ผู้เขียน หัวข้อ: จำเป็นมั้ยต้องจ้างช่างภาพงานแต่ง ???  (อ่าน 794 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Master

  • [color=Turquoise][i]"อาจจะเหนื่อยล้าและมีผิดหวัง แต่ยังมีพรุ่งนี้ให้เราได้เริ่มกันใหม่ ทุกชีวิตที่อยู่ในเมืองนี้ สักวันก็คงได้สมดังใจ ... "[/i][/color]
  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 487
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
จำเป็นมั้ยต้องจ้างช่างภาพงานแต่ง ???
« เมื่อ: 8 พฤศจิกายน 2017, 16:48:18 »
เห็นหลายๆคู่ แต่งงานกันที่ต้องจ้างช่างภาพ มาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ดู เสียเงินไม่ใช่น้อย จึงเกิดความสงสัยว่า มันจำเป็นเหรออ ถ่ายไปแล้วเอามาดูกันเหรอ
เรามีทางเลือกอื่นๆ อีกมั้ยเช่น

1. เราเอาเงินค่าช่างภาพ 15000-30000 ไปจัดงานให้สวยงาม เพื่อให้รูปที่ถ่าย ได้วิวที่สวยขึ้น แล้วให้เพื่อนที่มีกล้องอะไรก็ได้ถ่ายรูปให้(เห็นบางคนใช้มือถือถ่ายก็สวยดี) แล้วส่งไฟลให้เรา เอาไว้ล้างรูป วานกันไม่ต้องจ้าง รูปจะห่างจาก จ้างช่างมาถ่าย แบบดูออกเลยเหรอ มันก็กล้องเหมือนกันจะดีกว่าหรือไม่
2. เราไม่ต้องถ่าย เราใช้แค่สมองเก็บความทรงจำ ณ โมเม้นนั้น และเราห้าม แขกที่มาร่วมงานถ่าย เนื่องจากเราจะได้ไม่ต้องแต่งหน้า ทำผม หรือ หาชุดอะไรให้ดูดีมากมาย เพราะไม่ต้องกลัวว่า โมเน้น ตอนเราไม่สวย จะถูกเพยแพร่ออกไป เราเอาเงินเหล่านี้ มาจัดงาน และซื้ออาหารอร่อยๆ มาทานกัน เพราะถ่ายไปก็ไม่ดู ถ่ายไม่สวยก็ไม่อยากถ่าย สู้ไม่ถ่ายเลยดีกว่า
3. ยอมลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่น มาจ้างช่างภาพ เรทถูกๆ ทั้งวันไม่เกิน 5000 มันจะต่างจาก ช่างภาพ 15000 แบบดูออกหรือไม่




สำคัญหรือไม่สำคัญ ผมว่าอยู่ที่เจ้าของงานครับ  ว่าคิดยังไง

ถ้าคิดแบบ จขกท ก็คงไม่สำคัญ

แต่สำหรับผม ผมคิดว่ามันสำคัญมากครับ

ทุกวันนี้ ผมยังหยิบอัลบั้มรูปงานแต่ง ของพ่อ-แม่ผม มาดูอยู่เลยครับ

เวลาดูก็ได้คุย ได้เล่าเรื่องต่างๆให้กันฟัง ผมว่ามันมีคุณค่ามากครับ

งานแต่ง สำหรับบางคนก็มีคุณค่ามากมาย  แต่สำหรับบางคน มันก็แค่งานๆนึง อาจมีงานต่อๆไป ไม่ใช่ครั้งเดียวในชีวิต

สรุป อยู่ที่เจ้าของงานครับ ความสำคัญของแต่ละคนมันต่างกัน




1. ถ้าคิดว่ารับคุณภาพภาพจาก iphone ได้จริงๆ ก็ไม่ต้องจ้างครับ... แต่แนะนำเพิ่มอย่างนึงนะครับ หาทีมจัดไฟในงานให้ดีดีด้วย เพราะเท่าที่ผมเห็น ช่างภาพสมัครเล่นส่วนใหญ่ ดูทิศทางแสง แก้ป้ญหาแสงไม่เป็น แสงดีไว้ก่อน ช่วยให้ได้ภาพที่ดีขึ้นแน่นอน

2. ถ้าคิดว่าความจำดี จำได้ หรือไม่อยากจำ(ผมว่าถ้าเป็นกรณีนี้ ไม่ต้องจัดงานก็ได้ครับ นัดเลี้ยง แล้วไปจดทะเบียนกันเงียบๆก็พอ) ก็ไม่ต้องจ้างครับ ซึมซับบรรยากาศให้เต็มที่ได้เลย

3. ถ้าจะจ้างช่างภาพถูกๆ ผมว่าก็จ้างได้ ถ้าไม่คิดมาก ราคามันบอกคุณภาพมาคร่าวๆแล้วครับ (ยอมรับนะครับว่าของถูกและดีมีในโลก แต่ของดีราคาเหมาะสมมีเยอะกว่า)

สรุป ถ้าไม่คิดมาก จะทำอะไรก็ทำเถอะ




จากผมคนที่ทำร้านรับอัดรูปครับ

อย่าไปคาดหวังว่าคนที่รู้จักเช่น เพื่อน ญาติ เค้าจะอัดรูป หรือส่งไฟล์ให้ครับ เท่าที่ทำร้านมา เค้าเน้นถ่ายรูปอย่างเดียว เยอะด้วย บางคนมีมากกว่า 200 ภาพ เพียงเพราะรู้จักกัน หรือเป็นเพื่อนกัน แล้วไปร่วมงานแต่งงาน และก็เก็บไว้ในเมมโมรี่แบบนั้นแหละ พอถึงเวลาตัวเองจะไปเที่ยว หรือไปงานอื่นๆ มักจะมาที่ร้านเพื่อให้ช่วยเช็คกล้อง ถ้าเมมโม่รี่เหลือพื้นที่น้อย เค้าจะบอกให้ลบทันที ลบออกทั้งหมด เพื่อเคลียร์เมม

ช่วงแรกๆผมก็ไม่กล้าลบ ถามแล้วถามอีก ว่าอัดไปหรือยัง ไรท์ใส่แผ่นไหม หรือก็อปไฟล์ให้เจ้าของหรือยัง เพราะไฟล์เป็นงานสำคัญ เช่นงานแต่งงาน ถ่ายมาซะเยอะ บางรูปมองดูก็รู้ว่าแล้วว่า มุมนั้นกล้องเข้าไปถ่ายได้คนเดียว  แต่เค้ายืนกรานที่จะลบทั้งหมด มาช่วงหลังๆ มาให้ลบอีก ผมลบแบบไม่ลังเลเลย เพราะคนแบบนี้เยอะมากๆ คืออยากถ่าย แต่ไม่อยากมีภาระ ถ่ายเยอะๆ เสร็จงานก็จบ ลบทิ้ง เสียตังค์ค่าถ่านอย่างเดียว แต่ได้หน้า

เรื่องคุณภาพ ส่วนมากก็ตามราคา ส่วนน้อยก็คุณภาพน้อยกว่าราคา อีกส่วนคือราคาน้อยเพราะกำลังหัด (ไม่ใช่หัดถ่ายภาพ หรือควบคุมกล้อง แต่หัดถ่ายให้ได้มุมกล้องที่ดี ซึ่งบางจังหวะมีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น)




เบื่อมากเวลาญาติแย่งช่างภาพมืออาชีพถ่ายในงาน
เจอประจำเลย ผวาเข้ามาทั้งตัวบังช่างภาพเต็มๆ เพื่อยื่นไอโฟนไปถ่ายมาดูเล่นๆ
ผมเคยเจอขนาดญาติผู้ใหญ่ในงานเตือนเรื่องชอบเข้ามาบังถ่ายเล่นจังหวะสำคัญ
เค้ายังตอบกลับไปว่า ก็ช่างภาพในงานรูปให้เจ้าภาพดู อันนี้เค้าถ่ายมาเพื่อเค้าดูเอง ไม่เกี่ยวกัน(ฟังแล้วเพลีย)

แล้วอีกประเภทที่บอกว่าไม่เคยทำอย่างบรรทัดด้านบน แต่ไปอยู่ฝั่งตรงข้ามช่างภาพเป๊ะๆ
รูปได้ออกมาบ่าวสาวกำลังก้มกราบเท้าบุพการี กลายเป็นกราบเท้าคนถ่ายไอโฟนไปด้วย...เซ็ง




ในฐานะช่างภาพงานแต่ง  ผมบอก กับ บ่าวสาวเสมอครับ เวลามีมาถามผมว่า  พรีเวดดิ้งจำเป็นมั้ยคะ  วีดีโอในงานจำเป็นหรือเปล่า 
ผมบอกเสมอว่าไม่จำเป็นครับ ขึ้นอยู่กับว่า อยากได้รึเปล่า   จะขาดอะไรยังไงไป ทั้ง2คนยังแต่งกันได้อยู่ดี 
"สิ่งจำเป็น" ในการแต่งงาน คือ คน2คนที่รักกันครับ 

สมมุติอยากจะมีขึ้นมา  ผมบอกได้ว่า
pre wedding ลองไม่มี รึอยากลองถูกๆก็ได้  ชอบก็ok ไม่ชอบก็ถ่ายใหม่ จ้างทุกอย่างใหม่  จะทำกี่รอบก็ได้ ถ้ามีเงิน

แต่วันงาน ถ้าคุณไม่ชอบรูป รึคิดว่า รูปคุณภาพ"ไม่ดีพอ" ขึ้นมา  คุณคงไม่สามมารถ เชิญแขก มาใหม่อีกรอบได้นะ




เห็นหลายๆคู่ แต่งงานกันที่ต้องจ้างช่างภาพ มาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ดู เสียเงินไม่ใช่น้อย จึงเกิดความสงสัยว่า มันจำเป็นเหรออ ถ่ายไปแล้วเอามาดูกันเหรอ :

- เชื่อไหมครับ ภาพงานแต่งผม ผมยังไม่ได้อัดออกมาเป็นอัลบั้มเลย
แต่ผมเก็บแยกในคอมหลายๆ ที่เพื่อกันไฟล์เสียหาย และผมขอบอกว่าโลกโซเชียลทุกวันนี้
เอาแค่เรามาเล่นในพันทิปได้นี่แหละ.... ภาพถ่ายของความทรงจำครั้งนึงในชีวิตแบบนี้มันใช้ได้เสมอครับ
คุณมีภาพสวยๆ ทำเป็น WallPaper เอาลง Facebook ลง IG ดูกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ (ถ้ามันสวย)
มีลูก มีหลานก็เก็บไว้ให้ดูได้ถึงต้นกำเนิดที่ทำให้เขาได้เกิดมา (วันที่พ่อแม่แต่งงานกัน)
อยากล้าง อยากอัดภาพ..... ถ้าภาพสวย เราก็จะไม่เสียดายเงินที่จะอัดครับ / ทุกวันนี้ผมก็ยังดู ยังใช้รูปอยู่เลยครับ

1. เราเอาเงินค่าช่างภาพ 15000-30000 ไปจัดงานให้สวยงาม เพื่อให้รูปที่ถ่าย ได้วิวที่สวยขึ้น แล้วให้เพื่อนที่มีกล้องอะไรก็ได้ถ่ายรูปให้(เห็นบางคนใช้มือถือถ่ายก็สวยดี) แล้วส่งไฟลให้เรา เอาไว้ล้างรูป วานกันไม่ต้องจ้าง รูปจะห่างจาก จ้างช่างมาถ่าย แบบดูออกเลยเหรอ มันก็กล้องเหมือนกันจะดีกว่าหรือไม่ :

- ผมเองตอนแรกคุณแม่จะติดต่อช่างภาพที่รู้จักันให้ราคาหลัก 10,000 +-
แต่ผมเคยเห็นภาพงานเขาแล้ว ผมเลือกที่จะติดต่อคนที่ไว้ใจเอาเองในราคาที่แพงกว่าครับ
และผมก็ไม่ผิดหวัง.......... คุณภาพมันต่างกันมากจริงๆ / จริงๆ ราคาไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับ
ช่างภาพดีๆ ที่เราเชื่อถือได้ บางคนราคาค่างาน อาจถูกกว่าช่างภาพที่คิดแพงๆ อีกครับ อยู่ที่เราเลือก

ส่วนภาพจากเพื่อนๆ ผมว่าเราเอามาดูเพลินๆ ได้ครับ....
แต่ผมเห็นเพื่อนๆ ที่มางานแต่ง เค้าถ่ายเล่นกันเองมากกว่าจะถ่ายกับบ่าวสาวอีกครับ
หรือถามตัวเองว่าไปงานแต่งเพื่อน เคยเดินตามถ่ายบ่าวสาวทุกอิริยาบทหรือเปล่า

2. เราไม่ต้องถ่าย เราใช้แค่สมองเก็บความทรงจำ ณ โมเม้นนั้น และเราห้าม แขกที่มาร่วมงานถ่าย เนื่องจากเราจะได้ไม่ต้องแต่งหน้า ทำผม หรือ หาชุดอะไรให้ดูดีมากมาย เพราะไม่ต้องกลัวว่า โมเน้น ตอนเราไม่สวย จะถูกเพยแพร่ออกไป เราเอาเงินเหล่านี้ มาจัดงาน และซื้ออาหารอร่อยๆ มาทานกัน เพราะถ่ายไปก็ไม่ดู ถ่ายไม่สวยก็ไม่อยากถ่าย สู้ไม่ถ่ายเลยดีกว่า :

- งั้นแค่ทำพิธีผูกข้อมือ แล้วพา 2 ครอบครัวไปทานข้าวร่วมกันก็พอครับแบบนี้
จัดงานแต่งเปลืองครับ เชื่อผม.... ได้เงินใส่ซองยังไม่พอค่าจัดงานเลยครับ

3. ยอมลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่น มาจ้างช่างภาพ เรทถูกๆ ทั้งวันไม่เกิน 5000 มันจะต่างจาก ช่างภาพ 15000 แบบดูออกหรือไม่ :

- ตอบไว้แล้วในข้อ 1 ครับ


เพื่อนๆคิดว่างัยบ้าง ?????

- แนวคิดแต่ละท่านต่างกันไปครับ ไม่มีใครถูกผิด.... งานแต่งงาน
บางคนมันคือวันสำคัญที่สุดในชีวิต (โดยเฉพาะผู้หญิง) ผมมีน้องอยู่คนนึงที่จัดพิธีแบบง่ายๆ
ไม่ได้มีช่างภาพ หรือมีพิธีรีตรองอะไร(ด้วยเหตุผลด้านปัจจัย) ผมมีแค่กล้อง Mirrorless ธรรมดาไปช่วยถ่ายในงาน
ภาพยังมีความหมายมากๆ สำหรับเขาเลยครับ....ผมเชื่อว่าถ้าเขามีงบมากกว่านี้ เขาก็คงอยากจ้างช่างภาพโดยไม่ต้องสงสัย

**ถ้างานผมมีแต่เพื่อนถ่ายให้ หรือมีช่างภาพไม่โดนใจ
ผมคงไม่มีรูปที่อยากเอามาใช้ในวันครบรอบแต่งงาน 1 ปีแน่ๆ (^^)




สมัยก่อนผมคิดแบบเดียวกับเจ้าของกระทู้เป๊ะเลย จนกระทั่งน้องสาวผมแต่งงานนี่แหละ ความคิดถึงค่อยเปลี่ยน เพราะว่างานแต่งน้องสาวผมนี่ก็ไม่ได้จ้างช่างภาพ ให้ผมก็พี่ชายของเจ้าบ่าวและน้องสาวของเจ้าบ่าวช่วยถ่ายรูปให้ ใช้กล้องดิจิตอลถ่ายนี่แหละ เพราะน้องสาวกะแฟนน้องสาวอยากประหยัดงบตรงจุดนี้ เพราะผ่านงานแต่งไป แล้วล้างภาพออกมาดู ภาพที่ได้ของกล้องดิจิตอลก็แน่นอนว่าคมชัดดี แต่องค์ประกอบ มิติของภาพ แสง หรือมุมมองมันไม่ได้เลย เพราะเราไม่ได้เป็นช่างภาพ และใช้แค่กล้องดิจิตอลธรรมดา ๆ เท่านั้น ผมซึ้งเลย

พอมางานแต่งผมเลยต้องใช้ช่างภาพให้มาช่วยถ่าย โชคดีที่ได้เพื่อนเป็นช่างภาพมาถ่ายให้เลยประหยัดไปได้เยอะ ภาพงานแต่งของผม กะ ภาพงานแต่งของน้องสาวผมต้องขอบอกว่าคนละเรื่องกันเลยทีเดียว ต่างกันราวฟ้ากะเหวจริง ๆ

อย่าคิดว่าช่างภาพไม่จำเป็นนะครับ ภาพที่ได้มาเปิดดูกี่ครั้งก็ประทับใจทุกครั้ง ความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีสื่อออกมาจากภาพทั้งนั้นล่ะครับ มันต่างจากกล้องดิจิตอล หรือ กล้องมือถือทั่วไปจริง ๆ




ราเคยไปจ้างช่างภาพที่ร้านพรีเวดดิ้งด้วยราคา 54000 ได้ช่างภาพพรีเวดดิ้ง ช่างแต่งหน้า แล้วก็ชุด3ชุด
ส่วนวันจริงได้ ชุดเช้า-เย็น ช่างแต่งหน้า เช้า-เย็น ตากล้องเช้า-เย็น+VDO เย็น
แต่ภาพที่ถ่ายวันพรี พอเห็นรูปแล้วรับไม่ได้ แถมไม่ได้ไฟล์รูปทั้งหมด ได้แค่12รูป ที่ลงในหนังสือ
ส่วนที่เหลือต้องซื้อไฟล์ ภาพละ 1000 บาท ค่ะ  ตอนแรกที่เลือกร้านนี้เพราะเห็นว่าร้านใหญ่ดี
และรูปภาพที่เอามาให้ดู(ของคนอื่น)ก็สวยงาม
ภาพที่ออกมาเหมือน เอากล้องมือถือถ่ายค่ะ แล้วก็เอาไปใส่ฟิลเตอร์เอา
รู้สึกแย่มาก เพราะกว่าจะเลือกรูปที่ถูกใจได้ครบ 12 รูปนี่ลำบากใจมากค่ะ
แถมไฟล์ภาพ หรือกรอบรูปตั้งหน้างาน นัดวันที่เท่านี้ แต่ก็ เรทออกไปอีก
คือรู้สึกเสียดายเงินสุดๆค่ะ เพราะงานแต่งงานเราก็มีครั้งเดียว



ที่มา:  https://pantip.com/topic/32649041
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 8 พฤศจิกายน 2017, 21:16:29 โดย Master »