แจกของฟรี
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว:
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
แจกของฟรี
»
Job
»
งาน
»
เทคนิคในการหางาน,สมัครงาน,สัมภาษณ์งาน
»
เทคนิคการสร้างความโดดเด่นให้กับ Resume
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: เทคนิคการสร้างความโดดเด่นให้กับ Resume (อ่าน 1559 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Master
[color=Turquoise][i]"อาจจะเหนื่อยล้าและมีผิดหวัง แต่ยังมีพรุ่งนี้ให้เราได้เริ่มกันใหม่ ทุกชีวิตที่อยู่ในเมืองนี้ สักวันก็คงได้สมดังใจ ... "[/i][/color]
Global Moderator
Sr. Member
กระทู้: 487
พอยท์: 0
เทคนิคการสร้างความโดดเด่นให้กับ Resume
«
เมื่อ:
20 พฤศจิกายน 2016, 21:43:39 »
การประชาสัมพันธ์ตัวเองผ่านการเขียน Resumeนั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ที่ต้องมีการฝึกฝน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หลักๆ คือ ทำให้คุณเป็นผู้สมัครที่น่าสนใจที่สุด คุ้มค่าต่อการจ้างงานมากที่สุด ในสายตาของผู้คัดเลือก ในบทความนี้จะได้นำเสนอเทคนิคต่างๆ ทางด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาด (PR & Marketing)ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเขียนประวัติส่วนตัวของคุณ เพื่อความสำเร็จในการหางานอย่างง่ายๆได้ดังนี้
1.
ดึงดูดสายตา น่าอ่าน
(
Attractive)
การจัดวางรูปแบบควรเป็นแบบที่อ่านง่าย ใช้ข้อความกระชับ ได้ใจความ ดึงดูด ความสนใจ (
Short, Clear, Simple)
อาจ ใช้การเน้นสีสันหรือขนาดของตัวอักษร หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เทคนิค หรือคำศัพท์เฉพาะกลุ่ม เนื้อหาทั้งหมด ไม่ควรเกิน 1-2 หน้ากระดาษ ผู้สมัครบางคนใช้วิธีการคัดลอกแบบฟอร์มจากเว็ปไซต์ต่างๆ แล้วเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นของตัวเอง ซึ่งก็ไม่ผิดแต่อย่างใด แต่ก็ควรมีการปรับให้เหมาะสมกับข้อมูลของเราเอง เช่น ในบางหัวข้อที่เราไม่มีข้อมูล ตัวอย่างเช่น ผลการทดสอบทักษะต่างๆ หรือ การอบรม หรือ วุฒิบัตรวิชาชีพชั้นสูงเฉพาะทางต่างๆ เราก็อาจ ทดแทนด้วยข้อมูลด้านอื่นๆ ที่น่าสนใจที่ไม่ด้อยกว่ากันไว้แทน หลีกเลี่ยงการใส่แต่หัวข้อ แต่ไม่มีข้อมูลประกอบ หรือเว้นว่างไว้ ซึ่งจะทำให้ประวัติของคุณขาดความเป็นมืออาชีพ และไม่น่าอ่านไม่น่าสนใจ
2.
มีจุดขายที่โดนใจ
(Outstanding Selling Point)
ควร มุ่งเน้นตอบสนองที่ความต้องการของผู้พิจารณาใบสมัครเป็นหลัก เราอาจศึกษาได้จากประกาศ หรือ โทรไปสอบถามโดยตรงจากฝ่ายบุคคลของบริษัทเกี่ยวกับคุณสมบัติเพิ่มเติมของผู้ สมัคร เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน ถูกต้องมากที่สุด ประเมินตนเองว่ามีส่วนไหนบ้างที่ตรงกับความต้องการนั้น ไม่ว่าจะเป็นทักษะความชำนาญความสามารถพิเศษ ภาษา คอมพิวเตอร์ ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ การมีพาหนะเป็นของตนเอง หรือแม้แต่บุคลิกภาพที่ดีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยมหลักสำคัญ คือ ต้องปรับประวัติส่วนตัวของคุณให้เข้ากับงาน อย่าใช้ประวัติส่วนตัวแบบเดียวกันสมัครไปทุกที่ ทุกตำแหน่ง ที่คุณสนใจ
3.
เน้นย้ำที่จุดแข็ง (
Focus on Strength)
ตัวอย่าง เช่น บริษัทต้องการพนักงานการตลาดที่มีความคล่องตัวสูง ทำงานภายใต้แรงกดดันได้ดี คุณก็อาจระบุว่า มีความสามารถในการปรับตัวและยืดหยุ่นสูง สามารถเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด และต่างประเทศ ได้ ระบุว่าสามารถรับผิดชอบและบริหารงานหลายอย่างพร้อมๆกันได้ดี (Multi-tasking skill)เคยรับผิดชอบงานในลักษณะโครงการที่ทำงานร่วมกันหลายฝ่าย (Cross Functional Project) อะไรมาบ้าง หากยังไม่เคยทำงานก็อาจระบุ ประสบการณ์จากการทำกิจกรรมชมรม การออกค่าย เป็นผู้นำกิจกรรมด้านใด เป็นประธานสโมสร สภานิสิต นักศึกษา หรืออื่นๆ ระบุถึงความรับผิดชอบ และความท้าทายที่เผยให้เห็นคุณสมบัติเหล่านี้ในตัวคุณ
4.
ระบุราคาที่แข่งขันได้ (
Competitive Price)
ราคา ในที่นี้หมายถึงเรื่องประเด็นเรื่องค่าตอบแทน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากโดยเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่ต้องการผู้มี ประสบการณ์การทำงาน เนื่องจากนายจ้างส่วนใหญ่ต้องการให้ระบุ ระดับเงินเดือนที่คาดหวัง ไว้ในส่วนแรกของประวัติส่วนตัว เพื่อเป็นการประหยัดเวลาทั้งฝ่ายผู้คัดเลือก และผู้สมัคร ผู้สมัครที่ระบุตัวเลขที่สูงกว่าโครงสร้างของบริษัทมากๆ ใบสมัครก็อาจถูกคัดออก เป็นอันดับแรกๆ หากคุณไม่มีข้อมูลที่มากพอเกี่ยวกับเรื่องค่าตอบแทนของตำแหน่งนั้นๆ ก็อาจระบุตัวเลขเป็นช่วงที่เรายอมรับได้ หรือ ระบุเป็นข้อความว่า “เจรจาต่อรองได้”(Negotiable) ไว้ได้ วิธีการนี้ใช้ได้กับผู้สมัครที่ยังไม่มีประสบการณ์เช่นกัน
5.
ข้อมูลสำคัญต้องเป็นปัจจุบัน
(
Updated information)
ชื่อ-นาม สกุลที่อยู่ ข้อมูลส่วนบุคคล e-mail addressและหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อ ควรตรวจสอบเป็นอันดับแรก เพราะถ้าข้อมูลส่วนนี้ผิด ผู้คัดเลือกก็อาจคาดเดาได้ว่าข้อมูลส่วนที่เหลืออื่นๆ อาจจะมีความผิดพลาดไปไม่น้อยกว่ากัน สำหรับกรณีหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อควรระบุไว้มากกว่า 1 หมายเลข เผื่อเหตุสุดวิสัย หมายเลขใดหมายเลขหนึ่งไม่สามารถใช้การได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการพลาดโอกาสการนัดหมายเรื่องงานที่อาจติดต่อเข้ามา กรณีที่คุณมี Homepageหรือ blogส่วนตัวที่สามารถสื่อถึงจุดเด่นในด้านต่างๆของคุณได้มากขึ้น ก็อาจระบุไปด้วยได้
6.
เปิดเผย จริงใจ สุจริต (
Integrity)
เรื่อง ความซื่อสัตย์ ถือ เป็นค่านิยมข้อหนึ่งที่องค์กรชั้นนำของไทย ให้ความสำคัญอย่างมาก ผู้สมัครหลายคนละเลยกับเรื่องนี้ โดยปกปิดข้อเท็จจริงบางส่วน จะโดยเจตนา หรือไม่ก็ตาม เมื่อนายจ้างตรวจพบภายหลัง อาจนำมาซึ่งผลเสียตามมามากมาย เช่น การถูกให้พ้นสภาพพนักงาน เสียประวัติการทำงานไปเลยก็เป็นได้ ตัวอย่างเช่น การปกปิดประวัติการทำงาน กับสถานที่ทำงานบางแห่ง ที่เคยทำงาน การให้ข้อมูลบุคคลอ้างอิงที่บิดเบือน การแจ้งว่าได้รับวุฒิบัตรต่างๆ โดยที่ไม่ได้รับจริง จนหรือถึงขั้นกรณีที่ร้ายแรงมากๆ เช่น การปลอมแปลงวุฒิการศึกษา ซึ่งเริ่มมีให้เห็นบ่อยขึ้น คำแนะนำ คือ ให้ข้อมูลทุกอย่างตามความเป็นจริงที่ควรจะเป็น และเมื่อได้รับโอกาสให้เข้ารับการสัมภาษณ์ ก็ชี้แจงในประเด็นที่กรรมการสงสัยอย่างเหมาะสม เพื่อที่คุณจะได้เข้าทำงานได้อย่างภาคภูมิใจ และสบายใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาตามมาหลังจากบริษัทได้ตรวจสอบประวัติอย่าง ละเอียด เมื่อคุณเข้ามาเป็นพนักงานแล้ว
7.
รูปถ่ายที่สะท้อนบุคลิกที่เหมาะกับงาน (
Professional Image)
ภาพ หนึ่งภาพสามารถแทนคำพูดได้หลายร้อยคำ เราจึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องรูปถ่ายสำหรับสมัครงานอย่างมาก เพราะเป็นด่านแรกที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้คัดเลือก ทำให้เกิดแรงจูงใจที่อยากจะนัดหมายให้เราเข้าสู่การกระบวนการสัมภาษณ์ต่อไป รูปถ่ายที่ดี คือ รูปที่แสดงความพร้อมของเราสู่การทำงาน นั่นคือชุดทำงานสีสุภาพ หรือ สูท ซึ่งที่ร้านถ่ายรูปมืออาชีพหลายๆแห่ง มักจะมีไว้ให้บริการ (ควรหลีกเลี่ยงรูปในชุดนักศึกษาหรือใช้การตัดต่อภาพใบหน้าไปใส่ในชุดอื่น ซึ่งมักจะดูผิดธรรมชาติ)หลีกเลี่ยงการใส่เครื่องประดับมากเกินควร เช่น สร้อย ต่างหู ที่คาดผม กิ๊ฟติดผม เพราะไม่ส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อภาพลักษณ์ของคุณในจังหวะนี้ ใบหน้าอมยิ้มเล็กน้อย (ไม่ต้องถึงกับยิ้มเห็นฟัน) เพื่อให้แสดงออกถึงความเป็นมิตร หรือมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ตำแหน่งที่เป็นที่นิยมในการวางรูปถ่ายไว้บนประวัติส่วนตัวคือ มุมบนขวา คำแนะนำเล็กน้อยๆ สำหรับน้องๆที่จบใหม่ คือ ควรหาร้านถ่ายรูปที่เป็นเอกลักษณ์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่นิยม ราคายุติธรรม สามารถหาข้อมูลจากทางอินเตอร์เน็ต ดูร้านแนะนำ หรือสอบถามจากรุ่นพี่ หลีกเลี่ยงการไปถ่ายพร้อมกับเพื่อนๆจำนวนมาก โดยเฉพาะเพื่อนที่จะสมัครงานเดียวกับคุณ เพราะรูปจากร้านเดียวกันมักจะออกมารูปแบบคล้ายๆกัน ทำให้รูปของคุณขาดความโดดเด่น และไม่แตกต่างจากคนอื่น
เมื่อ เขียนประวัติส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย คุณควรมีการทดสอบตลาด ด้วยการนำไปให้ผู้อื่นอ่าน หากเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน จะยิ่งดี และขอคำแนะนำเพื่อการปรับปรุง การเขียนเอง อ่านเอง อาจทำให้เกิดอคติเข้าข้างตนเอง เนื่องจากเรามีข้อมูลเกี่ยวกับตนเองมากที่สุด ท้ายนี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณผู้อ่านจะสามารถนำเทคนิคต่างๆเหล่านี้ไป ประยุกต์ใช้กับการเขียนประวัติส่วนตัวของตัวเองและประสบผลสำเร็จในการได้ทำ งานที่มุ่งหวังไว้ในระยะเวลาอันสั้นต่อไป
ที่มา:
http://jobmarket.co.th/mustKnow/content_detail.php?dd=3545
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 พฤศจิกายน 2016, 21:46:29 โดย Master
»
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
แจกของฟรี
»
Job
»
งาน
»
เทคนิคในการหางาน,สมัครงาน,สัมภาษณ์งาน
»
เทคนิคการสร้างความโดดเด่นให้กับ Resume