ผู้เขียน หัวข้อ: พัดลมหมุนช้าหรือไม่หมุน  (อ่าน 2323 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anastasia

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 107
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
พัดลมหมุนช้าหรือไม่หมุน
« เมื่อ: 2 เมษายน 2017, 00:42:46 »
ช่วงนั้อากาศร้อนมากๆ ทำไมพัดลมมันหมุนช้าจังอ่ะ  เพิ่งสังเกตได้ก็ตอนอากาศร้อนจัดๆ นี่แหละครับ  เมื่อก่อนหน้าฝน หน้าหนาวแทบไม่ค่อยสนใจ นั่งถึงก็กดเปิดพัดลมเอาแค่ลมเบาๆ ก็พอ   แต่พออากาศร้อนจัดๆ เพิ่งจะมาสังเกตุว่าพัดลมเราหมุนช้ามากๆ

ที่บ้านพัดลมตั้งโต๊ะที่บ้าน  ซื้อมา 4  ปีแล้ว มีอาการหมุนช้ามากๆ กดไปเบอร์ 3 แล้วยังหมุนเหมือนเบอร์ 1 อยู่เลย   แกะมาทำความสะอาดก็แล้ว  ตรวจเช็คแกนหมุนก็ปกติไม่ได้ฝืดอะไร

เป็นเจ้าตัวนี้ครับ ยี่ห้อ MIRA พัดลมอิเล็กทรอนิกส์


   
 เครื่องมือที่ใช้ก็มี

1. ไขควงแฉก
2. คีมตัดหรือ Cutter ก็ได้
3. หัวแร้ง
4. ตะกั่วบัดกลี
5. ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือตัว C หรือตัว CAP นั่นแหละครับ
6. ส่วน Meter วัดไฟจะมีหรือไม่มีก็ได้ครับ  ไม่ค่อยจำเป็นผมเอามาเช็คเพื่อให้เห็นว่าตัวที่เสียเกิดจากตัว C  ครับ



นี่ครับตัว C  ราคา 20 บาท  ซื้อได้ที่ร้านอมร  หากใครมีโอกาสไปเดินบ้านหม้อก็อาจจะหาได้ในราคา 10-15 บาท   หรือร้านที่ขายอะหลั่ยเครื่องใช้ไฟฟ้า      แล้วแต่สะดวกครับ

 ส่วนจะรู้ได้อย่างไรว่าใช้ค่าแบบไหนสำหรับตัวที่เราจะซ่อม ก็ต้องถอดร์อพัดลมมาดูก่อนครับ  ซึ่งโดยทั่วๆ ไป (เกือบทุกยี่ห้อทุกรุ่น)  ก็จะใช้ค่า  1.5uF(Micro Farad)  400V   

แต่เพื่อชัวร์ก็ควรจะถอดรื้อดูก่อนครับ  หรือเอาตัวอย่างไปถามที่ร้านขายได้เลย  บอกคนขายว่า C พัดลมครับ


ขั้นตอนแรกก็ถอด ๆๆ ครับ

ก่อนที่จะถอดอย่าลืมดึงปลั๊กก่อนนะครับ  อันนี้สำคัญมากๆ

ทุกยี่ห้อของพัดลมเจ้าตัว C จะอยู่ติดกับ Motor ครับ  เพราะหากลากสายยาวไป  สายที่เพิ่มขึ้นก็อาจจะทำให้ค่า C เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้  เพราะฉะนั้นบริษัทผู้ผลิตก็จะเอาไว้ติดกับ Motor ครับ

โดยจะมีน๊อต 2 ตัว   ต้องถอดน๊อตตัวบนก่อน  จากนั้นก็ถอดตัวที่ท้ายครับ



หลังจากนั้นก็จะได้หน้าตาแบบนี้ครับ

ตัว C ก็คือที่ลูกศรชี้ไว้นั่นแหละครับ   ขันน๊อตตัดสายออกมาได้เลย  ไม่มีขั้วครับ  ตอนต่อกลับต่อยังไงก็ได้



เอามาตรวจวัดให้ดูครับ  ค่าที่ได้ของตัวนี้คือ

0.444 uF    ซึ่งค่าปกติจะเป็น  1.5 uF   เสียแน่นอน     

ซึ่งถ้าค่าน้อยกว่านี้อาจจะทำให้พัดลมไม่หมุนเลยก็ได้


*** ค่าที่โชว์ในรูปคือ  444.2 nF  (Nano Farad)  ซึ่งก็เท่ากับ   0.4442 uF  (Micro Farad)   ซึ่งก็คล้ายๆ กับ  1000 มิลลิกรัม  เท่ากับ 1 ครับ  1000 เท่ากับ 1 กิโลกรัม นั่นแหละครับ ซึ่งจริงๆ ค่าพวกนี้มันแบ่งย่อยได้ลงไปอีก        มิลลิ ---> ไมโคร ---> นาโน ---> พิโก้   ใครเรียนมาทางสายวิทย์อาจจะคุ้นเคย ****



มาดูพระเอกของเราครับ   

ค่าที่วัดได้คือ ....


1.543 uF  ครับ



จากนั้นก็ปอกสายไฟตรงปลายเพื่อพัดกลีครับ  ต้องระมัดระวังไม่ไปทำให้ส่วนอื่นๆ ของพัดลมเสียหายนะครับ  เพราะขดลวด motor จะเล็กมากๆ ขายเอาได้ง่าย

จริงๆ ขั้นตอนนี้ใครไม่มี หัวแร้ง ตะกั่ว ก็สามารถใช้วิธีการพันสายไฟได้ครับ  เพียงแต่ต้องพันเข้ากันให้แน่นหนาที่สุด  และหลังจากนั้นต้องพันด้วยเทปพันสายไฟอีกครั้ง อันนี้จำเป็นมากๆ นะครับไม่งั้นไฟช๊ดตเอาได้



เสร็จแล้วก็จัดเก็บตำแหน่งครับ  ขัดน๊อตยึดตัว C  หรือหากตัวใหม่ที่ซื้อมาไม่มีขาสำหรับยึดน๊อต เหมือนที่ผมซื้อมาก็ใช้กาวสองหน้าได้ครับ

จากนั้นก็ใส่ฝาครอบคืนตำแหน่ง  ใส่ขาที่สำหรับดึงให้พัดลมส่าย  คืนตำแหน่งครับ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2 เมษายน 2017, 00:48:28 โดย smf »

ออฟไลน์ anastasia

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 107
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พัดลมหมุนช้าหรือไม่หมุน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 2 เมษายน 2017, 00:49:52 »
จากนั้นเป็นอันเรียบร้อยครับ   ซ่อมพัดลมด้วยงบประมาณ 20 บาท  หากยกไปหาช่างก็ประมาณ 100-150 บาท

สำหรับใครที่เปลี่ยนตัว C ไปแล้วพัดลมยังไม่หมุน  (ส่วนคนที่หมุนช้านี่กลับมาปกติแน่นอน)   อาการเสียเป็นที่ Motor ค่อนข้างแน่ (ควรแกะฝาล่างดูว่าสายไฟขาดหรือเปล่าก่อนนะ  ต้องระมัดระวังหน่อยนะครับ)

อาการ Motor เสียค่าซ่อมประมาณ 200-300 บาท  ซึ่งดูเหมือนจะไม่ค่อยคุ้มสำหรับคนที่มีพัดลมตัวเล็ก ๆ ราคา 300-500 บาท

ลองซ่อมดูได้ครับ สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องพัดลม   อากาศร้อนๆ  ได้รับลมเย็นๆ  จะได้ใจเย็นๆ  อารมณ์ดีๆ กันครับ


ที่มา: คุณControl.A
http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2009/04/R7769346/R7769346.html

ออฟไลน์ anastasia

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 107
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พัดลมหมุนช้าหรือไม่หมุน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 28 เมษายน 2017, 11:52:20 »
จริงๆ อาการพัดลมหมุนช้า ไม่หมุนโดยมากเกิดได้จาก 2 สาเหตุก็คือ Motor เสียและตัว Capacitor ค่ามันเสื่อมหรือเสียนั่นแหละครับซึ่งโอกาสที่จะเสียมากที่สุดก็เป็นเจ้าตัว C นี่แหละครับ

ส่วนอาการอื่นๆ ที่อาจจะเกิดตัว C เสียได้อีกก็คือพัดลมไม่หมุนหรือต้อง Start ด้วยมือก่อนถึงจะทำงาน หรือ ทำงานไปซักพักก็ค่อยๆ หยุดจับตัว C เปลี่ยนได้เลยเช่นกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรจะตรวจเช็คดูก่อนนะครับว่าแกนหมุนไม่ได้ฝืดมากอันนั้นเกิดจากไม่ค่อยได้ถอดมาล้างทำความสะอาด เป่า ปัดฝุ่นบริเวณมอเตอร์เลยซึ่งควรทำเป็นประจำครับ 2-3 เดือนซักครั้งนึงหากเราใช้งานทุกวัน
ตั้งมิเตอร์ x10โอมห์ก็ได้ข้างหนึ่งจิ้มไว้ที่สายไฟเข้า(จากCสีดำๆ) อีกข้างจิ้มที่สวิทซ์ขาออก 1 - 2 - 3 ไล่ไป ถ้าเงียบ ก็แสดงว่าขาด
C เสีย ต้องเอามือช่วยหมุน เปิดเครื่องใหม่ๆก็ช่วยหมุนได้เลย
ถ้า Cดี แต่ต้องเอามือช่วยหมุน ทั้งนี้ต้องปล่อยให้ชุดสเตเตอร์(ขดลวด)ร้อนก่อน อันนี้ขดStartเสียไม่ไหม้ครับ แต่ขาด

ออฟไลน์ Master

  • [color=Turquoise][i]"อาจจะเหนื่อยล้าและมีผิดหวัง แต่ยังมีพรุ่งนี้ให้เราได้เริ่มกันใหม่ ทุกชีวิตที่อยู่ในเมืองนี้ สักวันก็คงได้สมดังใจ ... "[/i][/color]
  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 487
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พัดลมหมุนช้าหรือไม่หมุน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2017, 14:10:03 »
 

 
วันนี้พอดีมีพัดลมเข้ามาซ่อม  จึงได้โอกาสนำความรู้เกี่ยวเกี่ยวกับการซ่อมพัดลมมาฝากครับ
 
อาการพัดลมตัวนี้ไม่หมุนมาครับ  ขั้นแรกนำมิเตอร์มาเช็คก่อนครับ
 

 
     ก่อนอื่นตั้งมิตอร์  R X 10 ก่อนนะครับแล้วทำตามภาพครับ  เสร็จแล้วกดสวิทช์พดลม
 
เบอร์ 1 2 3  กดทีละเบอร์นะครับ เข็มมิเตอร์ต้องขึ้นนะครับ แต่ความต้านไม่เท่ากัน ถ้าไม่
 
ขึ้นให้เช็คสายที่ละจุดตั้งแต่ปลั๊กตัวผู้  ไปจนถึงมอเตอร์พัดลมเลยครับ
 

 
ภาพนี้แสดงการถอดใบพัดลมครับหมุนออกหมุนตามเข็มนาฬิกานะครับ
 

 
ภาพนี้แสดงการถอดตะแกรงใบพัดลมออกครับ
 
 
เปิดฝาปิดออกครับเพื่อเช็คสวิทช์ครับ
 
 
วงจรไฟฟ้าครับ
 

 
ไ้ด้สวิทช์แล้วครับ ใช้ย่านโอห์ม  R X 10 เช็คสายทุกจุดเลยครับ เช็คหน้าสัมผัส
 
ของสวิทช์ด้วยครับ
 
Cap พัดลมครับ ทำหน้าที่เพิ่มแรงบิดให้พัดลม ถ้าเสียมอเตอร์พัดลมจะสตาร์ไม่ออกครับ
วิธีเช็คก็ง่ายๆ ครับตั้งมิเตอร์ R X 10 นำสายมิเตอร์จับที่สาย Cap เข็มมิเตอร์จะขึ้่้นแล้วจะลด
ลงครับ ถ้าขึ้นค้างช็อตครับ ถ้าไม่ขึ้นขาด ต้องเปลี่ยนครับ ซื้อตามความจุเดิม  ตัวนี 1.5 uF
ครับ

 
ตังมอเตอร์ครับ สังเกตง่ายถ้าขดลวดมีสีดำไหม้ครับ หรือถ้าไม่ไหม้ ก็มีฟิวส์ที่ป้องกัน
 
ขดลวดขาด ต้องยี่ห้อดีๆนะครับถึงมีตัวละ สามร้อยกว่าบาทส่วนมากไม่มีครับ
 

 
   ภายในมอเตอร์ครับ  ที่ขดลวดติดอยู่เรียกว่าสเตเตอร์ครับ ตัวที่เป็นเพราเรียกว่าโรเตอร์ครับ ตัวเพราโรเตอร์นี้หมุนไปนานๆ จะสึกสังเกตง่ายจับเพราแล้วโยกถ้าขึ้นลงได้หลวม
 
แล้วครับต้องเปลี่ยนบูชคู่ไปด้วย ไม่งั้นเดี๋ยวก็พังอีก
 
   ถ่ายให้ดูบูชครับ รูตรงกลางนั่นแหละครับ ส่วนมากจะพังบ่อย ถ้าจับใบพัดลมหมุนแล้วฝืดใช่เลยครับพอได้ความรู้บ้างนะครับ ถ้าคนที่ไม่มีความรู้ด้านช่างเลยก็ค่อนข้างยากนะครับ อย่าลองผิดลองถูกต่อนะครับอันตราย ต้องดูตามวงจรให้ดีครับ

ที่มา: http://fix-the-electric-instruments.blogspot.com/2009/10/fan.html