แจกของฟรี

เทศกาลรับปริญญากำลังหมุนเวียนผ่านมาอีกครั้ง ผู้ที่กำลังจะเป็นบัณฑิตใหม่ก็ตื่นเต้นกันใหญ่ ด้านสาวๆ เริ่มหาช่างแต่งหน้าและทรงผมที่ถูกใจเตรียมไว้ให้ช่างทำให้วันรับจริง ส่วนสาวๆ อีกหลายท่านเริ่มฝึกซ้อมที่จะแต่งหน้าทำผมเองเพื่อที่จะสวยที่สุดในวันงาน นอกจากเรื่องเกี่ยวกับความสวยความงามแล้ว มาดูกันว่าบัณฑิตควรจะเตรียมอะไรอื่นๆ ไปอีกสำหรับวันรับปริญญาที่กำลังจะมาถึง

1. ผู้หญิงหน้าต้องสวย ผู้ชายหน้าต้องดูดี เรียกความมั่นใจเต็ม 100
 
 
(Cr: Sanook.com)

ปัจจุบันการแต่งหน้าสวยงามนั้นมีหลากหลายมากมายให้เลือกแต่ง บางท่านลงทุนจ้างช่างแต่งหน้าเพื่อที่จะได้สวยครบสมบูรณ์ในวันดีๆ ของตนเอง แต่บางท่านเลือกที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการแต่งหน้าเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ยิ่งเป็นคนที่มีฝีมือในการแต่งหน้าอยู่แล้วจะรู้จักและคุ้นชินกับหน้าตนเองดีว่าแต่งอย่างไรแล้วจะสวย ส่วนท่านที่แต่งหน้าพอได้บ้าง อาจจะต้องมีการซ้อม ฝึกมือหลายๆ รอบ ลองแต่งแล้วถ่ายรูปกับแสงดูก่อนว่าออกมาเป็นอย่างไร มากหรือน้อยไปจะได้ปรับปรุงให้เรียบร้อยก่อนจะแต่งไปในวันรับจริง



ถ้าสาวๆ ท่านใดสนใจที่จะฝึกซ้อมแต่งหน้าเอง สามารถชมคลิปสอนแต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเองที่แจ๊คจัดทำขึ้นมาได้ตามลิ้งก์นี้ค่ะ >>>

อย่าลืมว่าหน้าสวยไม่ใช่แค่จัดเต็มจัดแน่นขนตาฟู คิ้วเข้ม ปากสีสดนะจ๊ะ แต่งหน้างานรับปริญญาเน้นติดทนติดนานก็จริง แต่แจ๊คแนะนำว่าควรจะแต่งให้ละมุนละม่อมสมวัยใสเห็นจะดี ลองเลือกใช้โทนสีชมพูหรือพีช หรือโทนสีพาสเทล(สำหรับสาวผิวขาว) ในการปัดแก้มทาปากจะทำให้ดูเบาและหวานกว่ามาก ยิ่งเรื่องขนตาปลอมต้องพึงระวังและเลือกให้ดีมากๆ อย่าใหญ่โตเกินงาม เหมือนไปประกวดนางงามบ้านโป่ง บางมหาลัยไม่มีการอนุญาตให้ติดขนตาปลอมไปในวันรับจริง สาวๆ ทั้งหลายต้องทำการตรวจสอบข้อห้ามจากระเบียบการมาให้ดีด้วยนะตัวเธอ ถ้าเผลอติดไปแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว เดี๋ยวจะได้โดนผู้ตรวจระเบียบดึงขนตาปลอมออกกลายเป็นตาลอกๆ แหว่งๆ จะเสียความมั่นใจในวันดีๆ เอานะคะ

ส่วนท่านที่ไม่เคยแต่งหน้าเองเลย แจ๊คขอแนะนำให้จ้างช่างแต่งหน้าทำผมมืออาชีพนะคะ เพราะการจะแต่งหน้าเองนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเตรียมตัวหลายอย่าง อาทิเช่น ค่าเครื่องสำอาง (รองพื้น แป้ง อายแชโดว์ อายไลเนอร์ ดินสอเขียนคิ้ว สีปัดแก้ม ลิปสติก ฯลฯ) ค่าแปรงแต่งหน้า (ซึ่งก็มีหลายชิ้นด้วยกัน) ค่าขนตาปลอม ที่ดัดขนตา และค่าจุกจิกอีกมากมาย เผลอๆ รวมออกมาแล้วแพงกว่าจ้างช่างมาทำให้เสียอีก ที่กล่าวมายังไม่รวมเวลาที่ท่านต้องมาฝึกมือแต่งหน้าตัวเองให้ชิน หรือหาเทคนิคที่ใช้แต่งหน้าตัวเองให้เจอ ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากอยู่ไม่น้อย ฉะนั้นถ้าท่านแต่งหน้าไม่เป็นจ้างช่างแต่งหน้าทำผมมืออาชีพมาให้บริการเถอะค่ะ สมัยนี้เรทราคาก็มีให้เลือกหลากหลาย ผลงานก็มีลงให้ชมกันมากมาย มีงบเท่าไหร่ ชอบสไตล์แบบไหน ท่านสามารถเลือกจิ้มได้เลยจ้า

ส่วนคุณผู้ชายการแต่งหน้าทำผมไปรับปริญญาก็ใช่ว่าจะไม่สำคัญ ยิ่งยุคสมัยนี้ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่ต้องสวย ตัวคุณผู้ชายเองก็ต้องดูดี รู้จักหัดแต่งหน้า แต่งตัว เซ็ตผมให้ดูดีด้วย สำหรับวันรับปริญญาที่ต้องถ่ายรูปกับเพื่อนเยอะๆ ญาติๆ และครอบครัว จะเปลือยหน้าสดไปถ้าหน้าไม่ดีจริงอย่าทำค่ะ ฮ่าๆ บางท่านมีทั้งรอยสิว รอยแดงเต็มหน้า ช่วยปกปิดสักนิดนึงก็ยังดี วันสำคัญทั้งทีลงทุนกันเถอะค่ะ

 
(Cr: Sonyuke.com)

แจ๊คแนะนำว่าคุณผู้ชายจะต้องแต่งหน้าไปบ้าง การแต่งหน้าผู้ชายไม่ได้มากขั้นมากตอนเหมือนของผู้หญิงหรอกค่ะ เพียงแค่ลงพวกเบสเทคอัพ จะบีบี รองพื้นบางจุด หรือลงน้อยๆ ทาคอนซีลเลอร์ใต้ตา ปิดแพนด้าใต้ตา รอยสิวหรือรอยกระ ลงแป้งฝุ่นทับสักรอบ หรือต้องการให้ง่ายขึ้นสามารถทาแค่แป้งพัฟผสมรองพื้นก็ได้จ้าเอาให้หน้าไม่มันเมือกเนาะ มากกว่านั้นคนคิ้วบางอาจะมีเขียนคิ้วทรงผู้ชายตรงๆ ปัดขนคิ้วให้เรียงเส้นเล็กน้อยก็พอ ไม่ต้องไปปัดแก้มสีๆ เขียนขอบตาเป็นหนุ่มไอดอลเกาหลีนะคะ นี่เมืองไทยอากาศร้อนเดี๋ยวมันจะละลายไหลย้อยลงมาเป็นแพนด้า ยิ่งทำให้ดูพังกว่าเดิมนะคะ

สุดท้ายสำหรับข้อนี้ กรณีที่ผิวหน้าคุณใช้ยาหมออยู่ ในวันสำคัญอย่างนี้ แนะนำว่าให้หยุดยาหมอก่อนอย่างน้อย1-2สัปดาห์ เพราะยาหมอจะทำให้ผิวแห้ง ลอก ส่งผลให้การแต่งหน้ายากและเกิดปัญหามากมายทั้งรองพื้นไม่ติด ไม่ซึม เป็นคราบระหว่างวัน  ควรหันไปดูแลผิวหน้าโดยการเติมความชุ่มชื้นด้วยม้อยเจอไรเซอร์ตามปกติจ้ะ

2. ทรงผมและสีผมสวยพร้อม



หน้าสวยไปแล้ว ผมก็ต้องสวยพร้อมกันด้วย ผมสวยในที่นี้ใช่ว่าจะทำทรงอะไรก็ได้ตามใจฉันชอบนะคะ แต่ละมหาลัยจะกำหนดทรงผมที่ถูกระเบียบไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทรงเกล้าผมมวยต่ำเปิดหู โชว์ช่วงคอ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ก็มีบางมหาลัยที่ไม่ได้เคร่งครัดมากอนุญาตให้บัณฑิตปล่อยผมหรือรวบต่ำได้ในวันรับจริง ซึ่งต้องศึกษาข้อระเบียบของมหาวิทยาลัยของท่านมาให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้เลือกหาทรงผมที่เหมาะสมกับรูปหน้าของท่านได้ หรือถ้าให้แจ๊คแนะนำ การเกล้าผมเปิดหูจะสวยและเหมาะสมมากกว่า ยิ่งถ้าถ่ายรูปตอนรับปริญญาเห็นด้านข้างแล้วนั้นยิ่งดูเป็นทรงสวย

หากสาวๆ ยังนึกไม่ออกว่าจะทำผมรับปริญญาทรงอะไรดีสามารถเข้าไปชมบทความแนะนำทรงผมที่แจ๊คเคยเขียนไว้ได้ตามลิ้งก์ข้างล่างนี้นะจ๊ะ
รวบรวมทรงผมรับปริญญาสำหรับสาวผมยาว >>> https://jackmakeup.com/2015/06/11/hairstyle2015/
ทรงผมรับปริญญาสำหรับสาวผมสั้น ผมประบา >>> https://jackmakeup.com/2015/06/12/shorthairdo2015/



ถ้าสาวๆ ท่านใดต้องการทำผมไปงานวันรับปริญญาเอง สามารถเข้าไปชมคลิปสอนทำทรงผมรับปริญญาแบบง่ายๆ ด้วยตัวเองได้ที่ลิ้งก์นี้ค่ะ >>>


สำหรับคุณผู้ชายแล้วทรงผมรับปริญญาอาจจะไม่จำเป็นต้องเซ็ตผมกันทุกคน เพียงแค่ไปตัดผมให้ดูเรียบร้อยเป็นทรงเข้าที่ดี ปัดผมขึ้นเปิดหน้าเปิดตาสักนิด อย่าให้ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงยุ่งเหยิงเป็นอันขาด เพราะมันจะทำให้หน้าคุณดูโทรมมากๆ (ถึงแม้ว่าตาคุณจะดี ผมยุ่งๆ ก็ทำให้หมดหล่อได้)



ถ้าคุณผู้ชายท่านใดอยากลองเซ็ตผมหวีเปียกสไตล์วินเทจเรโทร แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ลองเข้าไปชมคลิปสอนเซ็ตผมคุณผู้ชายที่แจ๊คเคยทำไว้ได้
ตามลิ้งก์นี้นะคะ >>>

***ตรงนี้สำคัญมากๆ ทั้งบัณฑิตผู้หญิงและผู้ชายที่ไม่ต้องการย้อมผมสีดำ แต่อยากใช้เปรย์ฉีดผมดำฉีดเคลือบไว้แทนนั้นสามารถทำได้ แต่ควรจะซื้อสเปรย์ฉีดผมดำติดตัวไปให้ช่างผมด้วย (จากประสบการณ์แล้วตัวช่างไม่ได้มีสเปรย์ฉีดสีผมกันทุกคนนะคะ) และท่านต้องฉีดสเปรย์หลังจากที่ทำผมเสร็จแล้วเท่านั้นนะคะ ก่อนฉีดหาพลาสหรือผ้าที่จะไม่ใช้แล้วมาคลุมที่ไหล่ปิดเสื้อผ้าที่ใส่ให้มิดชิด มิเช่นนั้นฝุ่นสีดำของสเปรย์จะไปทำให้เสื้อผ้าท่านเปื้อนได้ สำหรับบัณฑิตผู้หญิงที่ต้องการฉีดสเปรย์กลบสีผมต้องทำต้องทำทรงเกล้าผมมาแล้วเท่านั้นนะคะ เพราะถ้าปล่อยผมแล้วฉีดสเปรย์ผมดำไว้ ระหว่างวันเวลาเหงื่อออกคราบดำจะไหลย้อยมาตามไรผมทำให้หน้าดำ เสื้อผ้าเลอะอย่างแน่นอนค่ะ
 
3. แต่งกายเป๊ะตามระเบียบ 




เนื่องจากชุดครุยของแต่ละมหาลัยนั้นมีความแตกต่างกัน บางที่เป็นครุยโปร่ง บางที่เป็นครุยทึบ แถบสีและสัญลักษณ์ก็แตกต่างกันอีก แจ๊คคงไม่สามารถมาบอกได้ว่าแบบไหนถูกหรือไม่ถูกระเบียบอย่างไรเนอะ เอาเป็นว่าส่วนนี้ให้บัณฑิตชายหญิงศึกษากฎระเบียบของชุดครุยมหาลัยตนเองมาให้ดี และที่สำคัญ ห้ามลืมชุดครุยเป็นอันขาด! (บางที่มีหมวกด้วยก็ห้ามลืมเช่นกัน) เพราะเรื่องนี้อาจเกิดขึ้นได้กับคุณ

จากประสบการณ์แล้วบัณฑิตส่วนใหญ่อาจจะมัวยุ่งอยู่กับเรื่องอื่น เช่นกลัวไม่ทันเวลาเข้าหอประชุม เพื่อนหรือญาติผู้ใหญ่มาคอยถ่ายรูปด้วยแล้ว ระหว่างการเดินทางจึงมักลืมตรวจสอบสิ่งของให้ถี่ถ้วน ลืมไว้ที่บ้านบ้าง หอพักบ้าง หรือบนรถแท็กซี่บ้าง ก็ว่ากันไป แจ๊คจึงขอช่วยเตือนสติเวลาเก็บของให้หยุดยืนคิดสักนิดว่าของสำคัญโดยเฉพาะชุดครุย แถบสี หมวก และเข็มต่างๆ นั้นเราเก็บมาครบถ้วนดีหรือยัง บัณฑิตผู้หญิงยิ่งต้องสวมถุงน่องด้วย (อย่าลืมเลือกถุงน่องให้ถูกสีผิวนะจ๊ะ) เพราะการที่ไปถึงจุดหมายไว แต่ลืมของไว้ก็ทำให้เสียเวลาวิ่งหาไม่น้อยเช่นเดียวกันค่ะ


4. GB (General เบ้)
 (Cr: Jeed Shakriya)

จะเรียกเพื่อนสาว ผู้ชาย หรือญาติพี่น้อง อะไรก็แล้วแต่ ในวันนั้นต้องเป็นเบ้คอยช่วยถือของ แบกหาม รับโทรศัพท์ให้เหมือนกันนั้นแหล่ะค่ะ ตรงส่วนนี้สำคัญมากๆ นะคะ แจ๊คแนะนำว่าให้มีไว้มาเดินตามเราสักคนหรือสองคน เพราะวันนั้นคนเยอะ ของขวัญและช่อดอกไม้ต่างๆ จะเยอะและวุ่นวายมาก ถ้าเราถือคนเดียวไม่ไหวแน่นอน ไหนจะคอยแวะถ่ายรูปพูดคุยกับใครต่อใครอีก ถ้าไม่มีคนช่วยนี่กล้าพูดได้เลยว่าหัวหมุนจนแทบเป็นลมแน่นอนค่า ยิ่งพวกเพื่อนแยะมนุษยสัมพันธ์ดี เพื่อนสมัยตั้งแต่อนุบาลจนกระทั่งมหาวิทยาลัย เพื่อนต่างคณะ ชมรม พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติฝั่งพ่อ ฝั่งแม่ อากง อาม่า อาเจ๊ก อาซิ้ม อาซ้อ กากีนั้งมากันเพียบ บางคนได้รับทองห้อยกันเป็นร้านทองเยาวราชเคลื่อนที่ก็มี
 
5. กระเป๋าถุงกระสอบ 

กระเป๋ากระสอบ ยิ่งแบบที่มีล้อลากเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แจ๊คแนะนำมากๆ แบบมากๆๆๆๆ เลย อย่างที่บอกไปว่าวันสำคัญเหล่านั้นคนมาแสดงความดีใจกับเราเยอะมาก ของขวัญ ช่อดอกไม้ ตุ๊กตุ่นตุ๊กตา ก็เยอะมากเช่นเดียวกัน ถ้าให้ถือคนเดียวก็คงไม่หวาดไม่ไหว ต่อให้มีเบ้ช่วยหอบช่วยถือ เดินไปเดินมาก็มีมึนเหมือนกัน ฉะนั้นแล้วเรามาตัดปัญหาด้วยสิ่งทุ่นแรงเหล่านี้ดีกว่า ซื้อไว้เลยค่ะ สักใบใหญ่ๆ หน่อย เอาแบบสามารถยัดทุกอย่างเก็บไว้ได้ในถุงเดียว แล้วลากไปลากมาได้สะดวกไม่ต้องมาคอยแบกหามให้ปวดเมื่อยเอว กระเป๋าถุงกระสอบมีล้อลากแบบนี้ค่อนช้างทนทาน ราคาไม่แพงมาก มีหลายขนาด ใช้สมบุกสมบั่นได้ไม่ต้องกลัวพัง ว่าแล้วเจ้อยากไปตั้งบู้ทขายหน้าม.
 
6. ทิชชูเช็ดหน้า



ทิชชูเช็ดหน้าก็เป็นอะไรที่สำคัญสุดๆ เพราะประเทศไทยมันเป็นเมืองร้อน แดดแรง ยิ่งวันรับปริญญานี่บัณฑิตต้องเดินถ่ายรูปเยอะ เหงื่อที่ไหลไคลย้อยจากหัวยันร่องเท้า ทิชชูเช็ดหน้าจึงเป็นที่พึ่งที่สำคัญมากสำหรับการเช็ดเหงื่อ และเป็นเพียงไม่กี่สิ่งที่ได้รับอนุญาตให้นำติดตัวเข้าหอประชุมได้ด้วย เผื่อไว้เช็ดนู้นนี่เข้าห้องน้ำด้วยเนาะ
 
7. ร่มกันแดดกันฝน
 
(Cr: th.aliexpress.com)

ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าอากาศบ้านเราเหมือนจำลองกระทะทองแดงให้มาอยู่ แสงแดดและความร้อนจึงมีมากเป็นอันดับหนึ่ง ฉะนั้นบัณฑิตควรพกร่มไว้เป็นดั่งเกราะป้องกันภัยร้ายจากศัตรูที่ส่องมาจากฟ้า แทรกซึมความระอุไปทั่วย่อมหญ้าอย่างแสงแดด เวลาเลือกร่มให้เลือกแบบเก๋ๆ มีลูกเล่น นอกจากจะช่วยบังแดดบังฝนได้แล้ว (เพราะบางมหาลัยรับปริญญาตอนหน้าฝน) ยังสามารถนำมาเป็นพร๊อบถ่ายรูปชิคๆ ได้ด้วยนะยะ
 
8. พัดหรือพัดลมพกพา 
 
(Cr: memory4love.com)

พัดก็เป็นอุปกรณ์คู่กายบัณฑิตที่สำคัญไม่แพ้กันสิ่งอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพัดที่สามารถพับเก็บได้ง่ายอย่างพัดจีน หรือจะเป็นพัดจักสานแบบไทยๆ หรือจะเป็นพัดพลาสติกที่มีขายทั่วไป หรือพัดแถม อะไรก็แล้วแต่ ถ้าเกิดนำพาซึ่งลมและความเย็นมาได้ก็พกได้ด้วยโลด สัก 3 อัน เผื่อเพื่อนๆ ที่มาเดินตามเราด้วย แล้วจะได้รู้ว่าสวรรค์เล็กๆ จากลมเย็นๆ นั้นมีอยู่จริง ฮ่าๆ

 
(Cr: giftandpremium.com)

หรือถ้าอยากเย็นๆ แบบมีเครื่องทุ่นแรงหน่อย แจ๊คแนะนำเป็นพัดลมพกพาขนาดจิ๋ว แบบใช้ถ่านเป็นพลังงาน ร้อนปุ๊บกดปุ่มเปิดปั๊บ ลมเย็นๆ เอื่อยๆ พัดเข้าปะทะกับใบหน้า แค่พูดก็ฟินแล้วค่ะ ฮ่าๆๆๆ
 
9. กระเป๋าเครื่องสำอางพกพา
 
(Cr: miniinthebox.com)

กระเป๋าเครื่องสำอางแบบพกพา ย้ำๆ นะคะว่าเป็นพกพา ถือต้องถือง่าย นำไปเฉพาะสิ่งอันที่จำเป็น อันได้แก่ แป้ง กาวติดขน ดินสอเขียนคิ้ว (เผื่อเลือน ปาดไปปาดมาก็ลบออกได้) สีปัดแก้ม และลิปสติก ลิปกลอสก็พอ เพราะสิ่งเหล่านี้พกไปไว้ใช้ซับหน้าระหว่างวัน ได้ใช้แน่นอน ส่วนพวกรองพื้น อายแชโดว์มาสคาร่า ครีมบำรุง บลาๆๆ ไม่ต้องเอามานะคะ เปลืองที่และหนักกระเป๋าเปล่าๆ วันสำคัญอย่างวันรับปริญญาที่ต้องเดินเยอะ เจอคนเยอะ ยิ่งของพะรุงพะรังหน่อยเท่าไร ยิ่งดีค่ะ และอย่าลืมว่าเครื่องสำอางไม่ใช่สีทาบ้าน ทาไปแล้วมันต้องมีเลือนมีลบบ้างเป็นปกติ
 
10. รองเท้าส้นแบน (สำหรับผู้หญิง)


(Cr: mieishop.com)

 รองเท้าส้นแบนสำหรับผู้หญิง ถ้าเป็นสีดำด้วยจะดีมากค่ะ (สีจะได้ไม่โดดจนเกินไป) เนื่องจากว่าวันนั้นนัณฑิตจะต้องเดินถ่ายรูปเยอะ ถ้าจะให้ใส่รองเท้าคัทชูพิธีการเดินไปเดินมาทั้งวัน เท้าต้องโดนกันจนพัง น่องต้องบวมเป่งแน่ๆ เอาเป็นว่าเพื่อป้องกันปัญหา สาวๆ ควรจะพกรองเท้าส้นแบนไปไว้ใส่ตอนเดินถ่ายรูปก่อนเข้าหอประชุมสักคู่นะคะ อย่างไรก็ดี ก่อนจะถึงวันรับจริง สาวๆ ควรจะฝึกซ้อมใส่รองเท้าคัทชูพิธีการเดินให้ชินเท้า เพื่อป้องกันปัญหารองเท้ากัดเท้า และทำให้เราได้ฝึกการเดินให้คล่องด้วยนะจ๊ะ
ปอลอ อย่าลืมถุงน่องด้วยนะ เลือกสีดีๆล่ะ เอาให้ใกล้ๆสีผิวเดิมหน่อย
 
11. เงินใส่ซอง


(Cr: money.kapook.com)

เงินใส่ซองก็จำเป็นนะคะคุณ บัณฑิตทั้งหลายต้องพกไปด้วยเลย จะแยกเป็นซองแบงค์ 20, 50, 100, 500 หรือจะแยกซองแบงค์ 1,000 ก็แล้วแต่กำลังศรัทธาเลยค่ะ เอาไปทำอะไร? ก็เอาไว้พกไปเวลาน้องๆ เฟรชชี่หน้าใสๆ เขามาบูมแสดงความยินดีให้เรา เราก็ควรจะตอบแทนเขาด้วยการหยอดซองเล็กๆ น้อยๆ ลงกล่อง (คล้ายบริจาค) ตอบแทน เพื่อช่วยสนับสนุนให้น้องๆ ในยามที่มีกิจกรรมหรือโครงการดีๆ ต่างๆ ของทางคณะและมหาลัยนะจ๊ะ จบแล้วต้องเป็นบัณฑิตคนสวย คนหล่อ พร้อมไปด้วยความเอื้ออาทร แต่ระวังจะหยิบซองผิดเอาล่ะ อย่าลืมทำสัญลักษณ์ไว้ด้วย คนไหนหล่อมากก็ให้ไปเลย แบงค์เทาๆ วั้ย ส่วนตัว ฮ่าๆๆ
 
12. พร็อพในการถ่ายรูป รวมถึงการฝึกโพสท่าทางต่างๆ


(Cr: iamommy.com)

 
(Cr: Unfoto)

 พร็อพในการถ่ายรูปเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่ทำให้รูปถ่ายวันรับปริญญาของเรามีลูกเล่น มีความน่ารักสดใสสมวัย พร๊อบพวกนี้เราควรจะเตรียมไปเองบ้าง นอกเหนือจากช่อดอกไม้และตุ๊กตาที่เพื่อนให้มา เราควรจะหาพวกรัดเกล้าดอกไม้ ลูกโป่งหลากหลายสี ลูกโป่งตัวอักษรตามชื่อเรา หรือแว่นตากันแดดหลายๆ แบบ ไปเป็นตัวช่วยให้เรามีอะไรจับถือในการถ่ายรูป ยิ่งคนที่โพสท่าไม่เก่ง พร็อพจะช่วยชีวิตคุณ



 
(Cr: Pravitphoto)

 ต่อมาการเตรียมท่าโพสก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการหาพร็อพมาถ่ายรูปด้วย เพราะช่างภาพทุกคนไม่ได้เก่งกาจในการสรรหาท่าโพสให้บัณฑิต ฉะนั้นตัวเราต้องทำการบ้านเรื่องท่าโพสมาไว้เอง ยิ่งถ้ารู้ตัวว่าเราเป็นคนโพสท่าไม่เก่งยิ่งต้องทำการบ้านเรื่องการโพสให้มากๆ เลย เวลาถ่ายรูปกับเพื่อนหรือถ่ายรูปคนเดียวจะได้ไม่ยืนเก้อเหมือนถ่ายรูปติดบัตรปชช.นะจ๊ะ
 
13. ช่างภาพ


(Cr: Armphotographer)

งานรับปริญญาทั้งที บัณฑิตส่วนใหญ่จะยอมควักเงินจ้างช่างภาพส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะต้องการมีรูปสวยๆ ไว้เป็นตำนานประดับฝาบ้านกับปริญญาใบแรกแห่งความภาคภูมิใจ แล้วการหาช่างภาพ จะหาได้ที่ไหน? ตอบตรงนี้ว่านอกจากการหาช่างภาพที่รู้จักกันดี เป็นเพื่อน พี่น้องอยู่แล้ว คนส่วนใหญ่ก็ค้นหาข้อมูลช่างภาพจากทาง Google นั้นแหล่ะค่ะ ฮ่าๆ เพราะสมัยนี้อะไรๆ มันก็สะดวกขึ้น ช่างภาพก็ทำพอร์ตภาพถ่ายงานตัวเองลงเว็บไซต์ไว้ให้เลือกดูในออนไลน์อยู่แล้ว เราสามารถกดเข้าดูภาพถ่ายผลงานได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Facebook Fanpage เว็บไซต์หรือ Blog ส่วนตัวทั้งหลาย

สำคัญที่เราหาต้องหาช่างภาพและสไตล์ภาพถ่ายที่เราชอบให้เจอเสียก่อนค่อยจ้างงานเข ไม่ใช่ว่ารีบๆ กลัวไม่มีช่างภาพ แล้วเอาใครก็ได้ พอภาพถ่ายออกมากลับไม่พอใจเลยเอาไปลงประจานตามพันทิปนะคะ เสียชื่อทั้งเขาเสียทั้งภาพของเราด้วย ถ้ามองให้ดีหน่อยจะรู้ว่าสไตล์มันเป็นของส่วนตัวจริงๆ ถ้าเราไม่ชอบก็ไม่ต้องจ้างเสียตั้งแต่ทีแรกจะดีกว่านะจ๊ะ

แจ๊คเพิ่งไปเจอเว็บไซต์หนึ่งมา น่าสนใจมาก คือ http://www.pixnode.com เป็นเว็บไซต์ประกาศลงงานของช่างภาพ รวมทั้งตัวเราสามารถเข้าไปหาช่างภาพได้ด้วยการกำหนดประเภทงานที่เราต้องการเรียกช่างภาพไปถ่ายให้ งบประมาณที่เรามี ต้องการเต็มวันหรือแค่ครึ่งวัน (เรทราคาก็แตกต่างกันนะคะ) รวมถึงจังหวัดต่างๆ ด้วย เมื่อเรากรอกข้อมูลที่ต้องการลงไปแล้วจากนั้นกด ‘ค้นหา’ แล้วรูปภาพพอร์ตทั้งหลายของช่างภาพแต่ละคนจะแสดงขึ้นมาให้เรากดลิ้งก์เข้าไปชมเพิ่มเติม อย่างไรก็ลองใช้ดูนะคะ (แจ๊คไปเจอมาเอง เลยมาบอกต่อ ไม่ได้รับค่าโฆษณาแต่อย่างใดนะ) ช่างภาพดีๆ เราก็ต้องจองตัวเค้าแต่เนิ่นๆ เนาะ ช่างคนเดียวเค้าก็รับลูกค้าได้คนเดียวเนาะ

14. เตรียมสุขภาพช่องฟัน


บางคนอาจจะงงว่า ห้ะ! เกี่ยวอะไร?! ฮ่าๆ เกี่ยวสิคะเกี่ยวมากๆ ด้วย เตรียมสุขภาพช่องฟันในที่นี้คือการไปจัดการขูดหินปูนมาซะให้เรียบร้อย เอาให้เกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้านที่สุด หรือจะขัดฟันเองก็ได้อ่ะ เพราะวันสำคัญอย่างนั้นเราจะต้องยิ้มเยอะ ต้องยิ้มโชว์ฟันเรียงซี่อยู่แทบตลอดเวลา  ฉะนั้นฟันข้างหน้าทั้ง 8 ซี่ต้องสวยสะอาดอย่าให้หมดราศีเพราะคราบหินปูนเป็นอันขาด จากประสบการณ์แล้วแจ๊คเคยเห็นบ่อยนะ บางคนแต่งหน้าทำผมมาแล้วสวยมาก หล่อมาก แต่พอยิ้มโชว์ฟันแล้วนึกว่าถ้ำหินงอกหินย้อย ขี้ฟันเหลือง อนิจาความงามได้อันตธานหายไปเกือบหมด ฮ่าๆๆ ดังนั้นแลว่าที่บัณฑิตต้องไปจัดการกับฟันมาด้วยนะคะ
 
15. เตรียมตัวให้พร้อม



ข้อสุดท้าย การเตรียมตัวให้พร้อมไม่ใช่แค่การแต่งหน้าทำผมหรือชุดที่ถูกระเบียบเท่านั้น 14 ข้อทั้งหมดที่กล่าวมาถือว่าเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมเช่นกัน แต่แค่ภายนอกเท่านั้น การเตรียมตัวให้พร้อมในที่นี้หมายถึงภายในด้วย พักผ่อนให้เพียงพอ (นอนให้พอ) กินอาหารที่มีประโยชน์ บำรุงผิวพรรณให้ดีงามอยู่เสมอ มันเป็นอะไรที่เบสิคมาก แต่คนกลับทำได้ยาก แต่ถ้าเราสามารถทำได้จะส่งผลให้วันสำคัญของเรานั้นพร้อมทั้งกายและใจ ความมั่นก็จะมาเต็มนะคะ ที่สำคัญจะต้องยิ้มให้เยอะๆ ฝึกที่จะเป็นคนโลกสวยสักวัน อากาศร้อนคนเยอะก็ห้ามวีน เพราะเป็นวันดีๆ ใครๆ ก็อยากมาร่วมยินดีกับเรา อย่าให้เขาเห้นเราหน้ามุ่ยเป็นอันขาด เดี๋ยวจะเสียกำลังใจคนมาเอานะตัวเอง

จบไปแล้วสำหรับ 15 ข้อแนะนำที่แจ๊คตั้งใจลิสต์มาอย่างดีสำหรับว่าที่บัณฑิตใหม่ควรจะเตรียมตัวเตรียมใจไปให้ดีที่สุด เอาแค่ที่สำคัญพอดีพองามมาทั้งนั้นนะคะ พยายามไม่ให้มันดูเยอะ วุ่นวาย เพราะแค่วันจริงเพื่อนกับญาติก็เยอะวุ่ยวายกันไปหมดแล้ว ฮ่าๆ ถ้าได้อ่านกันแล้วลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ มากน้อยก็ว่ากันไป สุดท้ายแล้วก่อนจากกัน อย่าตื่นเต้นจนเกินเหตุนะคะ เราไปรับปริญญาไม่ได้ไปออกรบสงครามซีเรีย ไม่ได้ไปเสี่ยงชีวิตแต่อย่างใดค่ะ แค่เราไปรับความภาคภูมิใจให้ตัวเองและครอบครัวเท่านั้นเองค่า งั้นแจ๊คขอร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ในที่นี้เลยแล้วกันเด้อ
ถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่ามีประโยชน์ก็แชร์ให้เพื่อนๆของคุณ เตรียมตัวกันด้วยล่ะ อย่าแอบอ่านคนเดียว


ที่มา: https://jackmakeup.com/2015/10/14/commencement-day/