ผมมีร้านขายแซนวิชอยู่แล้วร้านนึงครับ อยากจะสอบถามเพื่อนๆถึงวิธีการยายตลาดและช่องทางการขายให้คนทั่วไปรุ้จักมาก ยิ่งขึ้น ยังงัยได้บ้างครับ นอกจากขายบริเวณแถวๆนั้นอย่างเดียว
ตอนนี้ วิธีที่คิดออกก็เช่น การเสนอขายให้กับการประชุม สัมนาต่างๆ ,ขายส่งให้ร้านกาแฟ
แถวสี่แยกบ้านผมเห็นมีคนเอาแซนวิชมาใส่ถาดเดินขายตอนเช้าด้วยครับ ขายชิ้นละ 20 บาท
คนซื้อเยอะด้วยครับเห็นแกะทานกันระหว่างรอรถติด
ผมมีแนวให้ท่านะครับ ท่านต้องมองให้ออกครับว่าท่านจะลุยตลาดกับลูกค้าแบบไหน เอาเป็นว่าในที่นี้ผมแนะนำเด็กนักเรียนครับ (ไปหากินกับเด็กกันเหอะ) คือการขยายท่านอาจจะใช้ ลูกจ้างแทนก็ได้ครับ ไปตามหน้าโรงเรียนทุกโรงเรียน ตามเวลา เช่น เช้าและเย็น และท่านก็กำหนดตายตัวว่าแต่ละโรงเรียนเราจะขายได้เท่าไหร่และพยามยามหาวิธี ดันยอดขายครับ และนำมารวมๆกัน ยกตัวอย่างให้ครับ เช่น ตอนนี้ที่ผมทำคือ ขายน้ำปั่น (เอาอันนี้ละกันความจริงมีเยอะมาก)
จ.ผมมีโรงเรียนอยู่ใน ตัวเมือง 5 โรงเรียน ผมได้นำน้ำปั่นไปขาย โดยกำนหนดราคาขายที่แก้วละ 20 บาท (เป็นน้ำป่ันวัยรุ่นใส่วิปครีมใส่เครื่องสวยๆแถมปักปอริโกะแท่งและขนมแท่ง อีก1โรยด้วยคลอนแฟล็ก ซึ่งขายได้เรื่อยๆ (แต่อันนี้ผมไม่สามารถขายได้ในวันฝนตก)
[a]จังหวัดผม 5 โรงเรียน
นมปั่นขั้นต่ำ วันละ 50 แก้ว
[c]ราคากำไรหักค่าต้นทุนขั้นต่ำแก้วละ 10 บาท
[a]xx[c] = 500*5 = 2500 บาท
ถ้าเดือนหนึ่งมี 30 วัน หักวันหยุดและวันเผื่อๆฉุกเฉิน 10 วัน จะเหลือ 20 วัน
20 x 2500 เดือนหนึ่ง จะได้กำไรเหนาะๆ 50000 บาท หาก 1ปีทำ 10 เดือน ก็จะมีกำไร อยุ่ที่ 500,000 บาทต่อปี (อาจจะติดหน้าฝนเพราะผมเป็นน้ำคุณแซนวิทไปตั้งขายแถวๆเด็กรอฝนเลยจร้า หากร้อนๆเด็กก็อยากซื้อ) นี่คือขั้นต่ำ ที่ผมทำได้
ที่นี้เรามาดู ว่าหากจะทำได้คุณต้องทำอย่างไร ผมนั้นต้องจ้างเด็กมาขาย 2คนต่อ 1 ร้านของผม ค่าจ้างผมให้ตามที่เรียนมา จบม6ผมให้ 250 จบปริญญามาผมให้ 300 (ทำงานแค่5-6ชมต่อวัน)
มีโบนัสให้หากขายได้เกินที่กำหนด โบนัสผมคิดเป็นรายเดือน (ก็เอายอดที่ขายได้เกินที่กำหนดหักให้ไป บางราย เงินเดือนหนึ่งได้ 7500 ได้ค่าขายเป็นเงินเดือน 15000 ) ผมบอกเพื่อนร่วมงานว่ากฏง่ายๆ หากครบ 50 แก้วแล้วที่เหลือผมจะนับเป็นโบนัสรายเดือน โดยให้ที่กำไร50% คือแก้ว20บาท ผมหักดื้อๆ 12 บาท ส่วน 8 บาทผมแบ่งให้คนละครึ่ง เป็นโบนัสรายเดือน
ซึ่ง เอาจริงๆผมไม่ได้ขายได้ที่50แก้วต่อ รร. หรอกท่าน ได้เยอะกว่ามาก แบบนี้ยังไงก็ไม่ขาดทุน แล้วหากท่านหาเป็นหลักเป็นแหล่งได้อีก ก็จะได้เพื่มที่เหลือมาเช่น ตลาดนัด ตลองถม หรือร้านต้าทั่วไป และต่างอำเภอ เพระาท่านเป็นขนมปัง
สุดท้ายนี่คือแนว ทางแนะนำ แต่ท่านจะเอาไปใช้หรือไม่เป็นเรื่องที่ท่านต้องคิด เพราะอย่ามองแต่เรื่องได้ บางครั้งมันก็ต้องเสียอะไรเหมือนกัน แนะนำเฉยๆครับ ปล.ผมขายหมูยาง ลูกชิ้นไส้กรอกปิ้ง ไอสครีม ด้วยนะเออ ลูกน้องร่วมงานอยุ่ตรงกันข้ามกันขายของให้ผมบางทียังไม่รุ้เลยว่ามาจากเจ้าของคนเดียวกัน แถมอีกนิด ปล.ผมไม่เคยบอกใครว่าผมเป็นCEOอีกเช่นกัน เพราะเราจะได้เข้าไปตรวจสอบได้ง่ายๆ ผมบอกว่าผมเป็นแค่ลูกจ้างเหมือนกันอิอิเขาจ้างมา (บางทีโกหกก็ไม่ดี แต่อย่างน่้อยเราจะได้รุ้จักทุกคนมากขึ้น)
ขอสอบถาม่หน่อยครับ จะคอยคุมเรื่อง การขโมยเงินได้ไงครับ ถ้าของเป็นชิ้น เราจะนับได้ว่ามีกี่อัน ขายได้กี่อัน และได้เงินกี่บาท สามารถเช็คสต๊อกได้ แต่นี้เป็นของที่ไม่ใช้เป็นชิ้น "เป็นนมปั่น" แล้วจะเช็คได้ไงครับ ว่าวันหนึ่งเขาขายเท่าไหร่ เป็นเงินเท่าไหร่ แล้วเงินที่เขาให้เรา คืนเงินทุกบาททุกสตางค์หรือไมครับ
เป็นคำถามที่ดีครับ เพิ่งตื่นจะเตรียมออกไปขายของ คือเมื่อปีที่แล้วผมมีปัญหามากสำหรับ ขยายกิจการ อย่างที่บอกตอนผมขายหมู หมึก ไส้ กรอก ย่าง มันไม่ลำบากอะไรเลยเพราะมันเป็นไม้ๆ ลูกน้อง(ผมขอใช้คำว่าเพื่อนร่วมงานนะครับ) ก็ขายให้ได้สบายๆไม่มีปัญญาอะไร เพราะเช้คเงินกับจำนวนขายได้ไม่ยากเย็น แต่ หากเป็นน้ำผมตอนแรกผมคิดไว้หลายวิธี แต่สุดท้ายมาลงเอยที่การล็อควัตถุดิบเหมือนการใส่บาตพระ(ผมได้แนวคิดนี้จาก การไปตักบาดเทโวปีที่แล้ว แล้วบังเอิญนึกขึ้นได้ว่าทำไมเราไม่ใส่พวกผงต่างๆเป็นซองเหมือนกาแฟซอง) แล้วผมก็นำถุงเย็นขนาดเล็กที่สุดมาซีนถุงผ่ากลางทำให้ได้ถุงสองถุงแล้วนำผง ของน้ำรสต่างๆลงไปแล้วซีนปิด(ตอนแบ่งไปตั้งร้านขายผมก็นับจำนวนของแต่ละชุดๆ ได้งายๆแถมลูกจ้างไม่รู้สูตรเราอีก เช่นผงมอลผสมโกโก้ผสมผงบานาน่า ก็จะได้"มอลช็อกโกแอนบานาน่า") ส่วนพวกกล้วย แอบเปิล ไข่มุก และครอนแฟล็ก และอื่นๆ ผมเอาใส่กระปุกกลมๆใสๆไว้ และคำนวนก่อนไปตั้งให้แล้วว่ากระปุกนี้จะตักได้กี่แก้ว (เขาจะทำตามเราบอก เพราะเทรนมาแล้ว และหากขายไม่คุมจำนวนก็จะไม่ได้โบนัสในแก้วที่เกิน50) แต่ไม่ต้องกลัวว่าเด็กๆน้องๆจะเสียใจให้น้อย เพราะผมมีกระปุกแยกไว้ว่าอันนี้เอาไว้แถมให้เด็กๆประจำนะ ตอนแถมให้บอกไปด้วยนะว่า"อะนี่พี่แถมให้" "วันนี้เอาอะไรดีเดี่ยวพี่แถมให้" ซึ่งส่วนนี้ไม่ได้มากมายอะไรแบ่งกำไรมาแถมคืนนิดๆหน่อย
มาอีกเรื่องหนึ่งเรื่องเขาจะคืนเงินให้เราทุกบาททุกสตางหรือไม่ สำหรับผมก็กลัวเช่นกัน(คนสมัยนี้ไว้ใจยาก คิดแต่จะโกง) นอกจากทำสัญญาใช้ เอกสารจนครบแล้ว ผมก็แก้ปัญหาไว้เหมือนกัน คือผมเปิดหลายจุดในเวลาเดียวกันทำ และที่สำคัญผมเน้นไว้เสมอคือ 2 พนักงานหนึ่งร้าน 1 หญึ่ง 1 ชาย และตามสัญญาหากคู่งานเชิดเงิน อีกฝ่ายต้องรับผิดชอบครึ่งหนึ่ง(และผมสอบสวนเองแน่ๆ แต่ยังไม่เคยเจอ) ดั้งนั้นหากเพื่อนร่วมงานผมคิดจะโกงและเชิดเงินไปก็ต้องทำทั้งสองคนถึงจะ สำเร็จ และเงินที่ขายได้ต่อวันก็แค่ไม่กี่พันดังนั้นเอาไป2ก็หารกันไม่คุ้มแน่ๆ แถมโดนแจ้งความอีก แต่หากถ้าเขาโกงไปทั้งคู่จริงๆผมก้ไม่รู้จะพูดยังไงละคงต้องได้แต่ฟ้องและ ตามเรื่องกันต่อไป (โกงผมไม่เคยโดน โดนแต่ทำตามที่สั่งไม่ได้ คัร้งแรกๆไม่เท่าไหร่ เยอะไปผมใล่ออกครับ ให้โอกาศและคุยแล้ว)
ที่มา: http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=328872.0