ต้องแก้ตัวไหนครับ ?
Cap start (คาปาซีสเตอร์) ของ ตัวพัดลม เสีย ( บางคนเรียก Cap Run บางที่เรียก Cap Start )
มีหน้าที่ สตาร์ทมอเตอร์ให้หมุนได้ .. มันจะทำให้ กระแสไฟฟ้าของขดลวด Start เกิด Phase shift เมื่อเทียบกับขดลวด Run ... ทำให้สนามแม่เหล็กเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน Shiftนิดหน่อย แล้วแต่ผู้ผลิตออกแบบมา ว่าจะใช้ ค่า C เท่าไหร่ .. มอเตอร์ก็จะหมุนได้ เมื่อ หมุนแล้วก็ยังคงจ่ายกระแสไฟต่อไปอีก
ตัว สีดำๆ สี่เหลี่ยมขนาดประมาณยางลบ ... อยู่ใกล้ๆกับ Control Board และ Motor
ถอดออกมา ใช้โอห์มมิเตอร์ตรวจ C ว่าดีอยู่หรือไม่ ถ้าเสีย อ่านค่าว่า กี่ ไมโครฟาราด .. ก็ไปหาซื้อที่ร้านอมร หรือร้านแอร์ หรือร้านอิเล็กทรอนิกส์ .. ราคาไม่น่าเกิน 100 บาท ไม่แพง
แต่
.. คำเตือน ปิดไฟ ก่อนแกะเครื่อง ระวังไฟดูด .. ความปลอดภัย อันนี้ราคาแพงมากกว่าครับ
ไม่แน่ใจ เรียกช่างแอร์ หรือผู้ชำนาญการ .. เป็นการกระจายรายได้ดีกว่าครับ
ตีราคา Cap 100 + ค่าน้ำมัน 200 + ค่าวิชา ค่าแรง รื้อเครื่อง 400-600 รวมประมาณ 800-900 ไม่เกิน 1000 บาท ครับ
อีกกรณีหนึ่ง ถ้า Cap ไม่เสีย .. ขดลวด Start ของมอเตอร์ ขาด
ก๊ต้องใช้มิเตอร์เช็ค ... เปลี่ยน มอเตอร์ ครับ
อันนี้ใช่ Cap start ไหมครับ
อันนี้เป็น Relay บน Control Board .. มีหน้าที่ ควบคุม Condensing Unit (คอม,Fan ข้างนอก) ครับ
ดูดีดี ไล่สาย ที่ต่อไปหา Blower Motor จะมี ระหว่างทางจะมี Cap ขั้นอยู่ จะซ่อนไว้แถวๆ หลังกล่อง พลาสติกที่ ครอบ บอร์ด
ลองดูใหม่ครับ ใกล้สำเร็จแล้ว
แอร์ที่บ้านตัวนึง เปิดติดแต่ไม่เย็น เครื่องที่อยู่ด้านนอกบ้านพัดลมไม่หมุนเลย เรียกช่างค่าซ่อมเท่าไหร่ครับ
เป็นไปได้ 2 เคส ในกระทู้ที่เขียนไว้
- แอร์เก่า Relay เสีย ที่ Condensing Unit (ข้างนอก) .. รีเลย์ 200-300 บาท + ค่าน้ำมัน 200 + ค่าวิชา ค่ารื้อ ค่าแรว 400-600 บาท ไม่น่าเกิน 1100 บาท
- กรณีที่ Relay อยู่ที่แผงควบคุม ภายในห้อง (ส่วนมากแอร์ตัวเล็ก รุ่นใหม่ ชอบทำแบบนี้ ... บอร์ควบคุมอาจจะเสียในส่วน Relay หรือวงจรควบคุมรีเลย์ ..
ถ้าช่างไม่รู้ลึก ทางอิเล็กทรอนิก ก็จะซ่อมไม่ได้ (ซ่อมได้ก็เทพมาก) พิจรณาเปลี่ยนบอร์ด
800-1400 บาท แล้วแต่แบรน + ค่าน้ำมัน 200 + ค่าวิชา รื้อ แรงงาน 400-600 บาท...ไม่เกิน 1600-2000 บาท
ประมาณนี้ครับ
ที่มา:
https://pantip.com/topic/36912949