ใบสมัครงานที่ผู้สมัครต้องกรอกตอนที่ไปสมัคร งานตามบริษัท ห้างร้านต่าง ๆ นั้น จะมีลักษณะ ต่างๆกันในแต่ละแห่ง แต่โดยส่วนรวมแล้วมักจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันแทบทุกแห่ง โดยมีรายละเอียดการกรอกดังนี้
1. หลักการเบื้อต้น (How to complete an application form)
1.1 ทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ของใบสมัคร (Read clear what the procedures are) เช่น ให้เขียนหรือพิมพ หรือข้อความตอนใดที่ต้องเขียนด้วยอักษรตัวพิมพ์
1.2 ตอบคำถามในใบสมัครให้ครบถ้วน (Complete all questions) ข้อความใดที่ไม่ต้องการก็ให้ทำเครื่องหมายหรือใส่ข้อความลงไป
1.3 กรอกใบสมัครให้ดูน่าสนใจที่สุด (Make it clean, clear,accurate interesting, and wellpresented) หมายถึงเขียนให้สะอาดเรียบร้อยและเลือกเฉพาะประเด็นที่น่าสนใจมากที่สุด
1.4 เตรียมคำถามที่อาจถูกถามจากการกรอก (Prepare to be questioned about what you filled in) เป็นการเตรียมคำอธิบายว่าสิ่งที่เรากรอกลงไปนั้น ถ้าต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมจะอธิบายเพิ่มเติมได้อย่างไร
1.5 กรอกใบสมัครให้เสร็จโดยเร็วและรีบส่งทันที (Complete and submit an application assoon as possible).
2.การกรอกประวัติส่วนตัว (Personal Details)
2.1 การเขียนชื่อ เขียน ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งชื่อ (Name) และนามสกุล (Last Name / Surname) โดยใส่คำนำหน้าชื่อด้วย เช่น Mr. , Mrs. , Miss. , Ms. , บางแห่งจะให้เขียนทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
ตัวอย่างName : Mr. SOMBAT RAKDI (English)
NAME : นายสมบัติ รักดี (THAI)
2.2 การเขียนที่อยู่ (Address) ควรเขียนให้ละเอียด การเขียนชื่อทางภูมิศาสตร์(Geographical name) นั้นสามารถเขียนทับศัพท์ได้เลย เช่น
Soi (ซอย)13- Thanon (ถนน-แต่คำว่าถนนสามารถใช้คำว่า Road แทนได้เพราะเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป) Amphoe / khet (อำเภอ / เขต) Changwat (จังหวัด จะเขียนนํหน้าชื่อหรือ ไม่ก็ได้ เพราะชื่อจงัหวัดต่าง ๆ เป็นที่รู้จักกันดีแล้ว) และอย่าลืมใส่รหัสไปรษณีย์ตัวอย่าง
Present Address 622/151 Soi Suan Luang, Charansanitwong Rd., Khet Bangkoknoi, Bangkok 10700
– การเขียนที่อยู่ในบางครั้งจะมีช่องสำหรับกรอก 2 ช่องคือ
- Home Address / Present Residence(ที่อยู่บ้าน) หรืออาจใช้ Permanent Address ที่อยู่ถาวร คือที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
- Mailing Address หมายถึงที่อยู่ที่ต้องการให้ติดต่อทางไปรษณีย์
**กรณีที่สถานที่อยู่เป็นสถานที่เดียวกันทั้งสองช่อง ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องเขียนข้อความซ้ำกันควรเขียนว่า As above หรือ Same as above หมายถึงที่อยู่เหมือนกับสถานที่อยู่ข้างต้น
2.3 สถานภาพทางการสมรส (Marital Status) และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ(Personal Data)
ผู้สมัครต้องกาเครื่องหมาย / ลงหน้าช่องที่เว้นไว้
ตัวอย่าง - Single (โสด)
- Married (แต่งงานแล้ว)
- Widowed (เป็นหม้าย)
- Married with no children (แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร)
- Divorced (หย่า) Separated (แยกทางกัน)
– ในกรณีที่แต่งงานแล้ว จะต้องกรอก
Marriage Cert. No .. (หมายเลขใบทะเบียนสมรส)
Issued at . (ออกให้ที่อำเภอ หรือเขต)
Dated Issued (วัน เดือน ปีที่ออกใบทะเบียนสมรส )
Spouse (ชื่อคู่สมรส)
- Birthdate (วัน เดือน ปีเกิด) เช่น May 1, 1970
- Birthplace / Nataive Place (สถานที่เกิด) ให้เขียนชื่อจังหวัดที่เกิด เช่น Pattani
- ID Card No. (เลขประจำตัวบัตรประชาชน) เช่น 2 9099 00050 11 6
- Issued at (สถานที่ออกบัตร) เช่น Amphoe Panare, Pattani
- Date Issued / Dated (วันที่ออกบัตร) เช่น October 12, 1990
- Expiry date / Valid Until (วันที่บัตรหมดอายุ) เช่น October 11, 1996
- Religion (ศาสนา) เช่น Buddhism / Islam / Catholic / Protestant
- Taxpayers No. (หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี)
- Social Security No. (เลขประจำตัวบัตรประกันสังคม)
2.4 สถานภาพทางการทหาร (Military Status) มี 3 สถานภาพคือ
- Serving หมายถึง การอยู่ในระหว่างรับราชการทหาร เช่น กำลังอยู่ในภาวะเป็นทหารเกณฑ์
- Completed หมายถึง ผ่านการเกณฑ์ทหารมาแล้วโดยการเป็นทหารเกณฑ์
- Exempted หมายถึง ได้รับการยกเว้นโดยการเรียน ร.ด.จบหลักสูตร หรือจับฉลากได้ใบดำ หรือร่างกายไม่ได้ขนาด หรือกำลังเป็นนักศึกษา
ในบางครั้งเราต้องบอกเหตุผลของการได้รับการยกเว้นว่าเป็นเพราะอะไร (With reason) สามารถบอกได้หลายวิธี เช่น
- Finished Reserved Officers Training Corps Course (R.O.T.C.) (สำเร็จหลักสูตรรักษาดินแดน) หรือจะใช้ว่า
- Finished Military Service Training of Territorial Defence Course (สำเร็จหลักสูตรรักษาดินแดน
- Reserved Status หรือ Reservist (ทหารกองหนุน)
- Registered Status หรือ Registrant (ทหารกองเกิน)
- Exempted through Military Drawing Ballot (ผ่านการเกณฑ์ทหาร เพราะจับฉลากได้ใบดำ)
- Exempted by Being Undersize (เพราะร่างกายไม่ได้ขนาด)
by physical disability (เพราะจุดบกพร่องของร่างกาย)
by being a student (เพราะเป็นนักศึกษา)
ตัวอย่างIf you are eligible for Military Service, state whether serving, completed or exempted
(with reason) . Exempted with ROTC
หรือบางครั้งจะมีคำถามกว้าง ๆ เราก็เลือกตอบได้ เช่น
State your military service No Military Service Obligation
(พ้นพันธะทางทหาร)
**หมายเหตุ ศัพท์ภาษอังกฤษ การเกณฑ์ทหาร แบบอังกฤษจะใช้ว่า Drafting (Drafted) ส่วนแบบอเมริกันจะใช้ว่า Conscription (Conscripted)
ตัวอย่างIf you are under the military age, indicate when your conscription is die, ..
(ถ้าคุณมีอายุไม่ถึงการเกณฑ์ทหาร ให้ระบุเวลาที่ถึงกำหนดต้องเกณฑ์ทหาร)
2.5 สุขภาพ (Health Conditions) ส่วนใหญ่จะถามถึงสุขภาพและโรคประจำตัวหรือการได้รับอุบัติเหตุว่าเป็นอย่าง ไร คำศัพท์ที่ถามเกี่ยวกับโรคภัย ได้แก่
- Physical disabilities or defects – ข้อบกพร่องทางร่างกาย
- Handicap – ความพิการ
- Chronic disease – โรคติดต่อ
- Serious mental illness – การเจ็บป่วยทางจิต
- Serious physical illness – การเจ็บป่วยทางกาย
- Colour blindness – โรคตาบอดสี
ช่องเกี่ยวกับสุขภาพเรามักจะตอบว่า ไม่เคยเป็นโรค หรืออาการเจ็บป่วยเพราะฉะนั้นเราจึงไม่ตอบโดยวิธีเขียนว่า N/A (Not Applicable) หมายถึง ไม่กรอกข้อความหรือไม่มีข้อมูล
ตัวอย่างPhysical disabilities or handicap or chronic disease (e.g. sight, hearing, speech,colour blindness, lameness, heart)
N/A
2.6 รายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัว (Family Details) ในใบสมัครจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ ชื่อบิดา-มารดา พี่-น้อง และจุดที่สำคัญคือ อาชีพของแต่ละคน คำศัพท์ที่ใช้กรอกในช่องอาชีพ(Occupation) มีดังนี้
- Civil Servant (Government Official) ข้าราชการพลเรือน
- Retired Government Official ข้าราชการบำนาญ
- Officer รับราชการ (ทหาร ยศร้อยตรีขึ้นไป)
- Sub Lieutenant ร้อยตรี (Sub. Lt.)
- Lieutenant ร้อยโท (Lt.)
- Army Captain ร้อยเอก (Army Capt.)
- Soldier รับราชการ (ทหาร ยศต่ำกว่าร้อยตรี)
- Sergeant Major First Class จ่านายสิบเอก (จ.ส.อ.)
- Sergeant Major Second Class จ่าสิบโท (จ.ส.ท. )
- Sergeant Major Third Class จ่านายสิบตรี (จ.ส.ต.)
- Sergeant สิบเอก (ส.อ.)
- Self-Employed หรือ Own Business ทำงานส่วนตัว
- State Enterprise Employee พนักงานรัฐวิสาหกิจ
- Employee ลูกจ้าง
- Trader ค้าขาย
ในกรณีที่ทำงานในอาชีพที่มีเกียรติ หรืออาชีพที่ใช้ความรู้ทางวิชาการ หรืออาชีพที่รู้จักกันกว้างขวางในสังคม หรือ ได้รับการยอมรบั จากสังคม(Profession) เราอาจจะใส่ชื่ออาชีพนั้น ๆ ไปก็ได เช่น นายแพทย์ (Doctor) ทนายความ (Lawyer) ครู-อาจารย์ (Instructor) วิศวกร (Engineer) เป็นต้น
3.การกรอกประวัติการศึกษา (Educational Background)
3.1 ระดับประถมศึกษา (Educational Level)
- Primary (ระดับประถมศึกษา)
- Secondary (ระดับมัธยมศึกษา)
- Vocational / Technical (ระดับอาชีวะ หรือวิชาชีพ)
- College (ระดับวิทยาลัย)
- University (ระดับมหาวิทยาลัย)
3.2 วุฒิการศึกษา (Degree / Certificate)
- Certificate, Diploma ประกาศนียบัตร
- High School Certificate ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย
- Certificate of Technical Vocation ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.)
- Certificate of Vocational Education (Cert. Of Voc.Ed.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) หรือ
- Vocational Certificate (Voc. Cert.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
- Diploma / High vocational Certificate (Dip. / High Voc. Cert.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
- Bachelor of Science (B. Sc.) ปริญญาตรีทางด้านวิทยาศาสตร์
- Bachelor of Engineering (B.Eng.) ปริญญาตรีทางด้านวิศวกรรมศาสตร์
- Bachelor of Industrial Technology (B.Ind.Tech.)ปริญญาตรีด้านอุตสาหกรรมศาสตร์
- Bachelor of Accountancy (B.Acct.) ปริญญาตรีด้านบัญชี
- Bachelor of Business Administration (B.BA.) ปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ
หลังคุณวุฒิการศึกษาควรที่จะใส่สาขาวิชาที่สำเร็จการศึกษาโดยเติมคำว่า in หรืออยู่ในวงเล็บ และ ตามด้วยสาขาวิชา เช่น
- Auto Mechanics ช่างยนต์
- Machine Shop Mechanics ช่างกลโรงงาน
- Mechanical Technology ช่างยนต์
- Electrical Engineering วิศวกรรมไฟฟ้า
- Building Construction ช่างก่อสร้าง
- Mechanical Engineering วิศวกรรมเครื่องกล
- Civil Construction ช่างก่อสร้าง / ช่างโยธา
- Electronics Engineering วิศวกรรมอิเล็อนิกส์
- Electrical Power Technology ช่างไฟฟ้ากำลัง
- Civil Engineerin วิศวกรรมโยธา
- Architectural Drawing ช่างเขียนแบบสถาปัตยกรรม
- Surveying ช่างสำรวจ
- Electronics Technology ช่างอิเล็กทรอนิกส์
- Accounting การบัญชี
- Marketing การตลาด
- Finance and Banking การเงินและการธนาคาร
- Human Resource Management การจัดการทรัพยากรมนุษย์
- Business English ภาษาอังกฤษธุรกิจ
- Computer Science วิทยาการคอมพิวเตอร์
- Industrial Engineering วิศวกรรมอุตสาหการ
ตัวอย่างVoc.Cert. in Auto Mechanics
Diploma in Electronics Technology
B.Eng. in Electronics Engineering / Electrical Engineering
** หมายเหตุ ถ้าช่องสำหรับกรอกการศึกษาเว้นประเภทของโรงเรียนไว้ให้ผู้สมัครเติมข้อความเองผู้สมัคร
ควรที่จะเขียนการศึกษาสูงสุดที่ตนเองได้รับก่อน และเขียนการศึกษาย้อนหลังไปอีกระดับหรือสองระดับก็เป็น
การเพียงพอ ส่วนใบสมัครที่ได้กำหนดระดับการศึกษาไว้ในใบสมัครแล้ว ผู้สมัครก็ต้องเขียนรายการตามที่ใบ
สมัครกำหนดไว้เช่นในบางครั้งมีการระบุว่าต้องเขียนสถานที่ตั้ง (Location) ของสถาบันการศึกษาด้วยซึ่งหมายถึงชื่อ
จังหวัดที่สถาบันนั้น ๆ ตั้งอยู่ เช่น Phuket Technical College, Phuket
4. การกรอกความสามารถพิเศษ (Language Proficiency)ความสามารถพิเศษจะแบ่งกลุ่มใหญ่ ๆได้ 2 ลักษณะ คือ
4.1 ความสามารถทางภาษา (Language Proficiency) ภาษาต่างประเทศที่ใช้กรอก ได้แก่
- English ภาษาอังกฤษ
- Japanese ภาษาญี่ปุ่น
- Chinese ภาษาจีน ควรจะระบุด้วยว่าเป็น Taechiew ภาษาจีนแต้จิ๋ว
- Mandarin ภาษาจีนกลาง
- Cantonese ภาษาจีนกวางตุ้ง
วิธีระบุความสามารถทางภาษาจะมีด้านต่าง ๆ เช่น Speaking, Reading, Writing, Understanding
ผู้กรอกมีวิธีการกรอกโดยเติมศัพท์ดังนี้
4.2 ความสามารถด้านอื่น ๆ (Career Qualifications) ความสามารถที่จะเป็นการเพิ่มคุณสมบัติของเราเพื่อประโยชน์ในการสมัครงาน เช่น ด้านกีฬา หรือด้านอาชีพ เช่น
- Computer repair and knowledge of software : ซ่อมคอมพิวเตอร์และมีความรู้เรื่องซอฟต์แวร์
- Knowledge of setting up computer networks : มีความรู้ในการติดตั้งข่ายงานคอมพิวเตอร์
- Knowledge of CAD and computer systems : มีความรู้ในการออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย
- Able to write program with BASIC, C language : สามารถเขียนโปรแกรมภาษาเบลิคและภาษาซี
- Machine design or equipment making : การออกแบบเครื่องจักรกลหรือการสร้างอุปกรณ์
- Mechanical engineering design : การออกแบบทางวิศวกรรมเครื่องกล
- Knowledge in switchboard design on manufacture and wiring works : มีความรู้ด้านการออกแบบแผงสวิตซ์เพื่อการผลิต และงานเดินสายไฟฟ้า
- Practical ability to operate PC and other OA equipment : มีความสามารถเชิงปฏิบัติในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติ
- Ability in troubleshooting, modification and maintenance for electronics measurement equipments : มีความสามารถในการตรวจซ่อม การดัดแปร และการบำรุงรักษาอุปกรณ์การวัดทางอิเล็กทรอนิกส์
- Working knowledge of computers using spreadsheets and data bases. : มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ สามารถใช้แผ่นตารางทำการและฐานข้อมูล
- Goodknowledge of PC hardware and software, especially spreadsheets wordprocessor, databases, LAN communication and graphics : มีความรู้อย่างดีด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องแผ่นตารางทำการ เครื่องประมวลคำ ฐานข้อมูล การสื่อสารข่ายงานบริเวณเฉพาะที่และกราฟิกส์
- Production planning, material supply or executing production lines process : การวางแผนการผลิต การจัดหาวัสดุ หรือการดำเนินการขบวนการสายการผลิต
- The capability to prepare and review full-scale tenders : มีความสามารถในการเตรียมการ และวิเคราะห์การประมูลราคาโครงการขนาดใหญ่
5. ประสบการณ์การทำงาน (Experience) ในใบสมัครงานทุกบริษัทจะมีช่องประสบการณ์การทำงานไว้เพื่อจะ ได้รู้ว่าผู้สมัครนั้นเคยผ่านงานอะไรมาบ้าง การกรอกประสบการณ์ก็เหมือนกับการกรอกประวัติการศึกษาคือ ให้กรอกการทำงานล่าสุดก่อนแล้วค่อยย้อนหลังลงไปจนถึงการทำงานครั้งแรก สำหรับการกรอกประวัติการทำงานมักมีรายละเอียดดังนี้
5.1 ตำแหน่งที่ทำงาน (Position) เช่น
- Technician นายช่างเทคนิค
- Foreman หัวหน้าควบคุมงาน
- Junior Foreman หัวหน้าควบคุมงาน (ผู้ช่วย)
- Senior Foreman หัวหน้าควบคุมงาน (ระดับสูง)
- Supervisor ผู้ควบคุมงาน
- Assistant Supervisor ผู้ช่วยผู้ควบคุมงาน
- Engineer วิศวกร
- Assistant Engineer ผู้ช่วยวิศวกร
- Inspector ผู้ตรวจสอบ
- Manager ผู้จัดการ
5.2 เหตุผลที่ลาออก (Reason for Leaving) เช่น
6. เรื่องเบ็ดเตล็ด (Miscellaneous) ผู้กรอกต้องกรอกในหัวข้อดังนี้
6.1 ตำแหน่งที่สมัคร ให้กรอกตามประกาศที่รับสมัครโดยให้ตรงตามคุณวุฒิและข้อกำหนดของตำแหน่งนั้น ๆ
6.2 เงินเดือน การกรอกเงินเดือนควรกรอกเป็นช่วงเพื่อให้นายจ้างมีทางเลือกที่จะพิจารณา เช่น 9,000 – 10,000 บาท การกรอกเงินเดือนไม่ควรให้ต่ำหรือสูงเกินไป ในกรณีที่ผู้สมัครไม่ ต้องการจะกรอกจำนวนเงิน อาจจะกรอกข้อความอย่างอื่นได้ เช่น
Negotiable เงินเดือนแล้วแต่จะตกลง
Is up to your consideration เงินเดือนแล้วแต่จะพิจารณา
ตัวอย่างSalary required 3,000 3,500 / month
Salary Negotiable
6.3 คำถามเกี่ยวกับการกระทำความผิด มีดังนี้
- Have you ever been arrested, คุณเคยถูกจับกุมหรือไม่
- taken into custody, เคยถูกคุมขัง
- held for investigation, เคยถูกสอบสวน
- the offence charged? ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด
- Do not give minor traffic ไม่ต้องกล่าวถึงการฝ่าฝืนกฎจราจร
- violations เล็กน้อย
6.4 คำถามเกี่ยวกับการถือครองใบอนุญาตต่าง ๆ เช่น
- Driving Licence / Driver s License ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
- Auditing Licence ใบอนุญาตการตรวจสอบบัญชี
- Registered Engineering Licence ใบประกอบอาชีพวิศวกร
- Certified Professional Auditor ใบประกอบอาชีพผู้ตรวจสอบบัญชี
- Teaching Licence ใบประกอบวิชาชีพครู
ตัวอย่าง– Do you hold any licence? If yes, what?
– Yes, Registered Engineering Licence
6.5 คำถามเกี่ยวกับการเริ่มเข้าทำงาน
– When will you be available to start work?
– I will be available / on Sept. 1 / anytime you wish.
7. การเขียนผู้รับรอง (Reference) ควรที่จะเขียนอย่างน้อย 2 คน หรือตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบสมัคร ซึ่งในใบสมัครงานมักจะระบุว่าผู้รับรองต้องไม่ใช่ญาติ (Relatives) กับผู้สมัคร การเขียน ชื่อ สกุล ผู้รับรองนั้นต้องมีคำรำหน้านามเสมอ ในกรณีผู้รับรองมียศทางทหาร / ตำรวจ หรือตำแหน่งทางราชการ บริหาร/ การเมือง หรือตำแหน่งทางวิชาการ (ผศ. Asst. prof. รศ. Assoc. Prof. ศ. Prof) ควรที่จะเขียนด้วยเพื่อความน่าเชื่อถือ
ตัวอย่างReferences – Teacher, professional and business people, who have known you for
more than five years. Do not use names of relatives.
อ. ภูษิต รัตนวงศ์
ที่มา:
http://www.tlcthai.com/education/job/12209.html