สมัยผมยังเรียนหนังสืออยู่ ผมเดินเที่ยวกับเพื่อนผู้หญิง มันแวะทุกร้านเลยอ่ะครับ ผมเลย มองเข้าไปร้านนึงปรากฏว่าเค้าขาย หินฑิเบต อ่ะครับ สมัยก่อนแพงนะ ถ้าเม็ดใหญ่อ่ะ ผมขออนุญาตเจ้าของร้าน ถ่ายรูป แล้วผมก็เอาไปลงขายใน Internet เนี่ย ปรากฏว่า ผมขายได้เส้นละ 800 บาทเลยอ่ะครับ ทั้งๆ ที่ต้นทุนแค่ 240 บาท ผมขายโดยที่ไม่มีทุน
พอลูกค้าโทรกริ๊งมาปุ๊ป ผมก็ให้เค้าโอนเงินมาก่อน แล้วผมก็เอาเงินเค้าไปซื้อของจากร้านค้า เท่ากับว่า ผมจับเสือมือเปล่าเลยอ่ะแบบนี้
ทะเลาะกับพ่อค้าเมื่อก่อนอ่ะ ผมชอบไปซอยละลายทรัพย์ สีลมอ่ะ โห! ของถูกด้วย แล้วดีอีกต่างหาก
แต่ตาต้องถึงนะ บางทีของก็อปตูม ผมไปเจอรองเท้า Nike สวยมากๆ ของแท้ด้วย
จำได้ว่าราคาในห้างขายอยู่ ที่ราคา 5,500 บาท พ่อค้าคนนี้บอกว่าขาย 5,000 บาท
ผมต่อเหลือ 3,500 บาทถ้วน เค้าไม่ให้ผมด้วยนะ แล้วตอบกลับมาว่า ต่อเก่งขนาดนี้
ไปซื้ิอร้านอื่นเหอะ! ผมก็พยายามใจเย็นๆ กฏพ่อค้าข้อแรก คือต้องใจเย็น ผมเลยโอเคงั้นผม
ขอถ่ายรูปได้ไหมล่ะ เดี๋ยวผมจะส่งไปให้พี่ที่อยู่ต่างประเทศดู (ที่จริงผมอำ) size มันไม่ใช่
size ผมด้วยแหละ มีการไม่ให้ด้วยนะ ผมเลยแกล้งทำท่าว่าจะลุกไปซื้อร้านอื่น แต่มันไม่เรียก
ผมเลยอ่ะ ผมเลยเดินออกไป แล้วผมก็เดินคิดไปคิดมา สุดท้ายเลยต้องซื้อที่ราคา 4,500 บาท
ผมเริ่มคิดว่าต้นทุนมาแพงขนาดนี้ แล้วผมจะขายยังไงดี ลงประกาศขายที่ราคา 6,000 บาท
ให้ทุกคนทายครับว่าผมขายได้ไหม?
ผมประกาศขายอยู่ 20 กว่าวัน ทุนผมก็จม ถ้าผมยอมขาดทุนตอนนี้ ก็อาจจะทำให้ผมรอดได้ ไม่มีเงินจะกินข้าวแล้ว ผมขายได้ช่วงสิ้นเดือนพอดีเลย มีคนทำงานที่อยู่ กทม. มาซื้อถึงหน้าบ้าน ผมเลย คราวนั้นผมนึกว่าซวยแน่แล้วจริงๆ
การขายของผมทั้งหมดนี้ มันมาจากประสบการณ์ตรงจริงๆ ครับ
ผมคิดแบบนี้นะว่า โลกอินเตอร์เน็ต มันดีตรงที่ว่า ไม่ต้องเปิดร้าน ไม่ต้องสต๊อกของ เผลอๆ กำไรหลายพัน % เลยก็มีลองคิดดูนะครับสำหรับ คนที่กำลังท้ออยู่ ก็ขอให้ลุกขึ้นมาครับ
อย่าพึ่งหยุดหาเงินจาก Internet เลยมันมีช่องทางเยอะมากๆ จริงครับ "ลองเสกเงินจากอากาศ"
กันนะครับ คนที่บ่นว่าไม่มีเงิน กลัวนู่น กลัวนี่อยู่ ลองวิธีผมดูครับ ตอนนี้ผมลงประกาศขายสินค้า
ชิ้นนึงในเวบๆ นึงของไทย อยู่ลูกค้าบอกผมว่า วันที่ 27 นี้จะมาซื้อที่บ้านผม ถ้าขายได้จะมาส่งข่าวครับ
กำไรฟันไม่ต่ำกว่า 250% ครับ
ภาคที่ 2วิธีจับเสือมือเปล่า ขายให้เพื่อน
ของผมมันมีหลายวิธีเลยอ่ะครับ บางทีหาของใกล้ตัว เช่นเรามีเพื่อนฝูงเพื่อนผู้หญิงนี่ตัวดีเลยอ่ะครับ
ชอบเปลี่ยนอะไรอยู่บ่อยๆ เช่น มือถือ ผมก็ไปขอถ่ายรูปลงเวบ อีกเหมือนเดิม พอลูกค้าสนใจเราก็เอา
มาขายครับ จับเพื่อนไปด้วยก็ได้ตอนขายอ่ะครับ (สงสััยกลัวเราชิ่ง) 555+ นี่ก็เป็นการหากำไรจาก
เพื่อนฝูงครับ แต่ว่าวิธีนี้ไม่ค่อยได้กำไรเท่าที่ควรเพราะว่่า มีเพื่อนไปด้วยอ่ะครับ ต้องให้เราเป็นคนจัดการ
สินค้าชิ้นนั้นเองเลย เพราะว่า เราสามารถ + ราคาเท่าไหร่ก็ได้ แล้วบอกเพื่อนไปอีกราคานึง...(รู้มีเคืองนะนั่น)
ผมเคยขาย N72 ให้เพื่อนที่ห้องคนนึง มันบอกว่าจะขายราคา 5,000 บาท มือ 2 นะครับ ผมบวกกำไร
ไปอีก 1,500 = 6,500 บาทนี่ก็เป็นอีกวิธี
ขายอยู่นานทำไมขายไม่ออก
เพื่อนเคยฝากผมขาย PS2 อยู่นานมาก เครื่องนี้เสียนะครับ ซ่อมมาแล้ว จอยก็ไม่มี มีแต่เครื่องอย่างเดียว
ขายอยู่ 1,500 บาท ผมเองค่อนข้างหนักใจกับสินค้าชิ้นนี้มากๆ ว่าจะทำยังไงดีถึงจะขายได้ ผมเลยเริ่มคิด
หาคนที่จะแลก ช่วงนั้น MP4 มาแรงผมก็เลยลงโฆษณาไปว่ารับแลกกับ MP4 เท่านั้นแหละครับ โทรมาหลาย
คนผมก็เลยได้ยี่ห้อ samsung มา 2 GB + หูฟังโคตรดี ผมก็เลยขายได้ทั้งชุดนี้ 2,300 หนนั้นเป็นหนที่ผม
เสี่ยงตายไปอีกหน นึกว่าจะกินแห้วซะแล้ว ขายไม่ได้ตรงๆ อ้อมๆ เอาก็ได้ครับ
กำไรมากที่สุดในชีวิต
ตอนผมอยู่ ปวช. ผมไปเดินแถวคลองถมบ่อยๆ ผมไปเจอแจกันที่มาจากเมืองจีน สูงเท่าผมเลย เค้าขายอยู่ที่
5,000 บาท (แจกันที่ใช้ในท้องพระโรงในหนังจีน) ผมขายในเวบไทยเนี่ยแหละ ให้ทายว่าผมขายได้ที่ราคาเท่าไหร่
5,500 --> 10,000 ---> 20,000 --> 30,000 ---> 40,000 --> 50,000 บาทครับ
ผมขายสินค้านั้นที่ราคา 50,000 บาทครับ ถือว่าเป็นสินค้าที่ได้กำไรที่มากที่สุดในชีวิตเลยครับ ลองหาสินค้าแบบนี้
สักเดือนละ 2-3 ชิ้น เราจะรับเท่าไหร่ครับ คิดกันอาเอง.....
ภาคที่ 3ขาดทุนแปรเปลี่ยนเป็นกำไรได้ยังไง
ผมไปเสี่ยงกับตลาด Notebook ผมไม่ค่อยรู้อะไรที่เกี่ยวกับ Hardware + software สักเท่าไหร่?
เสียก็ล้างเครื่องตลอด ผมได้ถามเจ้าของร้านว่าถ้าขายจะได้เท่าไหร่ ผมไปซื้อ Acer มา 17,000 บาทมา
(มือสองผมโดนหลอกขายมาครับ) ทางร้านซ่อมตีราคาผมแค่ 8,000 บาทเองอ่ะ ผมขาดทุนเท่าตัวเลยนะนั่น
ซ่อมก็ยังรวนอยู่ครับ เห็นบอกว่า Mainboard พังผมเลยคิดจะแยกชิ้นส่วนมาขายเลย แต่ทางร้านก็ตีให้ผม
เท่าราคาเค้าที่ตีมาตอนแรก คือ แปดพัน ลงขายเน็ตรอมาประมาณ เดือนนึงก็ยังขายไม่ได้ นานแล้วด้วย
ผมยอมขาดทุนขายไปที่ราคา 13,000 บาทขาดทุนไป 4,000 บาทจะเก็งกำไรดันไม่เป็นอย่างที่คิด
เดือนนั้นผมคิดอยู่นานว่าจะอยู่ได้ยังไงถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ ผมเลยไปบ้านเพื่อน ในใจก็คิดนะว่าจะทำยังไงดี
ตอนนั้นผมมีเงินเหลือติดตัวไม่ถึง 9,000 เลยมั้ง เหลือบไปเห็นจอโปรเจคเตอร์ sony 42"พอดี ฝุ่นเกาะกึ๊ก
ถามเลยว่า เฮ้ย! ขายเปล่าเนี่ย มันบอกว่าขาย เข้าทางเลยนะนั่น มันถามกลับว่าได้เท่าไหร่ ผมบอกว่าเดี๋ยวนี้
มันออกมาเป็น LCD มาหมดแล้ว จะขายก็ลำบากอีกอย่างของคุณน่ะหนักด้วย ใครจะมาซื้อวะ แต่ที่จริงผมรู้มา
ว่าราคา 20,000 สบายๆ (ในช่วงนั้นนะ) เอางี้ละกันเดี๋ยวผมไปถามคนรู้จักให้ละกัน (ที่จริงผมจะลงขายในเวบ)
คุณจะเอาราคาเท่าไหร่อ่ะ มันบอกขอสัก 10,000 บาทละกัน ผมก็เลยโอเคเดี๋ยวถามให้ละกัน เสร็จปุ๊บ
ผมกลับบ้านมาคิดและว่า ของหนักขนาดนั้น ถ้าให้คนในเน็ตไปเจอกับเพื่อนผมนี่ความแตกแน่ๆ ว่าผมขายได้
20,000 up ทำไงดีผมจะได้กำไร 10,000 นึงนะผมเริ่มคิดและสุดท้ายก็บอกให้เพื่อนผมยกมาที่บ้านผมเลย
โดยให้เหตุผลผมขอเวลา 3 วันถ้าผมขายไม่ได้ผมให้คุณ 2,000 ละกันเป็นค่ายก+ค่าเสียเวลา เพื่อนผมรีบยกมาเลย
พอถึงวันที่สองผมขายไปได้ที่ราคา 23,000 บาทเท่ากับว่าผมได้กำไร 13,000 บาทเลยนะนั่น หักลบกับ
Notebook ที่ขาดทุนของผมไปอีก 4,000 บาทอีก (ซื้อมา 17,000 ขาย 13,000 = -4,000)
Projecter (ซื้อมา 10,000 ขายได้ 23,000 = +13,000)
เท่ากับว่าเดือนนั้นผมกำไร 9,000 บาทแทบหืดขึ้นคอ นี่แหละครับ
อย่าได้ริไปลองกับตลาดที่เราไม่ชำนาญอาจโดนงาบได้
ภาคที่ 4วิธีเหนือเทพ
วิธีนี้ผมไม่เคยเปิดเผยที่ไหนเลย ที่นี่ทีเดียวและที่แรกครับ อาจจะต้องใช้ search engine เก่งพอตัวนะครับ
ทำยังไงอ่ะ เราก็สืบข้อมูลมาก่อนว่าเราอยากจะขายอะไร มีเว็บไหนบ้างที่ขายถูกที่สุด ผมเคยขายตุ๊กตาแอ็บแบ็ว
ได้ ตุ๊กตาบลายน์ สะกดงี้รึเปล่าไม่รู้...ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันดียังไง เห็นดาราชอบเล่นกันจริง ผมหาข้อมูลแล้ว
ขายตัวละ 5,000 บาทแน่ะ ตัวที่เค้านิยมอ่ะครับ (เมื่อหลายเดือนก่อน) เอาแล้วไงต้นทุนมาแพงและ ผมก็เลยไป
ติดต่อในเวบเคาขายให้ผมตัวละ 3,200 บาท ตกกำไรตัวละ 1,800 บาท ผมก็เลย Copy รูปของเวบที่ขายอยู่
3,200 เนี่ยแหละเอาไปลงโฆษณา แล้วขายไปที่ราคา 5,000 บาท เสร็จคราวนี้ลูกค้าสั่งของมา เราก็ให้เค้าโอนเงิน
เข้ามาบัญชีเรา เราก็ไปกรอกชื่อที่อยู่ของลูกค้าในเวบราคา 3,200 บาท คราวนี้ถึงตอนส่งของเราก็ให้เวบราคา 3,200
ส่งไปหาลูกค้าโดยตรงเลย นี่เป็นตัวอย่างครับ
ลูกค้าสั่ง order --> ชำระเงิน --> เราได้เงิน --> ไปกรอกชื่อที่อยู่ของลูกค้าในเวบที่เราจะซื้อ
--> เวบที่เราสั่งจะส่งของ --> เวบที่เราจะซื้อจะส่งสินค้าไปบ้านลูกค้าโดยตรงเลย
วิธีนี้ไม่ต้องออกไปนอกบ้านเลย ขอแค่มี Internet ก็ใช้ได้แล้วครับ
ส่วนใหญ่แล้วผมจะไม่บอกลูกค้านะว่าซื้อมาเท่าไหร่ไม่งั้นความแตกแน่เลยครับ
อีกอย่างนึงไอ้พวกส่งของพวกนี้ฉลาด มันปั๊มชื่อเวบลงไปในพัสดุเลย ผมเลยต้อง
แก้ปัญหาเองอีก ให้เวบส่งของมาที่บ้านผมก่อน สกีนของก่อนว่ามีอะไรที่สาว
ไปถึงเวบรึเปล่า บางทีมีแกะมาดูมีแปะชื่อเวบมาในสินค้าอีก
ภาคที่ 5เน้นสินค้าทุกราคา ทุกอย่างที่เราหาได้ ของปลอมของจริงเอามาขายให้หมด
ผมไปคลองถมมา เป็นตลาดสินค้าราคาถูกมากๆ กลัว (atoz) เจนจะไม่รู้จัก เพราะอยู่ออสเตเลีย
เดินไปเดินมา โอ๊ะ!! เจอสินค้าเป็นนาฬิกา Seiko 2 กษัตริย์ สวยมากแต่ของปลอมครับ ก็อบเกรด A เลย
ผมพอดูออกนิดหน่อย เค้าขายผมอยู่ที่ราคา 2,400 บาท โห! ราคาเย้ายวนจริงๆ ผมบอกว่าลดได้เท่าไหร่
เค้าบอกว่าไม่ได้ราคทุนเลยนะนั่น ไม่ได้เลยสักบาท เวรกรรม!! ใครจะเชื่อ ขายไม่ได้กำไรจะขายทำไมอ่ะ
ผมบอกว่างั้นไม่ไหวอ่ะครับ จะเดินไปดูร้านอื่น เจ้าของจับข้อมือผมแล้วบอกว่า น้องมีเท่าไหร่อ่ะ โห! ถามนักเลง
ผมบอกว่ามี 800 บาทอ่ะ เค้าบอกว่า ถ้าค้นเจอเอาหมดนะ ผมเริ่มโมโห! แล้วสวนกลับไปว่า ก็ลองมาค้นผมดิ
พี่ขายของแบบนี้ผมแจ้งตำรวจนะ ข้อหาข่มขู่อ่ะ เค้าบอกว่า พี่ไม่ได้มีเจตนาอย่างงั้นน้องใจเย็นๆ ก่อนนะ เสียงอ่อย
เลยเจอไม้ตายผมไปหนึ่งดอก 555++ อ่ะน้องไหวเท่าไหร่ ผมก็บอก 800 ราคาเดิม งั้นถือว่าช่วยพี่หน่อยละกัน
2,200 ละกัน ผมยืนยันราคาเดิม 2,000 --> ไม่ไหวครับ --> 1,800 --> 1,500 -->1,200 --> 1,000
อ๊าๆๆ ---> 800 ก็ 800 โห! ผมงงเลยนะั่นั่น ไรอ่ะ เมื่อกี้บอกราคาทุน 2,400
เซ่อๆ ซ่าไปเนี่ยมีสิทธิ์หมดตัวเลยนะนั่น
ตามสไตล์ผมเหมือนเดิม ขายในเน็ตขายได้ที่ราคา 2,400 ฟันกำไรไป 3 เท่า ค่อยยังชั่วหน่อย
ภาคที่ 6ภาคโคลนนิ่งคุณพ่อผม
ผมเอาแต่พูดถึงเรื่องแฟนผมอย่างเดียวเลย เดี๋ยวคุณพ่อผมท่านจะน้อยใจเอาอ่ะ
คุณพ่อผมท่านค้าขายครับ เกี่ยวกับเครื่องเสียงและลำโพงบ้าน แต่ขายแต่พวกของ
ต่างประเทศนะ เช่น JBL , Infinity แบบที่เป็น Hi-end มันมีของชิ้นนึงที่ตลอดเวลา
ที่เคยค้าขายมายาวนานถึง 30 ปี ไม่เคยได้สินค้าชิ้นนี้เลย มันเป็นลำโพง Paragon อ่ะครับ
เมืองนอกขายอยู่หลายแสน เมืองไทยไม่มีใครหามาเล่นเลย ผมเลยบอกกับคุณพ่อว่า
เดี๋ยวผมหาข้อมูลให้ละกันครับ สรุปเมืองไทยเคยขายไปหลายปีก่อนที่ราคา 75,000 บาท
ผมก็ให้คุณพ่อตั้งราคาขึ้นมาเองเลย แล้วก็ขายที่ xxx,xxx ให้ทายละกันครับ
ว่าผมขายไปที่ราคาเท่าไหร่ วิชาที่ผมเอามาถ่ายทอดคุณพ่อผมนั้น เป็นวิชาโคลนนิ่ง
คุณพ่อผมมาเลย แต่ดัดแปลงเข้ากับ Internet แค่นั้นเองครับ
เมื่อหลายเดือนก่อนผมเอาสินค้าของคุณพ่อที่ขายยากๆ ไปลงอินเตอร์เน็ตฟันกำไรไม่มากครับ
แค่ 50-60% แค่นั้นเองครับ ได้ค่าข้าวแล้ว...
ภาคที่ 7เมื่อผมเก็งตลาดผิด โดนหลอกหายไปเป็นแสน
ผมเคยไปติดต่อบ้านหลังนึง เพื่อจะเป็นนายหน้าขายบ้านให้ เห็นใน Internet มาครับ
บ้านหลังนั้นราคา 4.5 ล้านบาท เค้าให้ค่านายหน้าผมที่ราคา 200,000 บาท ถือว่า
ผมรับเละเลยนะนั่นแต่การขายในโลก Cyber ผมว่ามันยากมากเลยนะ ถ้าเป็นเรื่องอสังหาเนี่ย
ผมนัดเจอ กับ คนซื้อและคนขาย โดยผมพาคนซื้อไปบ้านคนขายเลย แล้วตกลงกันเลย
คนซื้อบอกว่าขอกลับมาคิดดูก่อน นี่ล่อไปประมาณ 10 วัน สรุป เค้าไปคุยกันเองเลย
แอบไปซื้อขายกันเองผมล่ะ เซ็งไปเลย หลักฐานอะไรผมก็ไม่มี จะไปแจ้งความก็ไม่ได้
ขาดทั้งพยาน และ หลักฐาน สรุป เจ็บใจไปเลย หลายคืน นึกว่าจะมีลุ้นซะแล้ว
งานกร่อยไปเลยเรา...
ดังนั้นขายบ้านนี่ต้องมีทำสัญญา เป็นนายหน้าเลยครับ
ค่าคอมตามกฏหมายน่าจะ 3% (ป่ะครับ)
ภาค 8ซื้อของโจรรึเปล่าไม่รู้
เมื่อก่อนเพื่อนผมอยากได้ไวโอลินตัวนึง งบไม่เกินราคาไม่เกิน 6,000 บาท
แบบธรรมดาๆ เลย ผมก็เลยลงโฆษณาไปว่าต้องการไวโอลิน คราวนี้มีผู้ชาย
เสียงวัยรุ่นโทรมาบอกว่าจะขายให้ผม ฟังๆ ดูแล้วเหมือนกับว่าพูดจาวกไป
วนมายังไงไม่รู้ผมถามกลับว่าพี่เคยเล่นไวโอลินรึเปล่า เค้าบอกบอกว่าเล่นอยู่
ประจำ แต่ช่วงนี้ร้อนเงินเลยจะขาย ผมนัดสถานที่แล้วไปเจอเลยครับ ปรากฏว่า
เป็นห้องเช่า ห้องโล่งมากๆ ไม่มีเฟอร์ หรืออะไรเลยสักชิ้น มีไวโอลิน+Bow
(แต่ไม่มีกล่อง) แล้้วก็มีวัยรุ่นอยู่ประมาณ 3-4 คน เมื่อก่อนเพื่อนผมสีไวโอลินใ้ห้ฟัง แล้วสอนผมด้วยเลยรู้งูๆ ปลาๆ ครับ แต่ผมสีไม่เป็น ก็เลยหาข้อมูลก่อนออกจากบ้าน ไปว่าคอร์ดไหน เรียกอะไร ผมถามเจ้าของไวโอลินเลยว่า พี่ผมสีไม่เป็นอ่ะ รบกวน สีคอร์ด EB major ให้ฟังหน่อย เค้าอึ้งนิดหน่อย บอกว่าลืมไปแล้ว อ้าวงั้นไม่เป็นไรครับ
แล้วไม้นี่เค้าเรียกว่าอะไร เค้าบอกว่าไม้ไงน้อง เอาไว้สี (ที่จริงเค้าเรียกว่าคันชัก)
ดูเหมือนลุกลี้ลุกลนยังไงไม่รู้ ถามว่าน้องเอาเปล่า พี่ขายให้ 5,000 ผมเห็นท่าไม่ดี
เลยปฏิเสธไปว่า พี่ผมเอาเงินมาไม่พออ่ะครับ เดี๋ยวผมไปยืมมาเพื่อนก่อน แล้วเดี๋ยว ผมกลับมาซื้อใหม่ครับ หลังจากนั้นผมลงลิฟท์มาปุ๊ป ผมสับเลย แล้วเค้าก็โทรมาบ่อยๆ มากๆ ผมเลยไม่รับสายอีกเลย หนนั้นผมเสี่ยงตายสุดเลยอ่ะ
credit: มาเฟียอินเลิฟ
http://forums.thaisem.com/index.php?topic=9618.0