ผู้เขียน หัวข้อ: บริการจัดการอาคาร : การบริหารอาคารเพื่อเพิ่มมูลค่า  (อ่าน 477 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,445
  • พอยท์: 100
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แม้จะเป็นทางเลือกของการลงทุนที่ค่อนข้างปลอดภัยและยิ่งถือครองระยะยาวยิ่งให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งมีความต่างจากการลงทุนในรูปแบบอื่นที่มีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจ เช่นการลงทุนในตลาดหุ้น หรือเงินฝาก ทำให้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่ชนะเงินเฟ้อที่สุด และกลายมาเป็นทางเลือกที่นักลงทุนรุ่นใหม่เริ่มหันมาถือครองอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่เพียงแค่ต้องหาข้อมูลด้านทำเล รูปแบบโครงการ ความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัย รวมถึงความน่าเชื่อถือของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลกับราคาของอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตอย่างมากก็คือ การได้รับการดูแลหรือการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อย่างดีให้คงสภาพเหมือนกับวันแรกที่ซื้อมา เป็นอีกตัวที่กำหนดราคาได้ การดูแลอสังหาริมทรัพย์และบริหารจัดการหรือที่เราเรียกว่า Property Management ให้มีสภาพเหมือนกับวันแรกที่เปิดโครงการสามารถทำได้จริง โดยโครงการมักต้องการบริษัทบริหารจัดการที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญ ซึ่งการได้รับการดูแลอย่างดีสามารถสร้างมูลค่าให้กับเจ้าของได้ หากเปรียบเทียบกับโครงการที่อยู่ทำเลใกล้เคียงกัน อายุของโครงการไล่เลี่ยกัน แต่ได้รับการดูแลบริหารจัดการที่แตกต่างกันก็พบว่าราคาของโครงการที่ขาดการดูแลอย่างมืออาชีพนั้นราคาขายต่อไม่ได้มีความโดดเด่นแต่อย่างใด

เช่นโครงการที่มีการบริหารจัดการที่ดีอย่างบ้านไข่มุกหัวหิน ที่มีอายุ 28 ปีแล้ว ถือเป็นโครงการที่ได้รับการดูแลอย่างดีและมีราคาปรับขึ้นมาอย่างน่าสนใจ จากราคาที่ซื้อวันแรกที่ 7 ล้านบาท มาเป็นราคา 80 ล้านบาทในปัจจุบัน หรือพูดง่ายๆว่าราคาเพิ่มกว่า 10 เท่าตัว ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแห่งนี้ยังถือว่าเป็นโครงการที่เจ้าของร่วมมีความรักและผูกพันกับที่อยู่อาศัยและมีการขายต่อเปลี่ยนมือน้อยมาก เพียง 9 ห้อง และอีกตัวอย่างคือ บ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67 ถึงแม้จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีอายุถึง 12 ปี แต่จากการดูแลที่ดี ให้ความสำคัญกับความร่มรื่นของต้นไม้ และทุกจุดต้องมีการซ่อมแซมให้ดูใหม่อยู่เสมอ ปัจจุบันราคาราคาขายต่อ อยู่ที่กว่า 50 ล้าน สำหรับบ้านขนาด 82 ตาราวา (ขนาดเล็กสุด) จากราคาตอนเปิดโครงการที่ 27 ล้าน โดยบ้านแสนสิริ 67 มีการดูแลให้ใหม่อยู่เสมอ รวมถึงมีการบริการที่เอาใจใส่และรู้ถึงความต้องการของลูกค้า สำหรับด้านการบริหารจัดการมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ ตามมาตรฐานอายุการใช้งาน ถึงแม้จะยังใช้ได้อยู่ก็ตาม หรือหากเป็นเครื่องจักรใหญ่ๆที่มีราคาแพง พ้นอายุการใช้งานแล้วยังใช้ได้อยู่ ก็มีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้ทั้ง 2 โครงการมีราคาปรับขึ้นมาอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับโครงการในทำเลโซนเดียวกัน และก็ยังมีอีกหลายๆโครงการที่อายุกว่าสิบปีแต่ยังมีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง


บริการจัดการอาคาร : การบริหารอาคารเพื่อเพิ่มมูลค่า คลิ๊กที่นี่ http://snss.co.th/dt_post/technical-services/