ไวรัสตับอักเสบ ร้ายแรงกว่าที่คิด!ไวรัสตับอักเสบมี 5 ชนิด ได้แก่ A B C D และ E โดยจะมีลักษณะการติดต่อที่แตกต่างกันไปตามชนิด ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยในประเทศไทย ร้ายแรงกว่าที่คิด และคุณอาจป่วยเป็นโรคนี้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวรัสตับอักเสบบี และซี ภัยร้ายที่ก่อให้เกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต มาทำความรู้จักกับ ไวรัสตับอักเสบ ชนิดต่างๆ
ไวรัสตับอักเสบ A พบได้บ่อย สามารถติดต่อผ่านการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค
ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาเจียน ดีซ่าน
ไวรัสตับอักเสบเอ ไม่มีวิธีการรักษาที่เฉพาะเจาะจง แต่ป้องกันได้โดยการดูแลความสะอาดสม่ำเสมอ และการฉีดวัคซีน
ไวรัสตับอักเสบ B พบได้บ่อย ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
การติดต่อ มีลักษณะเช่นเดียวกันกับการติดเชื้อ HIV โดยติดต่อทางเลือด ทางเข็ม ทางเพศสัมพันธ์ และจากแม่สู่ลูก
ผู้ได้รับเชื้อมีโอกาสเกิดภาวะตับอักเสบรุนแรง ตับอักเสบเรื้อรัง และร้ายแรงจนพัฒนาไปเป็นโรคตับแข็ง และมะเร็งตับ
ไวรัสตับอักเสบ C ภาวะการอักเสบของตับเรื้อรัง ทำให้เกิดพังผืดในตับ จนกลายเป็นตับแข็ง และมะเร็งตับ
สามารถติดต่อได้จากการติดเชื้อทางเลือด เข็มฉีดยา ทางเพศสัมพันธ์ ส่วนมากมักไม่แสดงอาการทำให้ผู้ป่วยไม่ทราบว่าได้รับเชื้อเข้าไปในร่างกาย
ไวรัสตับอักเสบ D เป็นไวรัสตับอักเสบที่พบได้น้อย เมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ บี และซี เป็นไวรัสที่ต้องอยู่ร่วมกับไวรัสตับอักเสบ บี แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดอาการตับอักเสบได้ยาก แต่หากเกิดขึ้นแล้ว อาการจะลุกลามรวดเร็ว และรุนแรงมากกว่าผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดอื่น 10 เท่า 80% ของผู้ที่มีอาการจะเสียชีวิตในเวลาไม่นาน
ไวรัสตับอักเสบ E เกิดจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ ติดต่อจากสัตว์ที่มีเชื้อ การถ่ายเลือดกับผู้ติดเชื้อ และติดต่อจากแม่สู่ลูก ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนไวรัสตับอักเสบชนิดอื่น ปวดท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง ดีซ่าน คลื่นไส้อาเจียน นอกจากทำให้เกิดตับอักเสบแบบเฉียบพลันแล้ว ยังทำให้เกิดตับอักเสบแบบเรื้อรัง และตับแข็งได้อีกด้วย
มะเร็งตับ เป็นโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรทั่วโลก ซึ่งโรคมะเร็งตับในระยะแรกมักไม่ค่อยมีการแสดงอาการ กว่าจะทราบว่าเป็นมะเร็งตับก็มักพบว่าอยู่ในระยะท้ายของโรคแล้ว ตับของคุณยังแข็งแรงดีอยู่หรือไม่ ? ถึงเวลาแล้วที่ต้องใส่ใจ “ตับ” เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ