ผู้เขียน หัวข้อ: จัดงานแต่งงานด้วยตัวเอง ไม่ยากอย่างที่คิด >>ทำเอง แต่งเอง ไม่ง้อ Planner  (อ่าน 1639 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Master

  • [color=Turquoise][i]"อาจจะเหนื่อยล้าและมีผิดหวัง แต่ยังมีพรุ่งนี้ให้เราได้เริ่มกันใหม่ ทุกชีวิตที่อยู่ในเมืองนี้ สักวันก็คงได้สมดังใจ ... "[/i][/color]
  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 487
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
สวัสดีค่ะ ..

ปกติเราชอบเข้ามาอ่าน pantip อยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยมี Account เป็นของตัวเองสักที วันนี้เลยได้ฤกษ์สร้าง Account ของตัวเอง เพื่อมารีวิวงานแต่งงาน ตามคำเรียกร้องของเพื่อนๆในกลุ่มกันซะเลย

เรากับแฟนเป็นลูกคนโตของครอบครัวกันทั้งคู่ การจัดพิธีเอย ทำพิธีเอย งานแต่งเอย เลยไม่รู้จะใช้ของใครเป็นต้นแบบ ต่างฝ่ายต่างไม่เคยมีงานมงคลสมรสกันทั้งคู่

ทำไงหละ เมื่อมันเป็นแบบนี้ ? …
จ้าง Wedding Planner สิ ..
(คำตอบของหลายต่อหลายคนคงออกมาเป็นแบบนี้)

แต่ ....
สำหรับเรา ไม่ใช่ค่ะ เราอยากทำเอง 5555555'
งานนี้เราต้องขอบคุณ Google เป็นอย่างมากที่ทำให้งานเราผ่านมาได้ด้วยดี พิธีเอย Backdrop เอย สคริปเอย สั่งซื้อของเอย  ฯลฯ



ทำเองทำยังไงหรอ ??


--------------------



สารบัญ

-ลำดับขั้นตอน
-ขันหมาก และพิธียกน้ำชา
-งานเลี้ยงแขก
-ทำ Backdrop ทำฉากเวที
-การ์ดแต่งงาน
-ของชำร่วย
-ของรับไหว้ในพิธียกน้ำชา
-ของแจกขันหมาก
-พิธีไหว้ฟ้าดิน  ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้เจ้าที่

ทำอะไรก่อนดี??

ว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาวหลายคนอาจจะสับสน และงงงวยกับการลำดับขั้นตอน อันนั้นก็ต้องทำ อันนี้ก็ต้องทำ คนนั้นจะเอาอย่างนี้ คนนี้จะเอาอย่างนั้น เราแนะนำให้จดเป็นรายการมาเลยค่ะ แล้วแบ่งกันเหมือนทำงานกลุ่ม อันนี้เจ้าบ่าวทำ อันนี้เจ้าสาวทำ ไม่จำเป็นต้องรอฉันต้องไปพร้อมเธอ เธอต้องไปพร้อมฉัน เราต้องไปพร้อมกันค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกันนะคะ


1.หาฤกษ์
เรากับแฟนค่อนข้างไม่ได้ Stick เรื่องฤกษ์ยามอะไรมาก ไม่ได้ดูพระ ดูโหร ดูอะไร เลยหาวันที่เป็นดิถีเรียงหมอนตาม internet แล้วฟิกวันที่เรากับแฟนหยุดตรงกันเอา และมีเวลาเตรียมตัว เตรียมงานด้วยตัวเองได้ทัน เราหาจากเวปhttp://my.weddingsquare.com/weddingday2560/

2.ตัดสินใจว่าจะจัดที่โรงแรมหรือที่บ้าน ทั้งงานเช้า และงานเลี้ยงแขก
เรากับแฟนตัดสินใจใช้สถานที่จัดเป็นที่โรงแรมหมดเลย เพื่อให้สะดวกต่อทั้งสองฝ่าย หลังเสร็จงานไม่ต้องมานั่งเก็บกวาด
พิธีเช้าเรากับแฟนใช้พิธียกน้ำชาแบบจีน และเลี้ยงแขกกันแบบโต๊ะจีน ในตอนเที่ยงของวันนั้นเลย ข้อดีของการจัดงานต่างจังหวัดแบบเราคือสามารถเลี้ยงแขกตอนเที่ยง ช่วงบ่ายๆงานเสร็จก็จะได้พักผ่อนเลย ไม่ต้องลากยาวถึงเย็น

3.ติดต่อโรงแรม และวางเงินมัดจำ
เราอยู่ในจังหวัดยะลา โรงแรมมีให้เลือกไม่มาก แต่ละโรงแรมเราว่ามาตรฐานไม่ต่างกัน เราดูจากการต้อนรับของ Sale โรงแรมที่เราไปติดต่อเป็นหลัก Sale ดูให้เกียรติเรา ดูอยากอธิบาย มีรายละเอียดต่างๆ อาหาร Checklist ต่างๆ ปริ้นท์ให้เราพร้อม  ก่อนจะจองโรงแรมเราควรรู้ว่าแต่ละโรงแรมมีอะไรพิเศษให้เราบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละโรงแรมย่อมแตกต่างกัน  เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็วางเงินมัดจำ และอย่าลืมขอเบอร์ Sale โรงแรมคนนั้นๆไว้ ซึ่งระหว่างเตรียมงานเบอร์โทร Sale เรามีโอกาสได้ใช้แน่นอน

4.งานแต่งงานนี้จัดขึ้นเพื่อใคร ?
ว่าที่บ่าวสาวทุกคนทราบดีอยู๋แล้วว่า คุณจัดงานแต่งงานครั้งนี้ แขกส่วนใหญ่เป็นแขกประเภทไหน หากเป็นแขกผู้ใหญ่การตกแต่งงาน อาจจะต้องดูทางการหน่อย แต่หากเป็นเด็กๆ เพื่อนๆกัน อาจจะลดความทางการลง และเน้นลูกเล่นที่ดูสมัยใหม่ได้มากขึ้น  สำหรับเราการตกแต่งงานเราตกแต่งตามงบประมาณส่วนตัว

5.จำนวนแขกขั้นต่ำที่มางาน
อันนี้เรียกว่ากะเกณฑ์ยากกันเลยทีเดียว เพราะตอนเอาการ์ดไปแจก เราไม่สามารถถามใครได้เลยว่าเขาจะมาหรือไม่ เราอาจจะลองคุยกับทางโรงแรม เพราะบางโรงแรมกำหนดจำนวนโต๊ะในงานขั้นต่ำ และเราก็สามารถสำรองเพิ่มไปได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ว่าเอ๊ะ ..ฉันสำรองไปแล้ว แขกมางานไม่ถึง ฉันต้องเสียค่าโต๊ะสำรองหรือไม่ ..โต๊ะสำรองจะเสียค่าโต๊ะก็ต่อเมื่อจำนวนคนไม่พอกับโต๊ะจริงที่เราสั่งไว้ แล้วต้องใช้โต๊ะสำรอง อันนี้ถึงจะเสียเงินค่ะ

6.การ์ดแต่งงาน และซอง
จะสั่งพิมพ์กี่ใบ แบบไหน ยังไงดี ?  แนะนำว่าสั่งพิมพ์การ์ดตามจำนวนโต๊ะที่เรา refer กับทางโรงแรม และบวกเพิ่มอีกสัก 10-20% สำหรับคนที่เราคิดว่าเขาอยู๋ไกล ไม่น่าจะเดินทางมาได้  ส่วนซองให้เราสั่งเผื่อไว้ ป้องกันการพิมพ์หน้าซองผิด และเผื่อแขกที่มาในงานลืมนำซองมา เราจะมีซองให้แขก

7.ชุด และ Package Pre-Wedding
เรารวบสองหัวข้อนี้เข้าด้วยกัน เพราะ ร้าน Pre-Wedding ส่วนใหญ่ จะจัดโปรถ่ายรูปพรีฯ พร้อมชุดวันงานจริงบ่าวสาวพร้อมเครื่องประดับ รวม 4 ชุด
เราเป็น 1 คนที่ไม่ชอบการถ่ายรูป จึงไม่ค่อยสนใจเรื่องถ่ายพรีฯ เท่าไหร่ และเมื่อเราใช้เวลาในการเฟ้นท์หาชุดวันจริงจากหลายๆร้าน หลายๆเพจ เราพบว่า ค่าเช่าชุดหนึ่งชุด ตกประมาณ 5,000-15,000 บาท ของเราต้องใช้ทั้งสิ้น 4 ชุด (รวมบ่าว-สาว) ตีราคาว่าต่ำสุดชุดละ 5,000 บาท 4 ชุดก็ 20,000 บาท เราเลยหันไปทางซื้อ Package พรีฯ พร้อมชุดวันงานน่าจะคุ้มกว่า  (เดี๋ยวรายละเอียดเราจะแจงให้ในหัวข้อใหญ่)

8.ของชำร่วย
มีราคาตั้งแต่ 5-45 บาท แล้วแต่สิ่งของ และ packaging ที่เราเลือก จำนวนของชำร่วยเราบวกเพิ่มไป 20% จากจำนวนที่แจกการ์ดทั้งหมด เนื่องจากเราสังเกตว่า แขกที่มาในงานมักจะหยิบติดไม้ติดมือไปคนละชิ้นสองชิ้น เช่นสามี ภรรยา มาด้วยกัน เขาอาจจะหยิบคนละชิ้นด้วยซ้ำ อันนี้ก็ต้องเผื่อไว้ก่อน เพราะเหลือดีกว่าขาด  เกิดไปของไม่พอในงานนี่แย่เลย

9. Theme งานแต่ง
แน่นอนว่าบ่าวสาวต้องมีสีในดวงใจ แบบในดวงใจ ถ้าใครยังไม่มีก็หา idea ได้จาก Google โล่ด มีเยอะแยะมากมาย ของเราใช้ Theme สีชมพู-ครีม-ทอง

10.Backdrop ในงาน
ให้ดูสถานที่มาก่อนว่าจะสามารถวาง Backdrop ได้กี่จุด ขนาดแต่ละจุดควรเป็นเท่าไหร่ ความกว้าง ความสูงของเพดานโรงแรม  แล้วจึงมาคิดแบบ Backdrop หาร้านรับทำตามแบบ หรือหาตามร้านเช่า หากเรามีแบบในใจอยู่แล้วให้นำแบบไปถามแต่ละร้านดูราคาแต่ละร้านจะแตกต่างกัน ควรตั้งงบประมาณต่อ Backdrop  1 จุดไว้ที่ 8,000-35,000 บาท แล้วแต่แบบ ซึ่งแบบสำเร็จที่ๆร้านมีอยู่แล้วราคาจะถูกกว่าจ้างจัดใหม่ ข้อเสียของแบบสำเร็จคือ ขนาดเล็ก หากต้องการถ่ายภาพเก็บจำนวนคนเยอะๆ พื้นที่แบล็คดรอปอาจจะจุไม่พอ  สำหรับเราอาศัยฝีมือการจัดบอร์ดตอนสมัยเรียนมาประยุกต์เอาจนได้

11.เวทีงาน และของตกแต่ง
อันนี้บางโรงแรมจะมีให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งโรงแรมที่เราจัดงานก็เช่นกัน แต่ด้วยความที่เราอยากให้เข้ากับ Theme เราก็ต้องจัดเอง หามาเอง ใครที่อยากทำเองแบบเรา ให้ถามขนาดความกว้าง ความยาวของเวที โรงแรมมีอะไรพอที่จะ support เราได้บ้าง หากเราจะตกแต่งเอง

13. เพลง และ Presentation ที่ใช้ในงาน
Presentation บางคนอาจจะอยู่ใน Package Pre-Wedding นะคะ แต่ของเราไม่ได้ซื้อแพ็คตรงนี้ไว้ เลยต้องทำเอง โดยส่วนตัวเราไม่อยากเล่าที่มาที่ไปของเรากับแฟนให้คนไม่สนิทฟังมากนัก พรีเซ็นฯเราจึงเน้นไปทางแนะนำตัว แล้วก็เป็นรูปถ่ายพรีเวดดิ้งใส่เพลงเอาค่ะ โปรแกรมที่ใช้ก็จะเป็นโปรแกรมตัดต่อวิดิโอทั่วไปอย่าง Sony vegas Pro และแต่งรูปด้วย Photoshop ค่ะ ก่อนหน้านี้เราพอหาข้อมูลเรื่องราคาจ้างทำวิดิโอพรีเซ็นมาบ้าง เราพยายามหาร้านที่ถูกที่สุดราคาอยู๋ในช่วง 3,500 – 12.000 บาทค่ะ 

14.เตรียมเครื่องขันหมาก
เนื่องด้วยบ้านแฟนเราอยู่คนละจังหวัดกันค่ะ เรากับแฟนจึงจัดเตรียมในส่วนตรงนี้เอง เตรียมตั้งไว้ก่อน แล้วก่อนวันงานที่บ้านแฟนจะมาจัดขันหมากให้ค่ะ เราใช้ขันหมากแบบจีน  จึงไม่ได้เน้นความสวยงามมากนัก แต่ถ้าใครแต่งแบบไทยมีร้านรับจัดเยอะแยะนะคะ ไม่ต้องกังวลไป แต่ค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างสูงหน่อย เพราะแบบไทยจะเป็นงานฝีมือ ชุดนึง 10 กว่าขัน ก็ประมาณ 10,000-20,000 บาท แล้วแต่แบบแล้วแต่ร้านนะคะ

15.ของแจกคนถือขันหมาก
ตามธรรมเนียมจีนแท้ๆ อาจจะแจกเป็นซองแดงใส่เงินค่ะ เหมือนซองอั่งเปา แต่ของเราให้เป็นสิ่งของค่ะ  แล้วแต่บางบ้านนะคะ ราคาประมาณ 80-200 บาท กำลังดีค่ะ หรือใครหาได้ถูกกว่านั้น อาจจะเป็นร่ม แก้วเซรามิค ผ้าขนหนู หรือบางบ้านอาจจะใช้เป็นสบู่ เครื่องหอม ตามประเพณีไทยดั้งเดิมค่ะ

16.ของตอบแทนพิธียกน้ำชา
ด้วยเราจัดแบบจีนค่ะ จะเป็น สู่ขอ > นับสินสอด > สวมแหวน > ยกน้ำชา  ถ้าเป็นของไทยจะมีตักบาตร ทำบุญ รดน้ำสังข์ก็ว่าไปค่ะ แบบจีนในพิธียกน้ำชา เมื่อเรายกน้ำชาให้ผู้ใหญ่ ท่านจะให้ซองแดงเรากลับมา และเราก็ให้ของตอบแทนท่านไปค่ะ ของให้ผู้ใหญ่อาจจะราคาสูงกว่าตอนแจกถือขันหมากหน่อยนะคะ เราถือว่าให้คนที่บ้านเราค่ะ บางคนให้เป็นผ้าถุง  เป็นผ้าไหม เป็นชุดถ้วยชา ก็แล้วแต่งบกันไปค่ะ

17.ช่างแต่งหน้าทำผม
จากที่เราสอบถามมาราคาต่ำสุด 3,500 บาทค่ะ แล้วแต่ระดับของช่าง ถ้าร้านมีชื่อเสียงหน่อยเขาก็อัพราคา 15,000-30,000 บาทก็มีค่ะ ดูรีวิว แล้วสอบถามราคา เห็นราคาแล้วเราก็อึ้งเหมือนกันค่ะ ไม่คิดว่าค่าแต่งหน้าจะแพงระดับหมื่น อ้อ เราลืมบอกไปค่ะ ราคาที่เราบอกเป็นราคาต่อครั้งนะคะ งานเช้า 15,000 งานเย็นอีก 15,000 อะไรประมาณนี้

18.ช่างถ่ายภาพ
ช่างถ่ายภาพวันงานราคามีหลากหลายค่ะตั้งแต่ 3.000-15,000 บาท แล้วแต่งบประมาณของแต่ละคน  หารีวิวดูภาพและสีที่บ่าวสาวชื่นชอบได้ตามเวป ทั่วไป  หลายคนอาจสงสัยทำไมค่าช่างภาพถึงระดับหลักหมื่น ช่างภาพบางท่านมาถ่ายแบบเป็นทีมค่ะ จะมีคนถือแฟลช คนถ่าย candid และตากล้องหลัก ส่วนราคาช่างภาพเรทที่ถูกลงมาหน่อยสมาชิกในทีมก็จะลดหลั่นกันลงมา

19.แจกซองให้แขก
ช่วงเดินสายแจกซองเป็นอะไรที่เหน็ดเหนื่อยมากค่ะ ยิ่งบ่าวสาวที่เตรียมงานแต่งเองด้วยแล้ว จะยุ่งขึ้นเป็น 2-3 เท่าเลยหละค่ะ ไหนจะต้องเตรียมงานเอง ไหนจะเดินสายแจกการ์ด งานของเราเชิญแขกทั้งหมด 380 คน ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆค่ะ

20.อาหารเบรกตอนเช้า สำหรับคนที่มาถือขันหมาก
อันนี้แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละครอบครัวนะคะ บางบ้านอาจจะมีแค่ชา กาแฟ ขนมเล็กๆน้อยๆ เราคิดว่าควรมีค่ะ หากมาตั้งขบวนที่โรงแรมแบบของเรา เพราะคนที่ถือขันหมากเขาต้องเตรียมตัวมาก่อนเวลาอยู๋แล้ว ระหว่างรอฤกษ์เขาจะได้มีอะไรทานรองท้องกันค่ะ สำหรับงานเราเป็นชา กาแฟ และผัดหมี่เบตง

21.Script พิธีกร ลำดับขั้นตอนการ run งาน
แน่นอนค่ะ ในเมื่อเราไม่พึ่ง ออแกไนซ์ การรันคิวทั้งหมดเราก็ต้องรันกันเองค่ะ  เนื่องด้วยครอบครัวเราและแฟน ไม่ค่อยรู้เรื่องพิธีรีตรองกันเท่าไหร่ เราอาศัยหาข้อมูลจาก internet  ทำสคริป รันคิว ส่งให้ผู้ใหญ่แต่ละฝ่ายได้ซักซ้อมพิธีก่อนวันงานค่ะ

ขันหมาก และพิธียกน้ำชา

 เนื่องจากเราทำพิธีแบบจีน ขันหมากแบบจีน เราหาข้อมูลต่างๆจาก web ( http://www.weweddingguide.com/wedding-facts/weddingfacts-2/ )
 แล้วนำมาปรับตามความเหมาะสม ของที่ใช้ในขันหมากเป็นเพียงของตามพิธีเท่านั้น อะไรที่ไม่มีสามารถนำอย่างอื่นมาทดแทนได้ตามความเหมาะสม สุดท้ายแล้วพิธีที่ใหญ่โต ไม่สำคัญเท่าความรักของคนสองคนนะคะ
 
 

 ภาพข้างบนเป็นผังขันหมากฝ่ายชายแบบจีนที่เราใช้ในงาน บ่าวสาวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม หากลองหาข้อมูลหลายๆเวป
 จะพบว่าแต่ละเวปมีการจัดผังขันหมาก และของที่ใช้ในพิธีที่แตกต่างกันไป อยากให้บ่าวสาวเลือกเอาตามที่สะดวก
 อะไรที่หาไม่ได้ก็ไม่ต้องกังวลไป สามารถนำขนมอย่างอื่นมาทดแทนได้

เบลล์ได้เพื่อนอีกสองคน ทั้งสองคนนี้กำลังจะมีข่าวดีในปีเดียวกันนี้ค่ะ มาช่วยเบลล์ทำแบล๊กดรอฟถ่ายภาพ ทำเวที ติดธงราว หาซื้อต้นไม้ รวมทั้งเป็นฝ่ายประสานงานกับแขกเหรื่อ จัดโต๊ะพาแขกนั่ง แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ต้อนรับ เหมือนเป็นทีมออแกไนซ์ เหงื่อโทรมกายแต่มาช่วยด้วยใจที่เกินร้อย ในส่วนของเวทีที่พวกเราช่วยกันทำ เบลล์เลือกไม้พาเลทที่มีอยู่แล้วที่บ้านจำนวนสี่อันมาวางเป็นพื้นและปูด้วยไม้อัดอีกรอบนึง เพื่อไม่ให้มีช่อง นำไม้เก่าที่มีอยู่แล้วที่บ้านมาขึ้นโครงฉากหลัง ใช้ผ้าขาวเมตรละ 35 บาท จำนวน 15 เมตร มาขึงเป็นม่านสองชั้น เพื่อนเบลล์สองคนวิ่งหาซื้อเถาใบไม้ปลอมมาประดับและแกะป้ายชื่องานเช้ามาติดเวทีด้วย เบลล์ได้ไฟประดับจากแม่สายเส้นละ 80 บาท ยาว 10 เมตร จำนวน 4 เส้น มาประดับในงาน ค่าใช้จ่ายในส่วนของประดับจุกจิกอยู่ในราคาไม่เกิน 1,500 บาท แท่นวางโชว์ของชำร่วยเบลล์ใช้ที่วางขวดกระเช้าแบรนด์มาพ่นสี

 
      วันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา เราตัดสินใจไปเที่ยวเกาะช้างกับเหล่าผองเพื่อน ก็เลยคิดว่าไหนๆก็ได้ไปสถานที่สวยๆแบบนี้ ถ่ายพรีเลยละกัน ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ติดต่อถามราคาร้านถ่ายพรีหลายที่มาก ราคาก็อยู่ที่ประมานหมื่นอัพ ยอมรับว่าเสียดายเอาเงินไปเที่ยวดีกว่า ก่อนวันไปจึงลากเพื่อนซี้พากันไปคุ้ยเขี่ยหาเสื้อผ้าและพร๊อพราคาถูก สำหรับถ่ายพรี เดินทั่วถนนคนเดิน แล้วก็ได้เสื้อสีขาวข้อความภาษาอังกฤษสองตัว ตัวละประมาน 60 บาท ที่คาดเหม่ง 20 บาท และชุดเดรสมือสองตัวละ 150 บาท ส่วนเสื้อเจ้าบ่าวสีขาวแขนยาว อันนี้นางเดินผ่านตอนกลับจากดำน้ำ ได้มาในราคา 100 กว่าบาท พร๊อพครบแล้ว ก็จัดการทาบทาม เพื่อนเจ้าบ่าว ที่ไปเที่ยวด้วยกันในทริปนี้ให้ช่วยถ่ายรูปให้หน่อย โดยใช้กล้อง fuji xa2 ติดต่อไปทีแรกบอกกับเราว่าถ่ายสมัครเล่นนะ ไม่รู้จะโอเคมั้ย แต่จะช่วยถ่ายให้ พอรู้ตัวว่าต้องเป็นตากล้องให้ ผู้ชายคนนี้ก็แบบตั้งใจกับการเก็บรูปให้เราสองคนมาก ยิ่งชุดวันที่สอง นัดตอนเช้า ตากล้องเราพร้อมมาก เบลล์ก็แบบ ขอมุมนี้นะ ตรงนี้ได้มั้ย ถ่ายนี่ให้หน่อย ส่งภาพให้ดูเลยได้มั้ย แต่งรูปนี่ทำไง คือ สารพัดคำขอร้องตลอดทริป ตากล้องถ่ายรูปให้แล้วแถมดูแสงดูมุมให้ด้วย ถึงชุดจะเรียบง่าย แต่ภาพก็ออกมาสวยประทับใจเราสองคนมาก บอกเลยว่าภาพถ่ายพรีที่เห็นในงานมาจากฝีมือของตากล้องที่ออกตัวว่ามือสมัครเล่นคนนี้ทั้งหมด
 
มาว่าด้วยเรื่องงานเช้ากันบ้าง เนื่องจากเบลล์จัดงานเช้าและเย็นภายในวันเดียวที่เรือนหอทาวเฮ้าส์ โดยซื้อเอาไว้ก่อนแต่งงานเพียงไม่กี่เดือน การบ้าพลังทำทุกอย่างคนเดียวไม่มีทางเสร็จแน่นอน รวมทั้งที่บ้านไม่เคยจัดงานแต่งงานเลยนับตั้งแต่พ่อแม่แต่งงานกันมา จึงไม่มีความรู้ในเรื่องงานพิธีตอนเช้า เบลล์คุยกับแฟนว่า งานเย็นเราขอความชิว ความกันเอง ความไม่เน้นพิธีการมากมาย งานเช้าจึงอยากได้พิธีที่ครบถ้วนตามประเพณีไทย เบลล์จึงหาข้อมูลเกี่ยวกับแพ็กเกจการจัดงานพิธีเช้าจากในเว็บไซด์อีกเช่นกัน และมาถูกใจของ Up2youflower ติดต่อผ่านทางคุณเหมียว และตัดสินใจเลือกแพ็กเกจในราคา19,900 บาท ซึ่งครบถ้วนตั้งแต่อุปกรณ์พิธีสงฆ์ พิธีปูเรียงสินสอด พิธีสวมแหวนหมั้น แห่ขันหมาก รดน้ำสังข์จนกระทั่งส่งตัวเข้าหอ เบลล์ถือโอกาสทำบุญขึ้นบ้านใหม่ไปด้วยเลยพร้อมๆกัน  และจ้างทีมงานนายพิธี ผู้ประสานงานพิธีการ ในราคา 4,000 บาท ค่าขนส่ง จัดสถานที่ล่วงหน้าและเก็บกลับหลังเลิกงาน 2,000 บาท รวมแล้ว 25,900 บาท ครบถ้วนทุกอย่าง เบลล์แค่นิมนต์พระ เตรียมสังฆทานและภัตตาหารถวายพระเท่านั้นค่ะ ทีมงานคุณเหมียวมาจัดสถานที่ให้เราก่อนวันงาน 1 วัน ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ใช้เวลาไม่ถึงสามชั่วโมงทุกอย่างเรียบร้อย อันนี้รวมมุมแกลลอรี่ด้วย  ถึงวันงานทุกอย่างราบรื่นลงตัว พี่ๆทีมงานประสานงานและดำเนินขั้นตอนต่างๆรวมทั้งอธิบายความหมายและความเป็นมงคลต่างๆที่สอดแทรกใรงานพิธีให้พวกเราได้ทราบด้วย ถือว่าครบถ้วนและเป็นศิริมงคลกับชีวิตเราสองคนมาก นอกจากนี้เบลล์มีเพื่อนเจ้าสาวเป็นครูสอนดนตรี นำนักเรียนมาช่วยตีกลองยาวอีกหกคน บรรยากาศช่วงแห่ขันหมากจึงครึกครื้นมาก เจ้าบ่าวเบลล์นี่เหงื่อโทรมกายกว่าจะผ่านถึงประตูด่านสุดท้าย

การจัดเลี้ยงตอนเช้ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมบ้าง เช่นค่าเช่าเต้นท์ เบลล์เลือกเต้นท์สีขาว2หลัง แถวนี้ให้เช่าในราคาเต้นท์ละ1,000 บาท โต๊ะ เก้าอี้ยืมวัดใกล้บ้าน ตอนคืนก็ใส่ซองถวายเพื่อบำรุงวัด พัดลมตัวใหญ่สี่ตัวจากโรงเรียนของเพื่อน ส่วนกับข้าวแม่และบรรดาพี่ป้าน้าอาช่วยกันทำ ทั้งเลี้ยงแขกและเลี้ยงพระ งานเช้าไม่มีเลี้ยงเหล้า เลี้ยงอาหารกับน้ำสมุนไพร งานเสร็จสิ้นภายในเที่ยงวัน
     ส่วนเครื่องเสียงทั้งงานเช้าและเย็นได้จากน้องที่สนิทกันและอาจารย์ที่เบลล์เคารพ นำมาช่วยงาน แถมเป็นพิธีกรให้ด้วยในบางช่วง และน้องคนเดิมที่หอบกล้องมาถ่ายรูปงานเช้าด้วย ตอนแรกฉากเรามีปัญหาเนื่องจากสูงจนบังแสงไฟ ถ่ายออกมาแล้วมืด น้องก็ขับรถไปหาสปอร์ตไลท์มาเพิ่ม เหมือนอยู่สตูดิโอเลย งานนี้เบลล์ไม่ได้จ้างช่างถ่ายภาพ และน้องอีกคนซึ่งเป็นเพื่อนของน้องชาย โดยปกติรับถ่ายภาพตามงานต่างๆอยู่แล้ว มีความเป็นมืออาชีพและอุปกรณ์ทั้งไฟทั้งแฟลซครบเครื่อง ตั้งใจมาช่วยงานแต่ทุ่มเทไม่ต่างกับงานที่จ้างถ่าย อยู่กับเราตั้งแต่เช้าจนถึงงานเลิกในช่วงกลางคืน เก็บทุกมุมทุกขั้นตอน  ได้นักดนตรีที่รู้จักกับน้องสาวซึ่งเล่นเป็นอาชีพอยู่แล้วสองคน มือกีตาร์ซึ่งเป็นนักร้องด้วยและมือไวโอลิน มาเล่นดนตรีให้เราในงานเย็น ด้วยราคาแบบกันเองเพียง 3,000 บาทเท่านั้นค่ะ ในงานเบลล์นัดหมายนักดนตรีสำหรับร้องเพลงเซอร์ไพร์สเจ้าบ่าวด้วย

เบลล์มีเพื่อนเจ้าสาวสี่คน ทุกคนทำหน้าที่เสมือนแม่งานที่เบลล์ไม่ต้องหยิบจับอะไรใดๆเลยในวันงาน หนึ่งในนั้น เบลล์รู้จักกับแฟนเค้าด้วย ซึ่งทำร้านไวนิล เพื่อนสาวและแฟนทำรูปพรีเวดดิ้งสำหรับประดับงานขนาด50*50 ตีกรอบไม้ให้เบลล์เป็นของขวัญแต่งงานทั้งหมดห้ารูป และเพื่อนเจ้าสาวอีกคนช่วยประสานงานและเก็บรายละเอียดต่างๆในเรื่องพิธีการเพิ่มเติมด้วยในช่วงเย็น เบลล์มีน้องชายและน้องสาวที่ช่วยประสานงานเป็นธุระขับรถ เป็นเพื่อนไปซื้อของ ช่วยทำพร๊อพของประดับต่างๆ  มีเพื่อนสนิทสมัยมหาลัยมาช่วยเป็นพิธีกรให้ ซึ่งงานออกมากันเอง ยิงมุข ตบมุข แซวเจ้าบ่าว เหน็บเจ้าสาว ได้ทั้งพิธีการเบาๆและบรรยากาศสัมภาษณ์สบายๆ ทั้งสองคนมาเตรียมตัวก่อนงานเริ่มเพียงหนึ่งชั่วโมง แต่ดำเนินขั้นตอนต่างๆได้ดีงามมาก

 มาว่ากันเรื่องชุดแต่งงานงานเช้าบ้าง เบลล์ตั้งใจแล้วว่าจะดั้นด้นไปเช่าชุดที่ร้านนวพร อยู่อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เนื่องจากชุดเยอะมาก มีชุดใหม่ๆตลอดและเจ้าของตัดเย็บเองด้วยในบางชุด ถ้าเช่าร้านเวดดิ้งแน่นอนว่าค่าชุดต้องสูงพอสมควร เบลล์เช่าชุดเพื่อนเจ้าสาวมาได้ในราคาชุดละ 250 บาท รวมเครื่องประดับแบบจัดเต็ม ชุดไทยเจ้าสาวสีเทา 1,500 บาท ไม่คิดค่าเช่าเครื่องประดับ เจ้าของร้านให้มาทั้งต่างหู  สังวาล ปิ่นปักผม กำไล เข็มขัด สร้อยคอ ให้เผื่อไปเลือกเอาวันงานว่าจะใส่อะไรบ้าง และที่สำคัญชุดนี้เป็นชุดใหม่ไม่เคยการผ่านการใช้งานใดๆมาก่อนเลย เบลล์เป็นคนแรก เหมือนเช่าตัดเลย พอดีกับหุ่นเบลล์ไม่ต้องใช้เข็มกลัด ไม่ต้องแก้อะไรกับชุดเลยค่ะ ส่วนชุดเจ้าบ่าวงานเช้าและเย็นซื้อสูทเทาแฟชั่นได้ครบชุดสูทและกางเกง เชิ๊ตขาวสองตัว เนคไทหนึ่งอัน เข็มขัดหนึ่งเส้น กางเกงยืนอีกหนึ่ง รวมแล้วราคา 3,800บาท เจ้าบ่าวเบลล์ใส่รองเท้าผ้าใบซึ่งเบลล์ก็ใส่เหมือนกันช่วงงานเย็น ได้ผ้าใบลายเดียวกันสองคู่ คู่ละ 300 กว่าบาท 

เบลล์จะกล่าวถึงลุคงานตอนเย็น เรื่องเสื้อผ้า ช่างแต่งหน้านะคะ (ช่างแต่งหน้าคนเดียวกันกับงานพิธีเช้า) เนื่องจากเบลล์เป็นสาวกเว็บ printerest งาน DIY แนวต่างประเทศ และชอบชุดเจ้าสาวสไตส์เรียบง่าย ไม่ชอบงานแนวฟูฟ่องกระโปรงยาวลากพื้น ลุคหรูหรา ทรงผมแน่นไปด้วยกิ๊บพันกว่าตัวที่ต้องมานั่งแกะหลังจบงาน หาข้อมูลดูหลายๆที่ ก็ชอบชุดเจ้าสาว แบบTwo Piece สำหรับเจ้าสาวที่รักความยูนีค เลยตัดสินใจซื้อผ้าในราคา 500 บาท ไปตัดที่ร้านซึ่งคิดค่าตัด 1,000 บาท งานออกมาไม่เหมือนในแบบซะทีเดียวและงานก็ไม่ละเอียดเท่าไหร่ ยอมรับว่าเห็นครั้งแรกแอบนอยด์ ต้องมานั่งเล็มชุดตัวเองเพื่อให้มันโชว์ลายลูกไม้อีกนิด แต่ก็ได้เท่าที่เห็น บวกกับหุ่นที่อวบตันไม่เหมือนนางแบบในรูป ลูกไม้ที่ซื้อไปราคาประหยัดสุด คิดว่างานกลางคืนคงไม่มีใครมาจ้องนับลายลูกไม้ ภาพรวมออกมาจึงถือว่ายอมรับได้ จากนั้นจึงส่งแบบให้น้องช่างแต่งหน้า ว่าพี่ขอลุคแบบนี้นะ คือน้องทำการบ้านมาดีงามมาก ขอแบบไหนไป จัดมาได้ใกล้เคียงในแบบที่เราส่องกระจกแล้ว เห้ยย..คือดีอ่ะ พลิกฟื้นเบ้าหน้าบ้านๆของอิชั้นให้อินเตอร์ขึ้นมาได้เกินคาดคิด บวกกับความใจเย็นพิถีพิถัน น้องเก็บรายละเอียดได้ดี ใส่ใจ และอดทนมาก สำหรับลุคงานเย็นนี่ยอมใส่คอนแทคเลนส์เป็นครั้งแรกในชีวิต แล้วก็น้ำตาไหลพรากๆ น้องบอกว่าพี่ไม่ต้องใส่ก็ได้นะ ถ้ามองเห็นไม่ชัด เด๋วจะไม่สบายตา..แต่นี่ดึงดันอยากสวยให้สุด เจ๊ยอม น้องต้องลำบากมาแก้งานเพราะน้ำตาได้ทลายมาสคาร่าและขนตาปลอมจนเละ สามรอบสี่รอบนี่ก็นั่งแก้แล้วแก้อีก ไม่มีบ่น ไม่มีขอให้ถอดคอนแทคออก คือตามใจลูกค้ามาก แล้วความอยากสวยก็ชนะค่ะ ถึงแม้ตาจะฉ่ำน้ำเป็นประกายแวววาวตลอดงานเย็น แต่สวยประทับใจ จนขออวยออกนอกหน้า ใครจะมีงานนี่ติดต่อน้องเลย งานนี้ขอช่วยโฆษณาสุดพลัง คุ้มราคา งานดี เครื่องสำอางยี่ห้อคุณภาพ

จริงๆมีรายละเอียดปลีกย่อยและบุคคลอื่นๆที่เบลล์กล่าวถึงไม่หมด ที่มีส่วนช่วยเนรมิตงานแต่งงานให้ออกมาอบอุ่นและประทับใจ หลังจบงานหักลบค่าใช้จ่ายกับซองที่แขกช่วยงาน ไม่มีติดลบ และได้เงินตั้งตัวสร้างครอบครัวที่เหลือจากหักค่าใช้จ่ายแล้วอีกประมาณ 70,000 บาทค่ะ รวมค่าใช้จ่ายที่จัดงานทั้งหมดอยู่ในเรตราคาไม่เกิน 150,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายมากสุดคือค่าอาหารและสถานที่ในราคา 75,000 บาท ซึ่งเบลล์กับแฟนให้ความสำคัญ ยอมประหยัดและตัดส่วนอื่นๆออกเพื่อทุ่มในส่วนตรงนี้ เพราะอยากให้แขกได้ทานอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ แทนคำขอบคุณจากเรา ซึ่งแขกหลายท่านชื่นชมและประทับใจมาก 
 หวังว่าการรีวิวครั้งนี้จะเป็นแนวทางและไอเดียให้กับเจ้าสาวคนต่อไปนะคะ ส่วนข้อมูลเรื่องเบอร์โทรศัพท์ สถานที่ร้าน ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ทักมาหลังไมค์ เบลล์ยินดีให้ข้อมูลค่ะ รับรองว่าคุณภาพดีในราคาประหยัดแน่นอน ขอบคุณที่ติดตามกระทู้เบลล์นะคะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ สุดท้ายแล้วงานจะออกมาดีหรือไม่อยู่ที่ความพอใจของบ่าวสาว เบลล์ขอไม่เปรียบเทียบกับงานคนอื่นว่าจัดแบบไหน สไตส์ไหนดีกว่ายังไง ประหยัดกว่าหรือสิ้นเปลืองอะไรตรงไหน เอาเป็นว่าสำหรับเบลล์และแฟนถือว่าพอใจมากที่สุดแล้วค่ะ ^  ^

ที่มา: k'เบลล์
https://pantip.com/topic/35172091