาศหมุนเวียนที่ดี โดยคำนึงถึงวิธีการทำให้อากาศบริสุทธิ์ สารมลพิษทั้งหมด จะต้องผ่านอุปกรณ์ตัวกรอง โดยมีมอเตอร์ เป็นตัวขับเคลื่อน
ซึ่ง มอเตอร์ ก็ถือว่าเป็นหัวใจ ของระบบไหลเวียนของ อากาศ เลยก็ว่าได้มาตรฐานสากล ต้องการให้
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier ) กรองอากาศ ทั้งห้อง มากกว่า 5 ครั้ง ต่อ 1 ชั่วโมง และโดยเฉลี่ย ทุก ๆ 12 นาที เพื่อให้ได้ผล การทำให้อากาศ มีความบริสุทธิ์ ที่แท้จริงตัวอย่างเช่น: ห้อง 20 ตารางเมตร และความสูงของพื้น 2.5 เมตร ต้องใช้ 20 ตารางเมตร × 2.5 เมตร × 5 ครั้ง = 250 ลูกบาศก์เมตร ต่อ 1 ชั่วโมง และคุณควรเลือก
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier ) อย่างน้อย 1 เครื่อง ที่มีปริมาณอากาศ 250 ลูกบาศก์เมตร ต่อชั่วโมง หมายเหตุ: CADR เป็นตัวบ่งชี้สำคัญ ที่สะท้อนถึง ประสิทธิภาพของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )
เครื่องฟอกอากาศ (
Air Purifier ) ที่ทดสอบ โดยสมาคมผู้ผลิตเครื่องใช้ในบ้านของสหรัฐอเมริกา ตามมาตรฐาน การทดสอบที่เข้มงวด อัตราส่วน ของอากาศที่สะอาดส่งออกมา ยิ่งอัตราส่วน CADR สูงเท่าใด ประสิทธิภาพการฟอกอากาศ ก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ซื้อ, ติด, เครื่อง, ฟอก, อากาศ, กรอง, แมนเนเจอร์, airpurifier, air purifier, เครื่องฟอกอากาศ, sharp, xiaomi, เครื่องกรองอากาศ, ราคา, ยี่ห้อไหนดี, บ้าน, กรองอากาศ, ไส้กรอง, ฝุ่นละออง, pm2.5, air pollution