บ้านเราเป็นเมืองร้อน แอร์รถยนต์จึงมีความสำคัญมาก ขอนำข้อมูลการใช้แอร์รถยนต์อย่างถูกวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งาน จะได้ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายในเวลาที่ยังไม่ควร ดังนี้
เมื่อเปิดแอร์ตอนแรก หรือ เมื่อมีอากาศร้อนจัด ให้หลีกเลี่ยงการเร่งแรงพัดลม และน้ำยาแอร์แบบสุดสุด เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์เกิดการสึกหรอเร็วมากขึ้น แนะนำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ได้วอร์มสักพักก่อน สตาร์ตเครื่องยนต์และให้เครื่องยนต์ถึงอุณหภูมิทำงาน (พัดลมระบายความร้อนหม้อน้ำทำงาน) ก่อนสัก 5 นาที จึงเปิดสวิตช์ระบบปรับอากาศ
การปิดแอร์รถยนต์อย่างถูกต้อง ก่อนดับเครื่องยนต์ควรปิดสวิตซ์ระบบปรับอากาศ (A/C) ก่อนถึงจุดหมายปลายทางประมาณ 1 นาที และเปิดพัดลมไปที่ตำแหน่งแรงสุด เพื่อไล่ความชื้นออกจากคอยล์เย็น และยังช่วยลดและป้องกันปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นอับในรถยนต์ได้อีกด้วย
การตั้งอุณหภูมิ ไม่ควรตั้งอุณหภูมิให้เย็นสุดเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา แนะนำให้ตั้งอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 25 องศา เป็นค่ามาตรฐานจะดีที่สุด
การใช้สวิตช์พัดลม เมื่อเปิดแอร์ควรเปิดสวิตช์พัดลมให้แรงก่อนประมาณ 1 นาที เพื่อระบายความร้อนออกก่อน แล้วจึงกดสวิตช์ระบบปรับอากาศ (A/C) และปรับอุณหภูมิตามต้องการ
การดูแลรักษาคอยล์เย็น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอม หรือสเปรย์ปรับอากาศ เพราะไอระเหยของสารเคมีที่ใช้จะถูกดูดเข้าไปสะสมตัวที่ครีบเล็กๆ ของคอยล์เย็น สารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการดูดความชื้น ทำให้ฝุ่นผงไปจับตัวที่ครีบระบายความเย็นมากกว่าปกติ ความสามารถในการถ่ายเทความร้อนจะลดลง คอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานมากขึ้น หากรู้สึกว่าประสิทธิภาพในการทำความเย็นของรถของเราน้อยลง แนะนำให้นำรถเข้าทำความสะอาดคอยล์เย็นครับการดูแลรักษาทั่วไป เมื่อแอร์ไม่เย็น ทั้งที่เปิดน้ำยาแอร์แล้ว เปิดสวิตช์ A/C แล้ว ควรปิดสวิตช์ A/C ทันที แล้วควรนำรถไปเช็กให้เร็วที่สุด เพราะหากเกิดการรั่วในระบบ น้ำยาแอร์และน้ำมันคอมเพรสเซอร์จะมีน้อยมากในระบบ จะทำให้คอมเพรสเซอร์พังมากขึ้นกว่าเดิม
แนะนำให้ล้างตู้แอร์ ปีละ 2 ครั้ง หรือ 1 ครั้ง/6 เดือน เพื่อยืดอายุการใช้งานของระบบแอร์ และลดการหมักหมม ที่เป็นแหล่งเกิดเชื้อราและสิ่งสกปรกในรถยนต์ที่มา: https://www.tvpoolonline.com/content/432414
