เห็นโฆษณาประชาสัมพันธ์ในเว็บไซค์ .."รับสอน ซ่อมเป็นแน่นอน ใช้เวลาไม่มาก" อ่านแล้วน่าสนใจ คิดอยากจะไปเรียนบ้างเหมือนกัน ..แต่ก็สงสัยว่าอาชีพนี้ยังพอไปได้หรือไม่ ในปัจจุบัน ..เพราะปัจจุบัน เห็นมีผู้รู้ ถ่ายทำเป็นคลิป วิธี ซ่อม-วิธีแก้ไข แนะนำในเว็บโดยทั่วไป แล้วทำให้งานที่จะเข้าไปหาช่าง (อาชีพ) ลดน้อยลงหรือไม่ ? ..จึงใคร่ขอคำแนะนำจากท่านผู้มีประสพการณ์ หรือท่านผู้ประกอบอาชีพนี้อยู่ ..ขอบคุณครับ
ยังไปได้เรื่อยๆครับ แต่ท่านต้องจับตลาดให้เป็น
สมัยนี้ถ้าเน้นช่อม LED ทีวี อยู่ได้ยากเพราะถ้าช่อมราคาแพงลูกค้าไม่ช่อม ชื้อใหม่ถูกกว่า เช่น PANEL เสีย ถ้าจะช่อมก็ต้องลองเสี่ยงกัน ( ทั้งการกรีดวงจรที่จอ หรือ แปะ เทปใส ) ชึ่งถ้าทำไปแล้วบางทีก็ใช้ได้นาน บางทีก็ใช้ได้ไม่นาน ส่วนการช่อมอื่นๆ เช่น ภาคจ่ายไฟ , อินเวอร์เตอร์ ,T CON , เมนบอร์ด พวกนี้ช่อมได้ แต่สำคัญที่อะไหล่ไม่ค่อยจะมีเปลี่ยนจึงต้องเปลี่ยนทั้งบอร์ดทำให้ราคาแพง
ถ้าท่านจะให้ร้านอยู่ได้ สมัยนี้ต้องเน้นเครื่องเสียงรถยนต์ เช่น ช่อมวิทยุเทป - CD รถยนต์ , POWER AMP คลาส D , คลาส AB , เครื่องเสียงบ้าน เครื่องเสียง PA ที่กำลังวัตต์สูง (พวกนี้ช่อมได้กำไร ถ้าช่อมเป็น เปลี่ยนอะไหล่เป็นกำ ฮ่าๆ )
ช่อมเครื่องเสียง กำไรดี เพราะชื้อใหม่ ก็ไม่ได้เสียงดีเท่ารุ่นเก่า เพราะฉะนั้น ลูกค้าจึงนิยมช่อมกัน
อีกอย่าง ช่อมแอร์ด้วยยิ่งดีงานไม่ยากกำไรดีพอได้
ถ้ามีความรู้ด้านอิเล็คทรอนิกส์ ไปเรียนรู้ระบบแอร์ช่อมแอร์ได้ง่าย เพราะแอร์ระบบใหม่เป็นระบบที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์
ลองดูครับ อาชีพนี้ยังไปได้ไกลถ้าจับถูกช่องทาง
ถ้าจะช่อมงานด้านอิเล็คทรอนิกส์ การจำตัวเสียไม่มีประโยชน์ ต้องมีหลักการในการช่อม ต้องอ่านหนังสือเยอะๆจึงจะทำได้
ส่วนที่ว่า
" เพราะปัจจุบัน เห็นมีผู้รู้ ถ่ายทำเป็นคลิป วิธี ซ่อม-วิธีแก้ไข แนะนำในเว็บโดยทั่วไป แล้วทำให้งานที่จะเข้าไปหาช่าง (อาชีพ) ลดน้อยลงหรือไม่ ? "
หลักวิชา ไม่มีใครเขาให้ง่ายๆหลอกครับถ้าไม่สนิทกันจริงๆ บางทีดูแล้วทำงานง่ายก็จริง แต่ถ้าเราไม่มีความรู้พอเปลี่ยนตัวที่เขาบอกแล้วทำงานไม่ได้ ต่อไปก็ไปไม่เป็นแล้วว่าจะทำยังไงต่อ
เช่น แอร์ คอมเพลสเชอร์ไม่ทำงาน ไปอ่านดูในเว็ปหลายคนบอกให้เปลี่ยน CAP ถ้าเปลี่ยนหายก็ดีไป แต่ถ้าเปลี่ยนแล้วไม่หายจะไปต่ออย่างไร
ถ้าเป็นช่างไปช่อมเขาจะมีวิธีเช็คว่า CAP เสียจริงหรือไม่ ถ้าเสียจริงค่อยเปลี่ยน ถ้า CAP ไม่เสียค่อยไปดูจุดอื่นต่อ ( จริงๆ ถ้าท่านเรียนมา เช็ค CAP วัดแค่ครั้งเดียวก็รู้แล้วว่าเสียหรือไม่ )
นี่ยังไม่รวมการช่อมแอร์แบบอินเวอร์เตอร์นะ ชึ่งมีรายละเอียดเยอะกว่านี้
ทำงานประจำอยุ่หลังเลิกงานเคยรับงานซ่อมอยุ่ นานล่ะตอนนั้นทีวีแพง ซ่อมง่ายอะไหล่มีเยอะ งานเยอะไม่มีเวลาใช้เงินเลย แต่ตอนนี้เลิกไปแล้วตั้งแต่สินค้าราคามันถูกแต่ค่าแรงกลับแพงขึ้น ...อยากคิดกลับมาซ่อมอีกเหมือนกัน เพราะเป้นงานไม่หนัก ....ลองดูครับ
ผมเปิดร้านซ่อมมา 6 ปีแล้ว พบว่า
สมัยนี้ต้องซ่อมให้เป็นหลายอย่างครับ ซ่อมทีวี ซ่อมคอมพิวเตอร์ เดินสายแลนติดตั้งระบบ network ทำระบบกล้องวงจรปิด ซ่อมแอร์-ตู้เย็น ซ่อมมือถือ ซ่อมหม้อหุงข้าว ซ่อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ซ่อมเตาไมโครเวฟ ซ่อมพัดลม ซ่อมเครื่องซักผ้า ซ่อมเตารีดไอน้ำ ซ่อมกระติกน้ำร้อน ติดตั้งจานดาวเทียม-ทีวีดิจิตอล เพื่อให้เรามีงานเข้าร้านมากๆ สมัยนี้ค่าเช่าตึกแพงมาก ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรเช่าเขา ถ้าทำที่บ้านเราได้ ไม่เสียค่าเช่าจะดีกว่า อาศัยการโฆษณาในเน็ตหาลูกค้า เรื่องเทคโนโลยี่ไม่มีปัญหาครับ พวกช่างซ่อมเขามีสมาคมของเขา มีการเปิดอบรมเทคนิคการซ่อมใหม่ๆอยู่ประจำตลอด ถ้าหาลูกค้าเก่ง ซ่อมเก่ง ระดับ 50K ต่อเดือน ไม่ใช่เรื่องยาก
คิดแล้วต้องลงมือทำ เมื่อลงมือทำแล้วก็จะมองเห็นก้าวที่ 2-3-4...........ไปเรื่อยๆ เราก็ปรับธุรกิจเราไปตามกระแสโลก รับรองว่าไม่มีตัน
ที่มา:
https://pantip.com/topic/35256020