1. อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ
หากถูกปฏิเสธ หรือไม่ได้รับการเรียกสัมภาษณ์ ก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ เพราะหากหมดกำลังใจแล้ว การสมัครงานครั้งต่อไปเราจะขาดความมั่นใจ ความเชื่อมั่น และการเอาใจใส่สำหรับการสมัครงาน จนอาจจะทำให้เราพลาดโอกาสงานที่ดีๆต่อไป
2. ทบทวนตัวเอง
เมื่อถูกปฏิเสธรับเข้าทำงาน แทนที่เราจะนั่งหมดหวัง ผมว่าเอาเวลานั้นมาวิเคราะห์หาข้อผิดพลาดดีกว่า ดูว่าเราพลาดตรงไหน แล้วจะแก้ไขอย่างไร การเข้ารับสัมภาษณ์มีข้อบกพร่องจุดใด ใบสมัครมีปัญหาหรือไม่ หรือจะเป็นที่คุณสมบัติตำแหน่งที่สมัครไม่ตรงกับความสามารถที่เรามีอยู่ เพราะเมื่อรู้สาเหตุข้อผิดพลาดได้เมื่อใด ก็หมายความว่าจะเป็นหนทางนำไปสู่การแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
3. หมั่นฝึกฝนความรู้
ในกรณีที่ว่างงานมานาน ขณะที่สมัครงานกับหลายๆ บริษัทแล้วยังไม่ได้รับคำตอบรับ หรือยังไม่ได้งานลองหันมาใช้เวลาว่างไปสร้างเสริมประสบการณ์และทักษะให้กับตนเอง เพื่อสร้างความพร้อมสำหรับการสมัครงาน เป็นต้นว่าไปเรียนภาษาเพิ่มเติม หรือเรียนคอมพิวเตอร์ในด้านที่ต้องใช้ในการทำงาน เช่นโปรแกรมต่างๆ ที่ต้องใช้ในระดับพื้นฐาน รวมไปถึงโปรแกรมเฉพาะทางสำหรับวิชาชีพเฉพาะ เช่น งานบัญชี งานออกแบบ
4. สร้างความกระตือรือร้นให้กับตนเองอย่างสม่ำเสมอ
ต้องหมั่นสร้างความกระตือรือร้น เติมไฟให้กับตนเองอยู่อย่างสม่ำเสมอ อาจเป็นด้วยการหางานอดิเรกที่ตนเองชอบทำในเวลาว่าง หรือออกไปข้างนอกบ้านเพื่อดูความเป็นไปของโลกภายนอกบ้าง แต่ในกรณีที่ว่างานแล้วกระเป๋าก็ว่างด้วย ลองหางานพิเศาทำไปพลางๆก่อน อาจจะเป็นงานที่สอดคล้องกับบุคลิกภาพส่วนตัว เช่น ถ้าชอบอ่านหนังสือ อาจใช้เวลาว่างเย็น หรือเสาร์-อาทิตย์ ไปเป็นลูกจ้างในร้านหนังสือเช่า เงินตอบแทนอาจจะไม่มาก แต่ก็อาจจะเพียงพอต่อค่าข้าวค่ารถในแต่ละวัน แต่ที่จะได้มากไปกว่านั้นคือ เราจะไม่เครียด เพราะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ซึ่งส่งผลให้เรามีความกระตือรือร้นในการดำรงชีวิตแต่ละวันโดยปริยาย