ผู้เขียน หัวข้อ: !!เลือกใช้ หน้ากากอนามัย ยังไง ให้เหมาะสมกับการปกป้องคุ้มครองโควิด19 หรือมลพิษ P  (อ่าน 106 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spammer

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 139,825
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
     หลายๆคนคงกำลังสงสัยอยู่ว่า สถานการณ์ปัจจุบันภายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาด หรือวิกฤตมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศอย่าง PM2.5 ที่ประเทศไทยจำต้องเผชิญในช่วงปลายปีถึงต้นปีก่อนหน้าที่ผ่านมารวมทั้งในโซนภาคเหนือที่ยังคงต้องเผชิญเรื่อยสืบเนื่องจากปัญหาไฟป่า พวกเราควรจะปกป้องสุขภาพเช่นไรเพื่อไม่ให้กำเนิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพรุนแรง แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ควรจะจะต้องมีเลยก็คือ หน้ากากอนามัย แต่ว่าคนไหนควรจะจำเป็นต้องใช้บ้าง หน้ากากเด็ก และก็ควรจะเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์บ้าง มาดูกัน!

     
 
ติดต่อและอ่านรายละเอียดได้ตามนี้ >> หน้ากากเด็ก https://www.maskk.me/th

     จำพวกหน้ากากอนามัยที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์/แต่ละบุคคล
เหตุการณ์โลกที่ทวีความร้ายแรงขึ้นเรื่อยอย่างโควิด-19 แพร่ระบาด ที่ในขณะนี้มียอดคนป่วยติดเชื้อโรคสะสมเกินปริมาณหลักล้าน รวมทั้งยังไม่มีท่าทีชัดแจ้งว่าจะจบลงเมื่อใด หรือมลภาวะทางอากาศอย่างฝุ่นควันทั่วไปตามท้องถนน ไปจนถึง PM2.5 ก็ตาม อย่างน้อยทุกคนก็ต้องมีหน้ากากอนามัยไว้ป้องกันตัวเอง แบ่งตามชนิดของหน้ากากอนามัยให้เหมาะสมกับบุคคลและก็เหตุการณ์ได้ประมาณ 3 กรุ๊ปด้วยกัน ดังเช่น

     1) หน้ากากอนามัยแบบผ้า
ลักษณะ : หน้ากากอนามัยแบบนี้มักแพงไม่สูง เนื่องจากทำมาจากผ้า โดยเราสามารถเลือกจำพวกของผ้าได้จากที่ตนเองอยาก มีรูปทรงดีไซน์ เนื้อผ้า รวมทั้งลวดลายให้เลือกนานาประการ หาซื้อได้ง่าย และก็สามารถซัก-ตากแห้งเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำได้ การคุ้มครองอนุภาคละอองต่างๆขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อผ้าที่ใช้ และก็เนื่องด้วยเป็นอุปกรณ์ที่ไม่อาจจะกันความชุ่มชื้นได้เลยอาจเสี่ยงสะสมเชื้อโรคที่ลอยมาติดหน้ากากได้ยาวนานกว่าหน้ากากประเภทอื่น

     แนะนำ : หากคนไหนกันมีผิวที่ค่อนข้างจะระคายเคืองง่าย หรือเป็นสิวง่าย อาจเกิดการเคืองหรือมีสิวขึ้นหนักในช่วงที่ใส่หน้ากากผ้าเนื่องด้วยมีการเสียดสีระหว่างเนื้อผ้ากับผิวได้ หน้ากากเด็กชี้แนะให้ใช้หน้ากากอนามัยที่ทำมาจากผ้าคอตตอนก็จะสุภาพกับผิวมากกว่าแบบอื่น หรือแม้ผู้ใดกันที่ต้องการเนื้อผ้าที่สามารถกันละอองน้ำลาย หรือฝุ่นผงควันอนุภาคเล็กได้ อาจใช้หน้ากากผ้าที่ทำมาจากผ้ามัสลินหรือผ้าสาลูทบกัน 2 ชั้น ก็จะช่วยกันละอองอนุภาคเล็กได้เกือบจะเทียบเท่าหน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวได้เลย ฯลฯ

     

     เหมาะกับคนใดกันแน่ : ในเหตุการณ์วัววิด-19 แพร่ระบาด ผู้ที่เหมาะกับการใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าเป็น ผู้ที่มีสุขภาพดี ไม่ได้ป่วยมีโรคประจำตัว ไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อโรควัววิด-19 และไม่ได้เดินทาง/ต้องอยู่ในสถานที่เสี่ยงที่จำต้องพบเจอคนที่บางทีอาจติดเชื้อโรควัววิด-19 ส่วนในสถานการณ์ที่จำต้องเจอมลภาวะทางอากาศ เหมาะสมกับในสถานการณ์ธรรมดา อาทิเช่น ฝุ่นละอองควันบนถนนทั่วๆไปที่ไม่ใช่ฝุ่น PM2.5 ฯลฯ

     2) หน้ากากอนามัยแบบใยสังเคราะห์ 3 ชั้น หรือหน้ากากอนามัยทั่วไปแบบใช้แล้วทิ้ง
ลักษณะ : หน้ากากอนามัยชนิดนี้มักจะมีการเลือกใช้สิ่งของแล้วก็กรรมวิธีการผลิตอย่างดี คนละฝั่งมักจะมีสีที่ต่างกัน อาทิเช่น ฝั่งหนึ่งสีขาว อีกฝั่งสีเขียวหรือสีน้ำเงิน อื่นๆอีกมากมาย ด้านนอกมีสารเคลือบปกป้องเชื้อโรคหรือไวรัสอยู่ หน้ากากประเภทนี้สามารถมั่นอกมั่นใจได้ว่า ถ้าหากสวมเราจะไม่ติดเชื้อหรือเชื้อไวรัสที่ลอยมากับอากาศหรือละอองน้ำลาย แต่ว่าหน้ากากอนามัยประเภทนี้สามารถหาซื้อได้ค่อนข้างจะยาก และมีราคาพอสมควร

เสนอแนะ : เวลาสวมใส่ควรจะเอาฝั่งสีขาวแนบเข้าหาใบหน้า เนื่องด้วยข้างในหรือฝั่งสีขาวจะช่วยซับละอองน้ำ ทำให้ซับน้ำมูกน้ำลายได้ดีมากยิ่งกว่า ทั้งยังนุ่มต่อผิว ลดการระคายเคืองเมื่อต้องเสียดสีกับผิวหน้าได้ดีกว่า แล้วก็ส่วนพับจีบของหน้ากากก็จะเป็นแบบหงายขึ้น ส่วนข้างนอกคือที่มีสีอื่นๆได้แก่ สีเขียว, สีฟ้า ฯลฯ ชอบมีการเคลือบสารปกป้องการซึมของความชุ่มชื้น ไม่ให้ซึมเข้ามาถึงจมูกแล้วก็ส่วนที่เกี่ยวโยงกับฟุตบาทหายใจของเราได้ การสวมใส่หลังเกี่ยวที่หูทั้งสองข้างเป็นระเบียบเรียบร้อยควรกดแถบลวดให้แนบสนิทกับบริเวณใบหน้า รวมทั้งดึงข้างล่างปกคลุมใต้คางให้เรียบร้อย ยิ่งกว่านั้นควรจะเลือกร้านป้อมใจว่า มีของที่ได้มาตรฐาน เพราะตอนที่ผ่านมามีมิจฉาชีพได้นำหน้ากากอนามัยใช้แล้วหรือของเก๊ไม่มีคุณภาพมาขาย

เหมาะกับคนไหนกัน : ในสถานการณ์วัววิด-19 แพร่ระบาด คนที่เหมาะสมกับการใช้หน้ากากอนามัยแบบใยสังเคราะห์ 3 ชั้น หรือหน้ากากอนามัยทั่วไปแบบใช้แล้วทิ้งเป็น คนที่มีภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง อาจมีโรคประจำตัว หรือมีแนวโน้มว่าจะเสี่ยงติดเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ได้ ยกตัวอย่างเช่น จำต้องเดินทางไปปฏิบัติงานผ่านสถานที่แออัดคับแคบเสมอๆ หรือต้องอยู่ร่วมกับผู้ที่ต้องกักตัวหลังไปพื้นที่เสี่ยงมา อื่นๆอีกมากมาย ส่วนในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องพบมลภาวะทางอากาศ เหมาะกับผู้ที่ต้องเดินไปในที่แออัดคับแคบบ่อยๆ ดังเช่น รถสาธารณะ อาจใส่ไปในที่ที่มีมลพิษทางอากาศหนาแน่นได้ แต่ว่าจะป้องกัน PM2.5 ได้ไหม ต้องมองที่หน้าบรรจุภัณฑ์อีกที อื่นๆอีกมากมาย

*เพิ่มเติมอีก หน้ากากอนามัยแบบธรรมดาและหน้ากากอนามัยแบบคาร์บอนแตกต่างเช่นไร : สามารถกรองอนุภาคเล็กได้เช่นกัน แต่ว่าแบบคาร์บอนช่วยกรองกลิ่นที่ไม่ประสงค์ได้ด้วย

     3) หน้ากากอนามัยแบบ N95
ลักษณะ : หน้ากากอนามัยที่แพงมากที่สุด เพราะมีกรรมวิธีการผลิตที่ออกจะสลับซับซ้อน แล้วก็การใช้แรงงานก็สลับซับซ้อนไม่แตกต่างกัน ถ้าไม่เคยใช้มาก่อนจะคิดว่าใช้งานยาก รวมทั้งใส่เรียบร้อยรึยัง ส่วนสมรรถนะในการคุ้มครองปกป้องสามารถทำได้ดี คุณภาพสูงที่สุด คุ้มครองปกป้องอนุภาคละอองขนาดเล็กมากได้ คุ้มครองการแพร่ระบาดเชื้อโรคได้ดี

เหมาะสมกับผู้ใด : กระบวนการผลิตมีจำกัด ในตอนสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดแบบนี้ควรให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ควรต้องเจอผู้เจ็บป่วย แล้วก็เชื้อโรคตลอดเวลาได้ใช้จะเยี่ยมที่สุด ส่วนในสถานการณ์ที่จำต้องพบมลภาวะทางอากาศ เดี๋ยวนี้ค่อนข้างเหมาะกับคนที่อยู่ภายในเขตพื้นที่ หรือข้าราชการดับไฟที่ต้องเสี่ยงพบฝุ่นละออง PM2.5 หนาแน่นในโซนภาคเหนือ จำพวกนี้ค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่จำต้องปฏิบัติภารกิจเสี่ยงพบเชื้อวัววิด-19 หรือ PM2.5 มากๆแม้กระนั้นถ้าหากเป็นคนสามัญไม่ค่อยเสนอแนะ เพราะว่าแพงสูง และไม่ได้จำเป็นจะต้องใช้ N95 ขนาดนั้น

นอกจากการเลือกจำพวกหน้ากากอนามัยให้เหมาะสมกับการใช้งานและก็สถานการณ์แล้ว ยังควรที่จะทำการเลือกให้เหมาะสมกับผู้ใส่เพื่อให้การใช้งานคุ้มครองป้องกันสุขภาพจากเชื้อโรครวมทั้งผงมลพิษสามารถดำเนินการได้อย่างมากอีกด้วย ดังเช่นว่า ถ้าเลือกให้ลูกน้อย ควรที่จะทำการเลือกหน้ากากอนามัยสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพื่อให้ใส่แล้วพอดิบพอดีกับรูปหน้า สามารถคุ้มครองสุขภาพได้อย่างมีคุณภาพ

     การคุ้มครองป้องกันสุขภาพนอกจากการใส่หน้ากากกันฝุ่น
อย่างที่ผู้คนจำนวนมากน่าจะพอเพียงทราบกันว่า การใส่ใส่หน้ากากอนามัย ไม่สามารถที่จะคุ้มครองสุขภาพจากเชื้อโรคโควิด-19 แล้วก็สิ่งสกปรกอื่นๆดังเช่น มลภาวะ ฯลฯ เข้าสู่ร่างกายได้แบบ 100% แต่จะต้องดูแลด้วยแนวทางอื่นๆพร้อมกันเพื่อการคุ้มครองสุขภาพสามารถปกป้องได้อย่างมีคุณภาพแบบ 100% ดังต่อไปนี้

     1) ล้างมือให้สะอาด
คนไม่ใช่น้อยน่าจะติดนิสัยถูกใจเอามือมาสัมผัสบริเวณใบหน้า ซึ่งทำให้เชื้อโรค หรือมลภาวะที่ติดผิวมาสามารถเข้าสู่ร่างกายได้จากการสัมผัสของพวกเรา ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่จะเอามือมาสัมผัสหน้า, ถอดหน้ากากอนามัยออก หรือก่อนอาหาร ควรจะทำความสะอาดมือของพวกเราให้ถูกทางทุกคราว ด้วยสบู่ก้อนหรือสบู่เหลวก็ได้ เช็ดชำระล้างให้ทั่วฝ่ามือและก็หลังมือ โดยใช้เวลาราวๆ 20-30 วินาทีเท่านั้น แล้วล้างออกโดยใช้น้ำสะอาด แต่หากในเรื่องที่จำเป็นต้องออกไปด้านนอก ไม่สบายในการใช้สบู่และน้ำล้างมือ บางทีอาจพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือแทนก็ได้ โดยเลือกใช้เจลแอลกอฮอล์ที่มีส่วนประกอบเป็น Ethyl Alcohol เข้มข้น 70% ขึ้นไป แล้วก็มีเลขเขียนแจ้งจากอย. สามารถสำรวจข้อมูลได้ หน้ากากกันฝุ่น

     2) เสริมเกราะคุ้มครองสุขภาพด้วยไอเท็มอื่นๆ
นอกเหนือจากหน้ากากอนามัย แล้วก็เจลแอลกอฮอล์ที่จำต้องพกประจำตัวเวลาเดินทางในตอนยามนี้แล้ว ยังควรจะพกไอเท็มอื่นๆเพิ่มเพื่อเสริมความสามารถสำหรับในการคุ้มครองสุขภาพและก็เสริมความเชื่อมั่นและมั่นใจด้วย ได้แก่ ทิชชูเปียกสำหรับเพื่อการทำความสะอาดมือ ผิว สิ่งของที่ต้องสัมผัส, แว่นครอบตานิรภัย ช่วยคุ้มครองป้องกันเชื้อโรคหรือมลพิษมาสัมผัสผ่านดวงตา ฯลฯ หน้ากากกันฝุ่น

สุดท้ายนี้ อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพร่างกายในตอนนี้ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะว่าเชื้อไวรัสวัววิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่นี้ เมื่อติดเชื้อแล้วจำต้องจ่ายค่าตรวจ แล้วก็ค่าหมอในอัตราที่สูงมากมาย, แม้เป็นหนักได้โอกาสถึงกับขนาดเสี่ยงเสียชีวิต และก็ต่อให้จะรักษาหายร่างกายก็บางครั้งอาจจะไม่กลับมาดังเดิม โดยเฉพาะปอดที่ถูกทำลายจากเชื้อไวรัสวัววิด-19 ร่างกายไม่อาจจะฟื้นฟูและก็ยังไม่มีวิธีทางการแพทย์ซึ่งสามารถรักษาหายได้ ด้วยเหตุนั้นควรจะคุ้มครองปกป้องไว้ดีกว่าปรับแต่งในคราวหลังแน่ๆ แล้วพวกเราจะผ่านวิกฤตโควิด-19 แล้วก็มลภาวะ PM2.5 นี้ไปร่วมกัน
 
     
 
ขอบคุณสำหรับที่มา บทความ หน้ากากกันฝุ่น https://www.maskk.me/th

Tags : หน้ากากกันฝุ่น,หน้ากากเด็ก