การตรวจเช็คเครื่องปรับอากาศ1. การตรวจกระแสไฟ เสียบปลั๊กสายไฟเข้ากับเต้าปลั๊ก ใช้ปลายข้างหนึ่งของสายตรวจต่อเข้ากับข้อใน และอีกขั้วหนึ่งต่อกับขั้ว ถ้าหากหลอดไฟฟ้าสว่างก็แสดงว่ามีกระแสไฟเดินไปที่อีเธอร์
2. ตรวจมอเตอร์พัดลม การตรวจมอเตอร์พัดลมเครื่องทำความเย็นหรือเครื่องระเหย ปรับสวิตซ์ไปที่ตำแหน่ง VENT ถ้าหากมอเตอร์พัดลมเครื่องระเหยไม่ทำงานให้ถอดฝาครอบสวิตซ์ออกไป ปลดหัวต่อจากสายเส้นที่ต่อกันไว้ออก ต่อสายตรวจเข้ากับขั้วหมายเลข 1 จากสวิตซ์และปลายสายซึ่งปลดหัวต่อออก ถ้าหากหลอดสว่างก็แสดงว่าขัดข้อง จะต้องอยู่ในตัวมอเตอร์ ปล่อยให้มอเตอร์เย็นลงประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วตรวจอีกครั้งหนึ่ง ถ้าหากหลอดไมสว่างก็แสดงว่าสวิตซ์บกพร่อง
3. ตรวจมอเตอร์พัดลมเครื่องกลั่น ให้ปรับสวิตซ์ไปที่ตำแหน่ง EXHAUST ถ้าหากมอเตอร์พัดลมเครื่องกลั่นไม่ทำงาน ให้ถอดฝาครอบที่สวิตซ์ออก ปลดหัวต่อจากสาย 4 เส้น ที่ต่อกันไว้ออก และแต่งสายตรวจเข้ากับขั้ว 3 ของสวิตซ์กับปลายสายที่ต่อกันอยู่ ถ้าหากหลอดไฟสว่างก็แสดงว่าขัดข้องอยู่ในมอเตอร์
4. คาปาซิเตอร์ (Capacitor) เครื่องส่วนมากจะใช้อิเล็กโตรลิติกคาปาซิเตอร์ ในวงจรของขดลวดเริ่มทำงานของมอเตอร์ ทั้งนี้ เพื่อให้มีแรงในการเริ่มทำงานของมอเตอร์สูงขึ้น ถ้าหากคาปาซิเตอร์เกิดวงจรลัดขึ้นภายในมอเตอร์จะไม่ทำงาน ถ้าหากคาปาซิเตอร์ไหม้ให้เปลี่ยนาคาปาซิเตอร์และทดลองใหม่
5. ตรวจรีเลย์ ก่อนจะตรวจรีเลย์ให้ตรวจคาปาซิเตอร์ก่อน เพราะว่าถ้าหากคาปาซิเตอร์เกิดวงจรลัดภายในจะทำให้ตรวจรีเลย์ไม่แน่นอน การตรวจรีเลย์ทำดังนี้ ให้ถอดฝาครอบหีบสวิตซ์ของเครื่องทำความดันออกให้สวิตซ์ไปอยู่ในตำแหน่ง off ต่อสายตรวจระหว่างขั้ว S ของรีเลย์ และขั้ว S ของมอเตอร์ปรับสวิตซ์ไปที่ตำแหน่งทำความเย็น หลอดไฟควรจะมีแสงชั่วขณะเดียวเท่านั้น เมื่อเครื่องทำความเย็นเริ่มทำงาน ถ้าเครื่องทำความเย็นไม่ได้ทำงาน หลอดไฟควรจะมีแสงหรี่ ๆ เท่านั้น จนกว่าจะตัดสวิตซ์ หรือจนกว่าเครื่องป้องกันจะทำงาน
6. ถ้าหากหลอดไม่สว่าง ให้ตรวจสภาพของการทำงานเกินอัตราถ้าไม่มีการทำงานโดยปกติแล้วให้เปลี่ยนรีเลย์
7. การรั่ว ในกรณีที่เครื่องกลั่นเกิดมีรอยรั่วขึ้น เช่น ตามรอยต่อต่าง ๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่หมด การรั่วมักจะตรวจพบได้โดยมีน้ำมันเกิดขึ้นรอบ ๆ บริเวณที่มีการรั่วเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี อย่าเพิ่งทักเอาว่า การเกิดน้ำมันที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของเครื่องจะเริ่มมาจากการรั่วเสมอไป จะต้องพิสูจน์โดยวิธีการตรวจการรั่วเสมอ
8. เครื่องกรอง เครื่องกรองควรจะได้ทำการตรวจโดยมีกำหนดการถอดเครื่องกรองทำได้ไม่ยาก เมื่อถอดแล้วก็ทำความสะอาดเสีย
9. การทำความสะอาดตามกำหนดเวลา เป็นที่เชื่อได้ว่า เครื่องปรับอากาศจะทำงานได้ผลดีที่สุด ถ้ามีการเปลี่ยนเครื่องกรองทุก ๆ ปี และทำความสะอาดตามความจำเป็น
10. การทำคามสะอาดภายใน ภายในตัวเครื่องควรจะได้ทำความสะอาดเป็นครั้งคราว เพื่อกำจัดฝุ่น น้ำมัน สิ่งสกปรกอื่น ๆ สิ่งที่ควรสนใจเป็นพิเศษควรจะเป็นขดท่อกลั่น ขดท่อทำความเย็น และทำความสะอาดเป็นประจำจะทำให้เครื่องทำงานได้ผลดีตลอดเวลา
การแก้ข้อขัดข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการตรวจแก้ไขข้อขัดข้อง1. เครื่องไม่ทำงาน ฟิวส์ขาด ต้องเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ สายต่อทางไฟขาด หรือหลวมต้องเปลี่ยนใหม่ และทำให้แน่น สวิตซ์บกพร่อง ซ่อมหรือเปลี่ยนสวิตซ์ แคปาซิเตอร์ควรตรวจและเปลี่ยนใหม่ รีเลย์บกพร่องตรวจรีเลย์ป้องกันมอเตอร์
2. ความเย็นไม่พอ แรงไฟฟ้าเข้าเครื่องต่ำ ตรวจแรงไฟฟ้าด้วยโวลท์มิเตอร์ เครื่องกลั่นสกปรก ทำความสะอาดให้หมด สวิตซ์บกพร่องซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ มอเตอร์พัดลมไม่ทำงาน ตรวจสายต่อมอเตอร์แคปาซิเตอร์และรีเลย์ เครื่องกรองอากาศสกปรก ทำคามสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่
ขอบคุณที่มา :
http://www.chiangmaiaircare.com/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b9%87%e0%b8%84-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a8/