ปัญหาห้องน้ำรั่วซึม สามารถสังเกตได้จากคราบน้ำ 2 กรณี คือ
กรณีแรก บริเวณท้องพื้นหรือใต้พื้นห้องน้ำ มีคราบน้ำ คราบตะกรันสีขาว หรือพบการแตกร้าว หลุดร่อนของปูนจนเห็นเหล็กเสริมโครงสร้าง รวมถึงเกิดสนิมบนเหล็กเสริมโครงสร้าง แสดงว่าเกิดการรั่วซึมของพื้นห้องน้ำ
กรณีที่สอง คือ เกิดคราบน้ำหยดบนบริเวณบริเวณท่อน้ำ ข้อต่อท่อน้ำ หรือบริเวณรอยต่อระหว่างงานท่อน้ำกับงานพื้นคอนกรีต แสดงว่าระบบลำเลียงน้ำของห้องน้ำเกิดการรั่วซึม
![](https://www.scgbuildingmaterials.com/th/getattachment/e7df0c14-1244-4d9d-b14a-821266c6d33e/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B6%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3.aspx?width=800)
การซ่อมแซมรอยร้าวปัญหาการรั่วซึมของพื้นห้องน้ำ
สำหรับปัญหาคราบน้ำที่เกิดจากพื้นห้องน้ำรั่วซึม อาจเกิดขึ้นช้าเร็ว หรือไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยดังที่กล่าวข้างต้น แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดซึ่งเกิดขึ้นก่อนการก่อสร้าง และเป็นสาเหตุเริ่มต้นของปัญหาห้องน้ำรั่วซึม ก็คือ
1. การออกแบบ ทั้งการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยที่ไม่มีการแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง หรือการคำนวณขนาดความลาดเอียงที่ผิดพลาด
2. การเลือกใช้วัสดุ เช่น การเลือกคุณภาพของท่อน้ำทิ้งที่ไม่เหมาะสม หรือการเลือกกระเบื้องปิดผิวผิดประเภท
3. ความชำนาญและวิธีการก่อสร้างของช่าง เช่น สัดส่วนของคอนกรีตที่ใช้เทพื้นห้องน้ำไม่เหมาะสม การหล่อคอนกรีตไม่สมบูรณ์ หรือละเลยการบ่มคอนกรีตทำให้โครงสร้างแตกร้าว แม้กระทั่งการปูกระเบื้องแบบซาลาเปา ซึ่งทำให้เกิดโพรงใต้กระเบื้องและน้ำเข้าไปขังแทนที่ได้
นอกจากนี้การใช้งานของผู้อยู่อาศัยก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ เช่น การทำความสะอาดและการใช้ห้องน้ำ ทำให้ปูนยาแนวสึกหรอหลุดร่อน น้ำจะซึมผ่านร่องยาแนว ไปสะสมอยู่ใต้พื้นกระเบื้องและโครงสร้างพื้นคอนกรีต โดยซึมผ่านตามรอยแตกร้าวหรือช่องต่างๆ ที่เกิดจากความบกพร่องในการก่อสร้าง หากทิ้งไว้นาน จะเกิดสนิมที่เหล็กเสริมโครงสร้าง จนทำให้คอนกรีตแตก หลุดร่อน และอาจเกิดปัญหากับโครงสร้างพื้นอาคารได้
ปัญหารั่วซึมที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นห้องน้ำ สามารถแก้ไขได้ 2 วิธี วิธีแรก เป็นการแก้ไขที่ปูนยาแนว โดยลอกยาแนวเดิมที่เสื่อมสภาพออก ก่อนจะทำความสะอาดและรอให้ความชื้นระเหยออกมาให้มากที่สุด (อาจตรวจสอบความชื้นโดยใช้แผ่นพลาสติกปิดบริเวณร่องยาแนว และสังเกตว่ามีหยดน้ำเกาะหรือไม่) หากพบว่าไม่มีความชื้นแล้ว ให้ใช้ปูนยาแนวที่มีคุณภาพอุดบริเวณร่องยาแนวกระเบื้องต่อไป วิธีนี้จะช่วยระงับปัญหาได้ประมาณ 1-2 ปี ส่วนอีกวิธีจะเป็นการแก้ไขทั้งระบบเพื่อป้องกันปัญหาระยะยาว โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. สกัดรื้อกระเบื้องและปูนทรายปรับระดับออก
2. ตรวจสอบและซ่อมรอยแตกร้าวด้วยปูนซ่อมโครงสร้าง
3. โดยใช้ผลิตภัณฑ์สูตรซีเมนต์หรือสูตรโพลิเมอร์ ด้วยการทาในลักษณะพับตามมุมรอยต่อกับแผ่นผ้าประสานตามมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ (ทาในบริเวณมุมรอยต่อระหว่างพื้นกับผนัง และทาเลยขึ้นไปบนผนังประมาณ 15 ซม.)
4. ปูกระเบื้องพื้น โดยเลือกชนิดกระเบื้องที่มีค่าการดูดซึมน้ำต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องน้ำ และติดตั้งโดยใช้ปูนทรายปรับระดับที่มีส่วนผสมของน้ำยากันซึม
5. ซ่อมแซมพื้นโครงสร้างส่วนล่างที่แตกร้าว ตรวจสอบเหล็กเสริมโครงสร้างว่าหน้าตัดหายไปหรือไม่ หากพบว่าหน้าตัดเหล็กอยู่ในสภาพปกติ ให้ตรวจสอบเรื่องสนิมและกำจัดออก โดยใช้แปรงโลหะหรือกระดาษทรายร่วมกับเคมีภัณฑ์ จากนั้นสกัดเปิดพื้นผิวแล้วอุดเติมด้วยปูนซ่อมโครงสร้าง แต่หากเกิดรอยแตกร้าวเป็นบริเวณกว้าง หรือเหล็กโครงสร้างถูกสนิมกินลึก ควรให้วิศวกรโครงสร้างเป็นผู้แนะนำเรื่องการซ่อมแซม
6. เมื่อซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ปิดฝ้าเพดาน จากนั้นเก็บงานและทาสีให้เรียบร้อย
ปัญหาการรั่วซึมของระบบท่อลำเลียงน้ำ ปัญหาคราบน้ำที่เกิดขึ้นเพราะการรั่วซึมของระบบท่อลำเลียงน้ำ ทั้งน้ำดี (น้ำประปา) และน้ำเสีย (น้ำทิ้ง) นั้น สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่ากรณีพื้นห้องน้ำรั่วซึม เพียงแค่เปลี่ยนอุปกรณ์ข้อต่อที่เกิดปัญหา โดยใช้วิธีการตัดและต่อท่อด้วยกาวประสานท่อที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ควรอาศัยฝีมือช่างก่อสร้างที่มีความชำนาญ เพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำอีก
ส่วนการรั่วซึมบริเวณรอยต่อท่อที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นคอนกรีตและท่อน้ำ สามารถแก้ไขได้โดยใช้เคมีภัณฑ์ประเภทโฟมฉีดขยาย หรือซีเมนต์พิเศษสำหรับอุดรอยต่อเพื่ออุดรอยรั่วซึม โดยต้องทำการรื้อหรือขจัดคราบสิ่งสกปรก รวมทั้งวัสดุที่เสื่อมสภาพออก ก่อนจะทำการอุดรอยรั่วซึมต่างๆ
และท้ายที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาการรั่วซึมในห้องน้ำอีกทางหนึ่ง ควรติดตั้งตำแหน่งสุขภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน ตามตำแหน่งที่เหมาะสม และเลือกวัสดุที่มีคุณภาพ เลือกใช้บริการช่างที่มีความชำนาญ รวมถึงการใช้ อุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่ช่วยป้องกันปัญหาการรั่วซึม เช่น อุปกรณ์การวางท่อฝังที่พื้น (Sleeve) หรือการใช้เคมีภัณฑ์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกันรั่วซึม เพราะการแก้ปัญหาเรื่องนี้ค่อนข้างยากลำบาก ทั้งเรื่องเวลาและค่าใช้จ่าย ดังนั้น การป้องกันจึงย่อมดีกว่าการตามแก้ไขภายหลังอย่างแน่นอน
![](https://www.scgbuildingmaterials.com/th/getattachment/acd2030f-5c0c-4b94-8463-eae83c54a732/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B6%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3.aspx?width=800)
ขอขอบคุณ:
https://www.scgbuildingmaterials.com/th/HomeConsult/Blog/improve-care/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B6%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3.aspx