ผู้เขียน หัวข้อ: ทานให้เป็นยาแก้โรค คุณสมบัติ“กล้วย”ที่คนไม่ค่อยรู้!  (อ่าน 78 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
คนประเทศไทยกับต้นกล้วยเป็นความผูกพันมาช้านาน หากวันนี้เราจะใช้ใบตองกล้วยน้อยลง หรือเลิกใช้เชือกกล้วยไปแล้วก็ตาม แต่ประเพณีชีวิตคนประเทศไทยกับต้นกล้วยยังแยกกันหนักเกิน ไม่ว่าพิธีขึ้นที่อาศัยใหม่ หรือขบวนแห่ขันหมากแต่งเติมงานก็จะขาดต้นกล้วยหนักเกิน ไปจนถึงพระราชพิธีพระบรมศพก็แล้วก็มีการแทงหยวกกล้วยเป็นรูปแบบประกอบพระเมรุ  ที่สำคัญคือเครื่องบายศรีใหญ่น้อยทั้งหลายครา่ใช้ในพิธีศักดิ์สิทธิ์ล้วนทำมาจากใบตองที่นำมารีเป็นกลีบเป็นกรวยสวยสด

อันเป็นที่มาของใช้คำสำคัญที่ผูกพันชีวิตคนประเทศไทยกับต้นกล้วยว่า “พิธีรีตอง”
ข้างต้นเป็นเหตุการณ์สิ่งกล้วยกับประเพณีไทย ในที่นี้จะขอกล่าวถึงการ “กินกล้วยเป็นอาหารด้วยกันยา” ซึ่งดำรงอยู่ในวัฒนธรรมโภชนาการพร้อมกับแพทย์พื้นบ้านเรือนประเทศไทยมาแต่โบร่ำโบราณต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ คนเกรงไทยรู้จักกินกล้วยหลายประเภทแต่ที่ฮิตมากมายก็คือ “กล้วยน้ำว้า” นอกเหนือจากผลประโยชน์ทางด้านอาหารแล้ว กล้วยแล้วก็มีคุณค่าอนันต์ในทางยา อย่างนั้น

  • หมอพื้นบ้านเรือนใช้ใบตองอ่อนที่ยังม้วนอยู่ นำมาอังไฟเพื่อที่จะประคบมีใจษาอาการปวดหน้าอก อาการอักเสบพุพอแล้วงสรรพสิ่งผิวหนัง หรือนำมาต้มน้ำดื่มแก้ท้องสิ้นลม บิด แก้ผื่นคัน
  • สมัยที่ยาเพนิซิลินหาซับซ้อน น้ำคั้นสดจากหยวกกล้วยช่วยเหลือเยียวยาโรคหนองใน ดื่มแก้ท้องร่วง ท้องมรณะ
  • น้ำคั้นสดจากหยวกกล้วย ใช้ชโลมหนังศีรษะกับเส้นผมซ้ำๆๆ เพื่อพึงพอใจษาอาการผมร่วงและปลูกผม น้ำคั้นจากเหง้าเป็นยาแก้ไข้พร้อมด้วยบำรุงร่างกาย
  • มีฤทธิ์ปกป้องมีใจษาพร้อมด้วยบำรุงรักใคร่ษาแผลในกระเพาะอาหารในหนูทดทดลองหลายจำพวก ซึ่งเป็นได้เทียบเคียงได้กับคน พบว่าผงกล้วยดิบในสัดส่วน 5 กรัม/วัน (ด้วยว่าหนูทดทดลอง) หรือโดยประมาณ 250 กรัม/วัน เนื่องด้วยคน สามารถสนับสนุนคุ้มกันการเกิดแผลในกระเพาะได้ กับถ้าเพิ่มปตอนหลังาณความจุ 7 กรัม/วัน (เพราะว่าหนูทดลอง) หรือโดยประมาณ 350 กรัม/วันเพราะว่าคน จะช่วยเหลือมีใจษาแผลในกระเพาะที่เกิดจากการได้รับยาแอสไพริน  โดยพบว่ากล้วยจะไปกระตุ้นให้เซลล์ในเยื่อบุกระเพาะหลั่งสารเกรก (mucin) ออกมาเคลือบกระเพาะ เพิ่มความหนาพร้อมด้วยความทนทานของเยื่อบุกระเพาะ ลดความเป็นกรดในกระเพาะ กระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดมาโครฟาจ (macrophage) ซึ่งสนับสนุนเร่งการสมานแผลในกระเพาะอาหารให้หายด่วนขึ้น
  • พบว่า ผงกล้วยดิบสัดส่วน 40 กรัม/วัน เกี่ยวกับคนเป็นยาบำรุงรักใคร่ษาเบาหวานที่ได้ผลดีพร้อมทั้งพ้นภัย โดยออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างอินซูลินพร้อมกับกระตุ้นการใช้น้ำตาลกลูโคสในร่างกายด้วย
  • กล้วยดิบมีเส้นใยอาหารจำพวกเฮมิเซลลูโลส (hemicellulose) พร้อมด้วยนิวตรอลดีเทอร์เจนต์ (nutral detergent fiber-NDF) ซึ่งเป็นเส้นใยที่ร่างกายไม่สมรรถย่อยสลายได้ มีฟีเจอร์ช่วยทัศน์ดซึมซาบไขมันและคอเลสเตอรอลไว้แล้วมากับอุจจาระก้อนโตทำให้ร่างกายพินิจดซึมซาบคอเลสเตอรอลน้อยลง ส่งผลให้ปริมาณไขมันในเลือดพร้อมทั้งเนื้อเยื่อเสียด้วย
  • นอกจากเอาใจช่วยสั่งการความดันโลหิตให้อยู่ในค่าปกติแล้ว กล้วยดิบเป็นพิเศษกล้วยดิบปิ้งยังเป็นอาหารยาช่วยเหลือลดน้ำหนักได้ดีพร้อมทั้งมั่นคง
  • มีการศึกษาฤทธิ์บำรุงชอบพอษาตับสรรพสิ่งกล้วยในหนูที่ได้รับยาพาราเซตามอลซึ่งทำให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ พร้อมกับเมื่อป้อนอาหารที่มีส่วนผสมข้าวของผงกล้วยแค่ 10% ให้หนู พบว่าผงกล้วยช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่สิ่งเซลล์ตัเนื้อความี่ถูกทำอันตรายจากยาพาราเซตามอลได้ พร้อมกับยังคุ้มกันการเพิ่มขึ้นข้าวของเครื่องใช้สารสีเหลืองบิลิรูบิล (bilirubin) ในเลือด เพราะว่าตับเสื่อมไม่รอบรู้กำจัดสารบิลิรูบิลได้


พักนี้กล้วยถูกจัดเป็นสมุนไพรในสาธารณสุขพื้นฐานใช้บรรเทาอาการท้องสิ้นเปลืองรูปแบบไม่วิกฤติ โดยมีทริครับประทานสบายๆ อย่างนั้น ใช้กล้วยน้ำว้าห่ามสดครั้งละครึ่งถึงหนึ่งผล หรือผงกล้วยปั้นเม็ดลูกกลอนครั้งละ 4 เม็ด หรือใช้ผงกล้วยครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ รับประทานวันละ 4 ครั้ง กระทำนอาหารพร้อมกับเนรมิต นนอน  ถ้าจะให้ได้ผลดียิ่งขึ้นควรกินร่วมกับน้ำขิงเพื่อเสด้านหลังฤทธิ์การขับลมเอาใจช่วยลดกิริยาอาการท้องขึ้นท้องอืดได้มีศักยภาพมากขึ้น
เน้ำมืองไทยถ้าหากยังเป็นประเทศกำลังพัฒนามาหลายปีดีดัก แต่ก็ยังโชคดีที่มีกล้วยน้ำว้าค่าถูกไว้เป็นอาหารและยาชั้นดีช่วยพินิจแลสุขภาพคนเกรงไทยตั้งแต่วัยเด็กแดงจนถึงผู้สูงอายุ
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กล้วยตากอบน้ำผึ้ง

Tags : กล้วยตากอบน้ำผึ้ง