ผู้เขียน หัวข้อ: DIY ทาสีรั้วไม้ แบบไม่มีกลิ่นเหม็น!!! บ้านดูแพงขึ้นเยอะเลย..  (อ่าน 2043 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เอก

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
 DIY ทาสีรั้วไม้ แบบไม่มีกลิ่นเหม็น!!! บ้านดูแพงขึ้นเยอะเลย.. 
DIY ทาสีรั้วไม้ แบบไม่มีกลิ่นเหม็น!!! บ้านดูแพงขึ้นเยอะเลย..  S! Home สนับสนุนเนื้อหา

   รั้วไม้หน้าบ้านหลังโดนแดด ฝน ลมเข้าไป สีก็เริ่มซีด แม้บ้านจะยังใหม่อยู่ แต่ถ้ารั้วไม้เก่าโทรมก็ทำให้บ้านดูไม่ดีได้ อย่างคุณสมาชิกหมายเลข 932703 ห้องชายคาเว็บไซต์พันทิป ดอทคอม หาวิธีทำให้บ้านดูดีขึ้นด้วยการทาสีรั้วไม้เท่านั้น ที่สำคัญไม่เหม็นอีกด้วย การทาสีไม่ใช่เรื่องยาก มาลองทำดูไหมคะ
ฉลองโบนัสออกครับ กับการ Renovate รั้วบ้านไม้ให้บ้านดูแพงขึ้น จริงๆ อยากทำตั้งแต่กลางเดือน แต่พ่อทักว่าตรุษจีน ห้ามทำงาน เลยอู้มาทำสิ้นเดือนนี่แหละครับ

โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ทาสีเองอยู่แล้วครับ ถ้าไม่ต้องปีนป่ายอะไรสูงมากมาย แต่ยังไม่เคยลองทาไม้เอง เพราะโดนขู่ไว้ว่ายุ่งยาก ฝุ่นเยอะ
ซึ่งก็มีส่วนจริงอยู่บ้างครับ เพราะงานไม้เป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือจริงๆ 5555 แต่ไหนๆ ก็หาช่างยากแล้ว เพราะทำนิดเดียวช่างมาไม่คุ้ม ก็เลยทำเองซะเลย

ขออนุญาตอวดภาพ Before After ก่อนนะครับ


อุปกรณ์ที่ใช้
ขอบอกว่าไม่เยอะครับ แต่ต้องใช้เวลาและความประณีตในการทำ
(ผมงานไม่เนี้ยบนะ ถ้าช่างจริงๆ มาตรวจ ผมคงสอบตก 555... แต่ทำเองอยู่เอง ไม่ต้องแคร์ใคร ข้างบ้านยังมาชมเลยว่า สวยดี ขยันจังก็โอเค)



1. เครื่องขัดกระดาษทราย (ยืมข้างบ้านมาครับ)
2. กระดาษทรายขัดไม้ แบบหยาบ และละเอียด (ร้านเขาแนะนำตราปลาฉลาม Shark นะถูกดี)
3. แปรงขนกระต่าย (อันละ 15 บาท)
4. ถาดแปรงทาสี หรือ กระป๋องแบ่งก็ได้ครับ (จะได้ถือจุ่มทาสะดวกๆ)
5. หนังสือพิมพ์เก่าๆ เอาไว้รองเปื้อน
6. แว่นตากันลม (กันฝุ่นไม้เข้าตา)
7. หน้ากากกันฝุ่น (5 อัน 30บาท ซื้อจากร้านขายยา)
8. สีย้อมไม้สูตรน้ำ TOA Woodstain Waterborne (อันนี้ไม่เหม็นเลยครับ ไม่ต้องผสมทินเนอร์) ราคาพันกว่าบาทครับ
9. สำคัญที่สุด สำหรับใครที่กลัวดำ แนะนำ ครีมกัน แดด banana boat แบบกันน้ำกันเหงื่อนะครับ เพราะเราต้องทำข้างนอกบ้านแดดแรงมาก
    (ตอนทาสี ลืมทากันแดดตัวเอง ทาเสร็จถอดเสื้อดู เป็นรอยเสื้อกล้ามเลยครับ :] ขอไม่ถ่ายรูปให้ดูนะครับ...อาย)

วิธีทำ  Step by Step  ครับ
1. ขัดหน้าไม้เอาสีเก่าออกให้ได้มากที่สุดก่อนครับ เพราะไม่งั้นทาสีใหม่ไปไม่สวย เพราะฟิมพ์สีใสครับ
    จริงๆ แล้วขัดมือก็ได้ครับ แต่จะเหนื่อยมาก
    ขนาดยืมเครื่องขัดกระดาษทรายจากข้างบ้านมา ยังใช้เวลาเกือบ 2 ชม. ในการขัดครับ (อันนี้เมื่อยหัวไหล่นิดนึง เพราะรั่วสูงครับ แต่สู้!!!)
    โดยรวมแล้ว แนะนำเครื่องทุ่นแรงที่ประหยัดเวลา และแรงงานเราดีกว่าครับ
    (ปล. อันนี้ที่ขัดกระดาษทราย Ryobi ครับ สภาพสมบุกสมบันมาก เหมือนเจ้าของเขาจะใช้งานมานาน ....แต่ยังขัดดีอยู่นะครับ)



กระดาษ 1 แผ่น แบ่งขัดได้ 6 ครั้งครับ



อันนี้โชว์วิธีการใส่กระะดาษในเครื่อง ตอนแรกทำไม่เป็นครับ เขาสอน



ในระหว่างการขัดอย่าลืมใส่ที่คาดปากและแว่นตานะครับ !!!!! สำคัญมาก ไม่งั้นเดี๋ยวจะระคายโพรงจมูกครับ :]
ขัดไปเรื่อยๆ ครับ เพราะงานละเอียด ลงกระดาษทรายเบอร์หยาบก่อน แล้วค่อยขัดละเอียดอีกทีนึง เพื่อให้ไม้เรียบครับ ทาสีจะได้สวยๆ



2. ขัดเสร็จแล้วใช้แปรงแห้งปัดฝุ่นและใช้ผ้าเช็ดฝุ่นไม้ออกนะครับ



3. ขั้นตอนนี้สำคัญมากครับ คือ ไปล้างหน้าครับ เพราะ เดี๋ยวฝุ่นไม้ + เหงื่อ อาจจะทำให้เป็นสิว เพราะเราเป็นคนผิวแพ้ง่ายครับ 555 แล้วค่อยกลับมาทาสีไม้กัน

4. ทารองพื้นไม้ 1 เที่ยวครับ ปล่อยให้แห้ง แล้วก็รอทาสีทับหน้าครับ

5. ทาสีย้อมไม้สูตรน้ำ ดูข้างกระป๋องเขาบอกให้ทา 3 เที่ยวครับ ให้สวยสมบูรณ์แบบ
    ไปเลือกสีที่ร้าน เขามีประมาณ 3 สีให้เลือกครับ เอาน้ำตาลแดง มะฮอกกานี WG02 ตอนแรกดูข้างกระป๋องตกใจ นึกว่าราคาตามป้าย
    แต่ไม่ใช่ครับ เจ้าของร้านบอกว่า พันกว่าบาท เลย โอเคครับ
    เปิดฝามาไม่มีกลิ่นเลยครับ ทาได้แบบปลอดภัย ตัดสินใจซื้อมาทาเองเพราะไม่เหม็นนี่แหละ





6. ทาสีรอบแรกครับ



อันนี้ถ่ายมาเปรียบเทียบ ฝั่งที่ทากับไม่ทานะครับ เริ่มเห็นสีแล้ว



7 ทิ้งให้แห้ง 1 ชม. ค่อยทารอบ2 ครับ
   (จริงๆ กว่าจะทาจากซ้ายไปขวาหมดไปประมาณ 1 ชม. พอดีครับ ทาได้ไปเรื่อยๆ ครับ) รอบสองเริ่มเห็นฟิล์มสีชัดขึ้นครับ



ในระหว่างนี้อย่าลืมทาขอบซอกมุม แนวตั้ง แนวนอนของไม้ด้วยนะครับ ไม่งั้นไม้จะแดงแค่ข้างหน้า



8 ทาสีรอบที่ 3  ครับ พ่อออกมาดูนี่ฟินเลย บอกว่าเฮ้ย สวยว่ะ .... ตอนแรกไม่คิดว่าแกจะทำได้ขนาดนี้ ... (- -่) ตกลงชมหรือด่าไม่รู้
อันนี้ถ่ายตอนบ่ายสามนะครับ แสงแดด แรงกำลังดี ภาพเลยดูสดนิดนึง ตอนเย็น ดูไกลๆ สีจะไม่สดขนาดนี้นะครับ



ปล. ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ
ปล. 2  ฝีมืออาจจะไม่เนี้ยบเท่าช่างมืออาชีพ ... ยังไงก็ขอฝากตัว คน DIY มือสมัครเล่นหน่อยนะครับ :]



ที่มา: http://home.sanook.com/3609/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 มิถุนายน 2017, 02:51:15 โดย เอก »