ผู้เขียน หัวข้อ: โดยทั่วไป ค่าบริการซ่อมแอร์รั่ว คิดกันเท่าไหร่ครับ  (อ่าน 1160 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Master

  • [color=Turquoise][i]"อาจจะเหนื่อยล้าและมีผิดหวัง แต่ยังมีพรุ่งนี้ให้เราได้เริ่มกันใหม่ ทุกชีวิตที่อยู่ในเมืองนี้ สักวันก็คงได้สมดังใจ ... "[/i][/color]
  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 487
  • พอยท์: 0
    • ดูรายละเอียด
โดยทั่วไป ค่าบริการซ่อมแอร์รั่วที่คอยล์ร้อน คิดกันเท่าไหร่ครับ

วันก่อนแอร์เป็นน้ำแข็ง จะไปตามช่างคนทำมาดูดันออกไปแล้ว

ให้ช่างคนใหม่มาดูเค้าบอกว่าแอร์รั่ว ซึ่งน่าจะรั่วที่คอยล์ร้อน

เพราะมีรอยคราบน้ำมันเครื่องย้อยออกมา ติดอยู่กับที่รอง

ผมก็เคือง เนื่องจากมันรั่วมา2ทีแล้ว เมื่อเดือนธันวากับล่าสุดกุมภา

มาวันนี้ร้าวกับปัญหานี้ ช่างก็ยังมีหน้ามาบอกให้เค้าทำมั๊ย

คิดค่าตรวจซ่อม 1800 รับประกัน3เดือน ด้วยอารมณ์นิดๆ

ผมก็สวนกลับไปว่าทั้งๆที่ไอ้ช่างคนเก่า มันก็บอกแบบนี้

รับประกัน3เดือน พอ3เดือนเป๊ะเป็นเลย ช่างบอกว่ามันอาจจะรั่วซึม

เป็นจุดเล็กๆ จึงใช้ได้นาน ถ้าไม่เชื่อก็ลองเติมน้ำยาได้ คือใช้ไปก่อน

แล้ววันจันทร์ค่อยมาทำ (วันนั้นวันศุกร์) ในความหมายเค้าคือเติมครั้งนึง

มันก็อาจจะอยู่ได้อีก3เดือน โดยคิดปอนด์ล่ะ10บ.

วัดน้ำยาได้20จึงเติมไปอีก50ปอนด์ =500บาท เรื่องนี้ผมก็ถามเค้าดู

เพราะอ่านเจอมาว่าแอร์เครื่องนึงเติมน้ำยาได้เต็มที่2ปอนด์

"หากช่างบอกคุณว่าน้ำยาแอร์คุณขาด คุณกำลังโดนหลอกแล้วเพราะว่าน้ำยาแอร์บ้านในระบบจะมี อยู่ 1 กก (2ปอนด์)เท่านั้นแล้วช่างมันเติมยังไงให้ได้ถ ึง 80 ปอนด์ แล้วปอนด์คืออะไร ปอนด์/ตารางนิ้ว เป็นหน่วยแรงดันไม่ใช่น้ำหนักช่างมักจะปล่อยน้ำยาแอร์แล้วบอกคุณว่าขาดไปเท่านั้นเ ท่านี้ แล้วคิดจำนวนปอนด์ราคาให้คุณเสร็จแต่เค้าเติมน้ำยาให ้คุณไม่ถึง 50 บาท เพราะว่ามันเติมได้แค่ 1 กก หรือ  2ปอนด์แ ละเท่าที่ทราบถังนึงก็แค่ 200 บาทน้ำยาแอร์กก.ล่ะ 100 บาท และเปรียบเทียบก็เหมือนตู้เย็นที่มันยังเย็นได้ตลอดอ ยู่หลายปีโดยไม่ต้องเติมน้ำยาแอร์เลย"

ช่างมันบอกไม่รู้ท่าเดียวเลย ที่วิทยาลัย สารพัดช่างเค้าสอนผมมาอย่างนี้ ผมก็ว่าตามนี้อ่ะครับ ถ้าพี่ทำก็1800

ไปทำยังไงค่าซ่อมถึง1800 เป็นราคาทั่วไปหรือป่าวครับ    ขอบคุณครับ


 
 ตรงที่วงกลมสีแดงอ่ะครับ พอไขออกมาจะมีรอยคราบน้ำมันเยิ้มออกมานิดๆ
 
 ซึ่งครั้งแรกก็รั่วที่นี่ครับ  เค้าแค่มาเติมน้ำยาและไขให้มันแน่นขึ้น และล้างแอร์
 
 
 



อันที่จริงค่าซ่อมทั้งหมด ราคา๑๘๐๐บาทก็ไม่ได้เกินเลยไปมากมายนักหากทำตามสิ่งที่ต้องทำจริงๆ
 ค่าซ่อมครบชุดจริงๆคือ ค่าแรงช่าง ค่าเครื่องมือ ค่าวิชา ค่าน้ำยา ค่าแว๊คควั่ม ค่าเสียเวลา
 แต่หากจะบอกดื้อๆว่าเป็นค่าน้ำยา ๑๘๐๐บาท ก็แพงไปหน่อย
 
 การซ่อมกรณีนี้ ควรจะปล่อยน้ำยาออกให้หมดไปเลย เพราะของเก่าอาจจะมีอากาศ,ไอน้ำเข้าไปในระบบแล้ว
 แล้วก็เชื่อมอุดรอยรั่ว
 อุดเสร็จต้องแว๊คระบบให้เป็นสูญญากาศ แล้วเติมน้ำยา
 ต้องใช้แรงงานช่าง๒คนรวมช่างและลูกมือ น้ำยาใหม่ ๑กก. เสียเวลาไปครึ่งวัน
 
 งานแบบนี้บอกยากว่าซ่อมจุดนี้แล้ว จุดอื่นจะไม่รั่วอีก อันมีเหตุมาจากการผลิต และการซ่อมครั้งนี้และครั้งก่อนๆ
 คนซ่อมก็อยากจะให้ไม่มีปัญหาต่อเนื่อง น้อยคนนักที่อยากจะวางยาให้ลูกค้ามีปัญหา
 แต่ระดับความรู้ความสามารถความซื่อตรงของคนเรา ไม่เท่ากัน ต้องพิจารณาความเหมาะสมเป็นรายๆไป
 อย่างครั้งนี้ เราเรียกว่าไม่ฟันมากมายนัก แม้จะบอกค่าน้ำยาเป็นปอนด์แรงดันไม่ใช่ปอนด์น้ำหนัก ก็ต่อรองราคากันดู



แอร์ขนาดเท่าไหร่ ยี่ห้อหรือประกอบ จะได้แนะนำถูก เพราะราคานี้ ผมเคยเรียกช่างมาซ่อมรั่ว ที่แผงคอยร้อน แต่เป็นขนาด 48000 btu 1800 รวมทุกอย่าง ค่าน้ำมัน ค่าเชื่อม ค่าน้ำยา



อันที่จริงค่าซ่อมทั้งหมด ราคา๑๘๐๐บาทก็ไม่ได้เกินเลยไปมากมายนักหากทำตามสิ่งที่ต้องทำจริงๆ
ค่าซ่อมครบชุดจริงๆคือ ค่าแรงช่าง ค่าเครื่องมือ ค่าวิชา ค่าน้ำยา ค่าแว๊คควั่ม ค่าเสียเวลา
แต่หากจะบอกดื้อๆว่าเป็นค่าน้ำยา ๑๘๐๐บาท ก็แพงไปหน่อย

การซ่อมกรณีนี้ ควรจะปล่อยน้ำยาออกให้หมดไปเลย เพราะของเก่าอาจจะมีอากาศ,ไอน้ำเข้าไปในระบบแล้ว
แล้วก็เชื่อมอุดรอยรั่ว
อุดเสร็จต้องแว๊คระบบให้เป็นสูญญากาศ แล้วเติมน้ำยา
ต้องใช้แรงงานช่าง๒คนรวมช่างและลูกมือ น้ำยาใหม่ ๑กก. เสียเวลาไปครึ่งวัน

งานแบบนี้บอกยากว่าซ่อมจุดนี้แล้ว จุดอื่นจะไม่รั่วอีก อันมีเหตุมาจากการผลิต และการซ่อมครั้งนี้และครั้งก่อนๆ
คนซ่อมก็อยากจะให้ไม่มีปัญหาต่อเนื่อง น้อยคนนักที่อยากจะวางยาให้ลูกค้ามีปัญหา
แต่ระดับความรู้ความสามารถความซื่อตรงของคนเรา ไม่เท่ากัน ต้องพิจารณาความเหมาะสมเป็นรายๆไป
อย่างครั้งนี้ เราเรียกว่าไม่ฟันมากมายนัก แม้จะบอกค่าน้ำยาเป็นปอนด์แรงดันไม่ใช่ปอนด์น้ำหนัก ก็ต่อรองราคากันดู



R22 ความดันปกติด้าน low (ด้านดูดของ comp -- คือตรงที่มี service valve นั่นเอง)
(service valve ก็คือ สิ่งที่ดูคล้ายๆ จุกเติมลมยาง)
เท่ากับ 75 psi โดยประมาณ
ถ้าแอร์รั่ว ความดันจะต่ำกว่านี้ เช่น 40-50 psi ลมที่ออกมาจากแอร์จะไม่เย็น
เอามือแตะสัมผัสคอล์ยเย็น จะพบว่าเย็นเพียงบางส่วน
ถ้าความดันต่ำกว่านี้อีก คอล์ยเย็นส่วนหนึ่งจะมีน้ำแข็งจับ
สาเหตุที่ความดันลดลงไปกว่าเกณฑ์ เพราะมีการรั่ว(ที่จริงคือซึมๆออกมา)
ตรงจุดที่รั่ว จะปรากฏเป็นคราบคล้ายๆน้ำมันเครื่อง(น้ำมันคอม)
การเติมน้ำยา ต้องเติมให้ได้ความดัน 75 psi
psi คือหน่วยความดัน ปอนด์/ตารางนิ้ว
เครื่องแอร์ คห 6 บรรจุน้ำยาหรือสารทำความเย็นได้ 0.95 kg
อยากทราบว่าเติมน้ำยาเท่าใด ให้นำถังR22มาวางบนตาชั่ง
สมมุติก่อนเติม อ่านได้ 4.5 kg หลังเติมจนได้ 75 psi อ่านน้ำหนักได้ 4.2 kg
แสดงว่าเติมน้ำยาไป 0.3 kg (30 บาทมั๊ง)
1800 มากหรือน้อย ผมไม่ทราบเลย เพราะหน้าที่ผมซ่อมอย่างเดียว หน้าที่คิดเงินเป็นบอส
แต่ผมว่าแล้วแต่ค่าครองชีพแถวนั้นด้วย
ถ้าตามบ้านนอกกันเองญาติๆไม่เอากำไรผมว่า 500-1000 ก็อาจรับได้
ถ้าในเมืองใหญ่ มาไกล รถติด แอร์สูง ปีนยาก มันคงแพงขึ้นหละ

อยากทำเอง ต้องมีอะไรบ้าง
1 manifold guage
2 ถัง R22
3 clamp amp meter
4 บันได
5 ไขควง ประแจ
6 multimeter
7 เทปพันสาย พันเกลียว
8 ที่บานท่อ ชุดflare
9 ถังแกสและO2 และ regulator
10 หัวเชื่อมและสายแกสยาวๆ
11 ไฟแชก
12 ลวดเชื่อมเงินและ flug
13 รถกะบะ หรือ รถพ่วง
14 ลูกน้อง
15 ถุงมือ แว่นเชื่อม เลื่อยตัดเหล็ก



เรื่องน้ำยาขาด,น้ำยารั่วไม่ใช่เรื่องปกติ อย่าไปลงทุนซื้ออุปกรณ์มาทำ,ซ่อมเองเลย
 
 
 



แหม ....ขอเล่าประสบการณ์เล็กน้อยบ้าง
 
 ปกติผมล้างแอร์เอง (2 ปีแรก)  ขึ้นปีที่ 3  ให้ช่างแอร์ มาล้าง ....และ พี่เขาก็ เช็คแรงดันน้ำยาให้ ฟรี......โอ..ของฟรี ปรากฎว่า แรงดันลด ต้องเติมน้ำยา ..อ้าว....ผ่านไป 3 เดือน ...คอล์ยเย็นเป็นน้ำแข็ง ...เลยถามพี่ที่เป็นช่างแอร์ที่ทำงานบอกว่า น้ำยาแอร์หมด เลยหาข้อมูลเจอข้อมูลของพี่ต้นโพธิ์ฯ .......เลยให้ช่างคนเดิมมาดู เติมน้ำยา และบอกต้องหารอยรั่ว ค่าซ่อมบาน......เลยตัดสินใจเติมน้ำยาอย่างเดียว ...ผ่านไปอีก 3 เดือน เป็นอีก.........3 ครั้ง..........ครั้งสุดท้ายเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ผมถือคีมขึ้นไปด้วย หลังจากเติมน้ำยาเสร็จ ผมบอกเดี๋ยว อย่าพึ่งปิดฝาครอบ
 
 ผมเอาคีมหมุนตรงจุกเติมน้ำยาที่เป็นทองเหลือง (เรียกไม่ถูก)..เข้าไปอีก ครึ่งรอบ... ผ่านมา 6 เดือน ยังเย็นอยู่
 
 นึกถึงประโยคของพี่ต้นโพธิ์ฯ เลย "   แอร์ยังเย็นอยู่ ไม่ต้องเช็คน้ำยา ".....




 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 พฤศจิกายน 2017, 12:45:05 โดย Master »