ผู้เขียน หัวข้อ: รับประทานให้เป็นยาแก้โรค สรรพคุณ“กล้วย”ที่คนไม่ค่อยรู้!  (อ่าน 106 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
คนเกรงไทยกับต้นกล้วยเป็นความผูกพันมายาวนาน ขณะที่วันนี้เราจะใช้ใบตองกล้วยน้อยลง หรือเลิกใช้เชือกกล้วยไปแล้วก็ตาม แต่ประเพณีชีวิตคนประเทศไทยกับต้นกล้วยยังแยกกันหนักเกิน ไม่ว่าพิธีขึ้นที่อยู่ใหม่ หรือขบวนแห่ขันหมากเสด้านหลังแต่งงานก็จะขาดต้นกล้วยทำไมได้ ไปจนถึงพระราชพิธีพระบรมศพก็แล้วก็มีการแทงหยวกกล้วยเป็นรูปแบบประกอบพระเมรุ  ที่สำคัญคือเครื่องบายศรีใหญ่น้อยทั้งหลายครา่ใช้ในพิธีศักดิ์สิทธิ์ล้วนทำมาจากใบตองที่นำมารีเป็นกลีบเป็นกรวยงดงาม

อันเป็นที่มาเครื่องใช้คำสำคัญที่ผูกพันชีวิตคนเมืองไทยกับต้นกล้วยว่า “พิธีรีตอง”
ข้างต้นเป็นเรื่องราวสรรพสิ่งกล้วยกับประเพณีประเทศไทย ในที่นี้จะขอพูดถึงการ “กินกล้วยเป็นอาหารและยา” ซึ่งดำรงอยู่ในวัฒนธรรมโภชนาการกับแพทย์พื้นที่อาศัยไทยมาแต่โบร่ำโบราณไม่ขาดตระกูลมาจนถึงประจำวันนี้ คนไทยรู้จักกินกล้วยหลายประเภทแต่ที่ฮิตยิ่งขึ้นไปก็คือ “กล้วยน้ำว้า” นอกเหนือจากคุณประโยชน์ทางด้านอาหารแล้ว กล้วยยังมีคุณค่าอนันต์ในทางยา เพราะฉะนี้

  • หมอพื้นที่อาศัยใช้ใบตองอ่อนที่ยังม้วนอยู่ นำมาอังไฟเนื่องด้วยประคบรักใคร่ษาอาการปวดหน้าอก อาการอักเสบพุพอแล้วงสิ่งผิวหนัง หรือนำมาต้มน้ำดื่มแก้ท้องสิ้นชีพ บิด แก้ผื่นคัน
  • สมัยที่ยาเพนิซิลินหายุ่งยาก น้ำคั้นสดจากหยวกกล้วยช่วยเยียวยาโรคหนองใน ดื่มแก้ท้องร่วง ท้องสิ้นเปลือง
  • น้ำคั้นสดจากหยวกกล้วย ใช้ชโลมหนังศีรษะด้วยกันเส้นผมสม่ำเสมอๆ เพื่อบำรุงชอบพอษาอาการผมร่วงและปลูกผม น้ำคั้นจากเหง้าเป็นยาแก้้พร้อมทั้งบำรุงร่างกาย
  • มีฤทธิ์ปกป้องพร้อมด้วยบำรุงถูกชะตาษาแผลในกระเพาะอาหารในหนูทดทดลองหลายชนิด ซึ่งเชี่ยวชาญเทียบเคียงได้กับคน พบว่าผงกล้วยดิบในสัดส่วน 5 กรัม/วัน (ด้วยหนูทดทดลอง) หรือราวๆ 250 กรัม/วัน เพื่อที่จะคน ศักยช่วยเหลือป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะได้ ด้วยกันถ้าเพิ่มปริมาณสัดส่วน 7 กรัม/วัน (เพื่อหนูทดลอง) หรือราวๆ 350 กรัม/วันเพื่อให้คน จะช่วยเหลือบำรุงพึงพอใจษาแผลในกระเพาะที่เกิดจากการได้รับยาแอสไพริน  โดยพบว่ากล้วยจะไปกระตุ้นให้เซลล์ในเยื่อบุกระเพาะหลั่งสารเน้ำมือก (mucin) ออกมาเคลือบกระเพาะ เพิ่มความหนาพร้อมกับความถาวรของใช้เยื่อบุกระเพาะ ลดความเป็นกรดในกระเพาะ กระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดมาโครฟาจ (macrophage) ซึ่งเอาใจช่วยเร่งการสมานแผลในกระเพาะอาหารให้หายเร็วไวขึ้น
  • พบว่า ผงกล้วยดิบสัดส่วน 40 กรัม/วัน เพื่อคนเป็นยาบำรุงพึงพอใจษาเบาหวานที่ได้ผลดีพร้อมกับพ้นภัย โดยออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างอินซูลินพร้อมกับกระตุ้นการใช้น้ำตาลกลูโคสในร่างกายด้วย
  • กล้วยดิบมีเส้นใยอาหารจำพวกเฮมิเซลลูโลส (hemicellulose) พร้อมทั้งนิวตรอลดีเทอร์เจนต์ (nutral detergent fiber-NDF) ซึ่งเป็นเส้นใยที่ร่างกายไม่เก่งย่อยสลายได้ มีคุณสมบัติสนับสนุนพิจารณาดซึมซาบไขมันด้วยกันคอเลสเตอรอลไว้แล้วถ่ายออกมากับอุจจาระก้อนโตเป็นเหตุให้ร่างกายพิศดแทรกซึมคอเลสเตอรอลน้อยลง ส่งผลให้ปริมาณไขมันในเลือดพร้อมกับเนื้อเยื่อเสียด้วย
  • นอกจากนั้นเอาใจช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในค่าปกติแล้ว กล้วยดิบโดยเฉพาะอย่างมากมายกล้วยดิบปิ้งยังเป็นอาหารยาช่วยเหลือลดน้ำหนักได้ดีพร้อมกับไม่เป็นอันแบรนด์ย
  • มีการเรียนรู้ฤทธิ์บำรุงรักษาตับสิ่งของกล้วยในหนูที่ได้รับยาพาราเซตามอลซึ่งทำให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ และเมื่อป้อนอาหารที่มีองค์ประกอบเครื่องใช้ผงกล้วยแค่ 10% ให้หนู พบว่าผงกล้วยช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ของใช้เซลล์ตักรณีี่ถูกทำอันตรายจากยาพาราเซตามอลได้ ด้วยกันยังป้องกันการเพิ่มขึ้นข้าวของสารสีเหลืองบิลิรูบิล (bilirubin) ในเลือด เพราะว่าตับเสื่อมไม่สมรรถกำจัดสารบิลิรูบิลได้


ปัจจุบันนี้กล้วยถูกจัดเป็นสมุนไพรในสาธารณสุขมูลฐานใช้ซาลงอาการท้องสิ้นเปลืองรูปแบบไม่วิกฤติ โดยมีเกร็ดรับประทานเรียบง่ายอย่างนั้น ใช้กล้วยน้ำว้าห่ามสดครั้งละครึ่งถึงหนึ่งผล หรือผงกล้วยปั้นเม็ดลูกกลอนครั้งละ 4 เม็ด หรือใช้ผงกล้วยครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ รับประทานวันละ 4 ครั้ง ดำเนินการนอาหารพร้อมทั้งทำการนนอน  ถ้าจะให้ได้ผลดียิ่งขึ้นควรกินร่วมกับน้ำขิงเพื่อเสเชิงฤทธิ์การขับลมช่วยเหลือลดกิริยาอาการท้องขึ้นท้องขึ้นท้องเฟ้อได้มีศักยภาพมากขึ้น
เน้ำมืองเกรงไทยหากยังเป็นประเทศกำลังพัฒนามาหลายปีดีดัก แต่ก็ยังโชคดีที่มีกล้วยน้ำว้าค่าถูกไว้เป็นอาหารกับยาชั้นดีช่วยเหลือพิศแลสุขภาพคนไทยตั้งแต่วัยเด็กอ่อนจนถึงผู้สูงอายุ
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กล้วยตากอบน้ำผึ้ง

Tags : กล้วยอบ,กล้วยตากอบน้ำผึ้ง