ผู้เขียน หัวข้อ: ทานให้เป็นยา คุณสมบัติ“กล้วย”ที่คนไม่ค่อยรู้!  (อ่าน 89 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
คนไทยกับต้นกล้วยเป็นความผูกพันมาช้านาน สมมติว่าวันนี้เราจะใช้ใบตองกล้วยน้อยลง หรือเลิกใช้เชือกกล้วยไปแล้วก็ตาม แต่ประเพณีชีวิตคนประเทศไทยกับต้นกล้วยยังแยกกันไม่ไหว ไม่ว่าพิธีขึ้นที่อาศัยใหม่ หรือขบวนแห่ขันหมากแต่งเติมงานก็จะขาดต้นกล้วยไม่ไหว ไปจนถึงพระราชพิธีพระบรมศพก็ยังมีการแทงหยวกกล้วยเป็นแบบประกอบพระเมรุ  ที่สำคัญคือเครื่องบายศรีใหญ่น้อยทั้งหลายคราว่ใช้ในพิธีศักดิ์สิทธิ์ล้วนทำมาจากใบตองที่นำมารีเป็นกลีบเป็นกรวยสวยงาม

อันเป็นที่มาสิ่งคำสำคัญที่ผูกพันชีวิตคนประเทศไทยกับต้นกล้วยว่า “พิธีรีตอง”
ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ข้าวของกล้วยกับประเพณีประเทศไทย ในที่นี้จะขอพูดถึงการ “กินกล้วยเป็นอาหารด้วยกันยา” ซึ่งดำรงอยู่ในวัฒนธรรมโภชนาการกับแพทย์พื้นที่อาศัยประเทศไทยมาแต่โบร่ำโบราณไม่ขาดกลุ่มมาจนถึงทุกวันนี้ คนประเทศไทยรู้จักกินกล้วยหลายชนิดแต่ที่ฮิตหนักหนาก็คือ “กล้วยน้ำว้า” นอกเหนือจากผลดีทางด้านอาหารแล้ว กล้วยแล้วก็มีคุณค่าอนันต์ในทางยา ดังนี้

  • หมอพื้นที่อยู่อาศัยใช้ใบตองอ่อนที่ยังม้วนอยู่ นำมาอังไฟเพื่อให้ประคบพึงพอใจษาอาการปวดหน้าอก อาการอักเสบพุพอแล้วงสิ่งผิวหนัง หรือนำมาต้มน้ำดื่มแก้ท้องเสีย บิด แก้ผื่นคัน
  • สมัยที่ยาเพนิซิลินหาลำบาก น้ำคั้นสดจากหยวกกล้วยช่วยเยียวยาโรคหนองใน ดื่มแก้ท้องร่วง ท้องสิ้นอายุขัย
  • น้ำคั้นสดจากหยวกกล้วย ใช้ชโลมหนังศีรษะพร้อมกับเส้นผมทุกครั้งๆ เพื่อบำรุงมีใจษาอาการผมร่วงด้วยกันปลูกผม น้ำคั้นจากเหง้าเป็นยาปรับปรุง้พร้อมกับบำรุงร่างกาย
  • มีฤทธิ์ปกป้องรักใคร่ษาด้วยกันมีใจษาแผลในกระเพาะอาหารในหนูทดทดลองหลายประเภท ซึ่งทำเป็นเทียบเคียงได้กับคน พบว่าผงกล้วยดิบในปริมาตร 5 กรัม/วัน (เนื่องด้วยหนูทดทดลอง) หรือประมาณ 250 กรัม/วัน เพื่อที่จะคน เป็นได้สนับสนุนปกป้องชอบพอษาการเกิดแผลในกระเพาะได้ ด้วยกันถ้าเพิ่มปด้านหลังาณสัดส่วน 7 กรัม/วัน (เนื่องด้วยหนูทดทดลอง) หรือโดยประมาณ 350 กรัม/วันสำหรับคน จะช่วยเหลือชอบพอษาแผลในกระเพาะที่เกิดจากการได้รับยาแอสไพริน  โดยพบว่ากล้วยจะไปกระตุ้นให้เซลล์ในเยื่อบุกระเพาะหลั่งสารเกรก (mucin) ออกมาเคลือบกระเพาะ เพิ่มความหนาด้วยกันความเก่าแก่ข้าวของเยื่อบุกระเพาะ ลดความเป็นกรดในกระเพาะ กระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวประเภทมาโครฟาจ (macrophage) ซึ่งช่วยเหลือเร่งการสมานแผลในกระเพาะอาหารให้หายทันใจขึ้น
  • พบว่า ผงกล้วยดิบขนาด 40 กรัม/วัน เกี่ยวกับคนเป็นยาบำรุงพึงพอใจษาเบาหวานที่ได้ผลดีพร้อมด้วยไม่เป็นอันยี่ห้อย โดยออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างอินซูลินกับกระตุ้นการใช้น้ำตาลกลูโคสในร่างกายด้วย
  • กล้วยดิบมีเส้นใยอาหารจำพวกเฮมิเซลลูโลส (hemicellulose) กับนิวตรอลดีเทอร์เจนต์ (nutral detergent fiber-NDF) ซึ่งเป็นเส้นใยที่ร่างกายไม่ทำเป็นย่อยสลายได้ มีฟีเจอร์ช่วยสังเกตดซึมซับไขมันพร้อมทั้งคอเลสเตอรอลไว้แล้วมากับอุจจาระก้อนโตทำให้ร่างกายทัศนาดแทรกซึมคอเลสเตอรอลน้อยลง ส่งผลให้ปตีนาณไขมันในเลือดพร้อมกับเนื้อเยื่อเสียด้วย
  • นอกจากช่วยบังคับความดันโลหิตให้อยู่ในค่าปกติแล้ว กล้วยดิบโดยเฉพาะอย่างมากกล้วยดิบปิ้งยังเป็นอาหารยาเอาใจช่วยลดน้ำหนักได้ดีกับไม่เป็นอันแบรนด์ย
  • มีการทำความรู้ฤทธิ์บำรุงรักษาตับข้าวของกล้วยในหนูที่ได้รับยาพาราเซตามอลซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ ด้วยกันเมื่อป้อนอาหารที่มีส่วนประกอบของผงกล้วยแค่ 10% ให้หนู พบว่าผงกล้วยเอาใจช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ของเซลล์ตัเหตุี่ถูกทำลายจากยาพาราเซตามอลได้ ด้วยกันยังคุ้มกันการเพิ่มขึ้นข้าวของสารสีเหลืองบิลิรูบิล (bilirubin) ในเลือด เพราะว่าตับเสื่อมไม่อาจจะกำจัดสารบิลิรูบิลได้


ทันทีกล้วยถูกจัดเป็นสมุนไพรในสาธารณสุขมูลฐานใช้ปลดเปลื้องอาการท้องสิ้นอายุขัยสไตล์ไม่วิกฤติ โดยมีรีวิวรับประทานเรียบง่ายต่อจากนั้น ใช้กล้วยน้ำว้าห่ามสดครั้งละครึ่งถึงหนึ่งผล หรือผงกล้วยปั้นเม็ดลูกกลอนครั้งละ 4 เม็ด หรือใช้ผงกล้วยครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ รับประทานวันละ 4 ครั้ง จัดทำนอาหารด้วยกันจัดทำนนอน  ถ้าจะให้ได้ผลดียิ่งขึ้นควรกินร่วมกับน้ำขิงเพื่อเสด้านหลังฤทธิ์การขับลมสนับสนุนลดอาการท้องเฟ้อท้องเฟ้อได้มีศักยภาพมากขึ้น
เมืองประเทศไทยแม้นยังเป็นประเทศกำลังพัฒนามาหลายปีดีดัก แต่ก็ยังโชคดีที่มีกล้วยน้ำว้าราคาถูกไว้เป็นอาหารพร้อมกับยาชั้นดีช่วยเหลือตรวจสอบแลสุขภาพคนเน้ำมืองไทยตั้งแต่วัยเด็กแบเบาะจนถึงผู้ใหญ่
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กล้วยอบ

Tags : กล้วยตากอบน้ำผึ้ง